ตั้งแต่กลับมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นธีภพ ความรู้สึกของเธอซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
หน้าตาของชายหนุ่มนั้นยังดูคุ้นเคย แต่เขาดูสุขุมมากกว่า5ปีที่แล้ว ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มทำให้รูปร่างที่สูงอยู่แล้วของเขาดูสูงสง่ามากขึ้น เขามีออร่าที่มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทำให้คนที่ได้พบเห็นรู้สึกกดดัน
ทันทีที่ได้เห็นธีภพ ภาพของความทรงจำวันเก่าๆก็ไหลเข้ามาในหัวของริศา ใบหน้าของเขาค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นแล้วก็ค่อยๆ จางหายไปเหมือนกำแพงเก่า
เหมือนเธอจะมองตัวเองในมหาวิทยาลัยกับตัวเธอเองเมื่อ 5 ปีที่แล้วยิ้มให้เธอในตอนนี้ ความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายและสวยงามที่สุดระหว่างสองคน
แต่เธอก็นึกถึงความร้ายกาจของธีภพในตอนหลัง แต่เรื่องทั้งหมดนั้น ก็ดูเหมือนจะหายไปพร้อมกับการตายของไรยา
นี่คือความมหัศจรรย์ของเวลาหรือเปล่านะ มันยังคงรูปเดิมของแต่ละคน แต่ก็เปลี่ยนแปลงแต่ละคนไปอย่างสิ้นเชิง ธีภพก็เป็นแบบนี้ ตัวเธอเองก็เช่นกัน
ตอนนี้พอคิดถึงอดีตก็สามารถเผชิญมันด้วยรอยยิ้มได้แล้ว
ธีภพเห็นริศาทันทีที่เขาเข้ามา ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกับทุกคน จากนั้นก็เกิดความคิดที่บีบคั้นหัวใจ
กี่ครั้งแล้วที่เขาตื่นจากความฝันแล้วพบว่ามีความมืดอยู่ตรงหน้า ร่างของเธอยังประทับอยู่ในใจ ตอนที่เธอเป็นนักเรียน ทำงาน แต่ละร่างนั้นคงชัดเจน
แต่จิตสำนึกของเขาบอกชัดเจนว่าเธอไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาอีกแล้ว
เธอไม่ได้เป็นของเขา
การได้เห็นแบบนี้ก็เหนือความคาดหวังแล้ว ถ้าจะไปสัมผัส คงมากเกินไป
ห้าปีแล้ว เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ในที่สุดเธอก็กลับมายืนตัวเป็นๆ ต่อหน้าเขาอีกครั้ง ไม่ใช่ภาพหลอน ไม่หายไปอีกแล้ว
พอจะก้าวเท้าอยากเดินตรงไปหาริศา ธีภพก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงเกินควบคุม มันก็ตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้เจอเธอใช่ไหม
แต่เพื่อนๆก็เข้ากันมา บดบังการมองเห็นริศาของเขา เพราะต้องทำตัวตามมารยาท เขาทำได้แค่ทักทายกันคนเหล่านั้นทีละคน
ธีภพไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังพูดอะไร เขารู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายและวิญญาณของเขาแยกออกจากกัน ร่างกายกำลังพูดคำเดิมๆ แต่วิญญาณกลับได้เดินไปอยู่ข้างหน้าสาริศา มองดูคนที่ทำให้เขาต้องคิดถึงทั้งวันทั้งคืน
เขาอยากจะเดินไปคุยกับเธอ ถามเธอว่าสบายดีไหมในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้
ในที่สุดการทักทายทางนี้ก็จบลง ธีภพอดใจไม่ไหวที่จะตามวิญญาณของเขาไป
เมื่อเห็นธีภพเดินมาหาเธอ สาริศารู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย เธอยังไม่ได้เตรียมใจที่จะเจอกับเขา เธอหลบสายตา แต่ในที่สุดสาริศาก็เลือกที่จะยืนนิ่งอยู่กับที่
จะช้าหรือเร็วก็ต้องเผชิญ
สาริศาในวันนี้ไม่ใช่สาริศาที่อ่อนแอในตอนนั้นอีกแล้ว เธอจะต้องเรียนรู้ในการรับมือกับทุกอย่าง
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” ธีภพพูดเสียงเบาแล้วมองไปที่แววตาของริศา เสียงเบามากราวกับกลัวว่าเสียงดังจะทำให้เธอกลัวยังไงอย่างนั้น
ไม่รู้ว่าทำไม หัวใจที่เต้นรัวเหมือนม้าควบเมื่อกี้ ดันสงบลงอย่างอัศจรรย์เมื่อเขายืนอยู่ต่อหน้าเธอ คำที่ถูกกล่าวอย่างสงบ ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งจะแยกจากกันไปเมื่อวานนี้
“ไม่เจอกันนานเลย” สาริศาตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ คุณเป็นไงบ้าง สบายดีไหมคะ”
“คุณล่ะ สบายดีไหม” ธีภพถามกลับโดยไม่ได้ตอบ แววตากังวลอย่างเห็นได้ชัด
เป็นอย่างที่ว่า เมื่อทั้งสองจากไป ไม่นานเรื่องซุบซิบต่างๆ ก็ดังขึ้น
"สาริศาไม่ได้แต่งงานแล้วเหรอ ทำไมถึงยังออกไปกับแฟนเก่าอยู่อีก คิดจะมีชู้หรือยังไง"
“เธอนี่ตกข่าวจริงๆเลยนะ หย่าตั้งแต่ห้าปีที่แล้วแล้ว ฉันว่าไม่ได้คิดจะมีชู้หรอก แต่จะกลับมารื้อถ่านไฟเก่ามากกว่า”
“ธีภพยังไม่แต่งงานหรือ แล้วเธอคิดว่าเขาจะเอาคนที่หย่าร้างมาแล้วเหรอ”
“พอได้แล้ว ก็แค่ออกไปด้วยกันเอง พวกเธอจำเป็นต้องพูดขนาดนี้เหรอ อีกอย่าง หย่าแล้วมันทำไม หย่าร้างผิดกฎหมายหรือยังไง!” เพราะไม่สามารถรับฟังคำนินทาส่อเสียดริศาได้อีกแล้ว มายด์ด่าดังลั่น
พวกผู้หญิงที่เม้ามอยกันเมื่อกี้ก็หน้าแดงใหญ่ มองมายด์ด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็ถูกจ้องกลับทีละคนด้วยสายตาดุดันของมายด์ ไม่กล้าที่จะพูดกันอีก
ข้างนอก ริศาและธีภพเดินไปที่สนามโรงเรียน กลับมาที่เก่าๆ ทั้งคู่ต่างเศร้ากันเล็กน้อย
“จำที่นี่ได้ไหม ตอนที่เรามาวิ่งด้วยกันเมื่อก่อน เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่สารภาพรักกับผู้ชายที่เธอชอบอย่างกล้าหาญที่นี่ แต่เรื่องครั้งนั้น…”
พูดแค่ครึ่งเดียว ธีภพก็อดหัวเราะไม่ได้ เหตุการณ์นั้นช่างเป็นเหตุการณ์ที่ตลกจริงๆ
สาริศาได้ยินก็หัวเราะด้วย “จะลืมไปได้ไง จำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นสวมชุดแต่งงาน แต่เมื่อเธอสารภาพเสร็จแล้วรอคำตอบของผู้ชายอย่างตื่นเต้น ก็พบว่าชายกระโปรงถูกเทียนที่วางไว้รอบๆไหม้ เธอไม่รู้ตัว ฉันยังจำผู้ชายคนนั้นได้ ... "
ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มและไม่พูดอะไรอีก
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ธีภพก็หันไปมองริศาแล้วถามว่า "ริศา ตอนนี้คุณยังติดต่อกับธนพัตอยู่ไหม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...