หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 38

เช้าวันรุ่งขึ้น สาริศากับธนพัตกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่ห้องอาหาร ธนพัตมองมาที่เธอ แล้วถามออกมาทันทีว่า “เมื่อคืนคุณนอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไม่เลวค่ะ” สาริศาเงยหน้าขึ้นมอง “ทำไมคุณถึงถามแบบนี้คะ”

“ผมกลัวว่าพอนอนอยู่ข้างคุณ คุณจะกลัว และนอนหลับไม่สบาย” ธนพัตจิบกาแฟ ท่าทางเรียบนิ่ง “ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถย้ายไปนอนที่ห้องรับแขกได้”

สาริศาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเข้าใจว่าเขาหมายถึงเรื่องในคืนนั้น เธอหน้าแดง แล้วพูดว่า “เราเป็นสามีภรรยากัน นอนด้วยกันก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”

ธนพัตมองไปที่สาริศา “ในคืนนั้น คุณไม่โกรธผมเหรอ?”

จนถึงตอนนี้ เขายังคงจำเรื่องในคืนนั้นได้ ตอนที่เขาเข้าใกล้สาริศา ท่าทางหวาดกลัวของเธอ และท่าทางต่อต้านนั้นทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจมาก

สาริศามองไปที่ธนพัตด้วยสีหน้าเขินอาย “ไม่โกรธค่ะ ที่คุณทำก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”

“เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ?” ธนพัตเลิกคิ้วขึ้นทันที “สมควรตรงไหน?”

“อะไรนะคะ?” สาริศาคิดไม่ถึงว่าธนพัตจะถามแบบนี้ จึงมีอาการกระอึกกระอัก แต่ภายใต้สายตาของธนพัต เธอยังคงพยายามรวบรวมความกล้า แล้วพูดว่า “เพราะเรื่องในคืนนั้น ฉันทำให้คุณเสียหน้า แล้วยังพูดถึงธีภพ เป็นธรรมดาที่คุณจะโกรธ เพราะยังไงฉันก็เป็นภรรยาของคุณ”

คิ้วของธนพัตเลิกขึ้น

แม้ว่าคำพูดของสาริศาจะคลุมเครือ แต่เขาก็ยังฟังเข้าใจ

นี่สาริศาคิดว่า เพราะความอยากเป็นเจ้าของของเขา ดังนั้นคืนนั้นเขาถึงทำอย่างนั้นกับเธออย่างนั้นเหรอ?

ธนพัตยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

“ทำไมคะ มีอะไรน่าตลกกัน” สาริศานึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป จึงเอ่ยถามอย่างกระดากอาย

ธนพัตมองหน้าสาริศา แล้วครุ่นคิด

เดิมทีเขาไม่ใช่คนที่ชอบปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นความใส่ใจของเขาที่มีต่อสาริศา หรือความหึงหวงของเขาตอนที่รู้เรื่องของธีภพ ทำให้เขาตระหนักถึงสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้

ดูเหมือนว่าเขา จะเริ่มรู้สึกดี ต่อภรรยาที่เขาแต่งงานอย่างตามใจคนนี้ซะแล้ว

หลายปีมานี้ เขานึกว่าเขาจะไม่รู้สึกมีใจให้ใครอีกต่อไป แต่คิดไม่ถึง ว่าคนคนนี้ จะปรากฏตัวออกมาแบบนี้

ที่โชคดีก็คือ เธอเป็นภรรยาของเขา

แต่น่าเสียดายก็คือ จนถึงตอนนี้เธอยังคงไม่รู้สึกตัว

เขาควรจะบอกความรู้สึกของเขาออกไปตามตรง แล้วทำการจับหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้ามากินให้เรียบ หรือควรจะพิชิตหัวใจของเธอช้าๆ ดี?

ธนพัตยกยิ้มอย่างขมขื่น

เขาไม่เคยรู้สึกรักผู้หญิงคนหนึ่งมานานแล้ว ในเวลานี้เขากลับรู้สึกว่า แค่สาริศาคนเดียว ยังจัดการยากเย็ญกว่าธุรกิจที่มีมูลค่าหลายล้านล้านเหรียญซะอีก

“โอ๊ะโอ สวัสดีครับพี่สะใภ้” พอชายคนนั้นเห็นสาริศา เขาก็รีบทักทาย และจ้องมองไปทางธนพัตที่นั่งอยู่บนรถเข็นข้างๆ “ธนพัตนายนี่ร้ายจริงๆ ไม่ยอมบอกฉันเลย ว่าพี่สะใภ้จะสวยขนาดนี้”

สีหน้าของธนพัตเรียบนิ่ง ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขาพูดเลย ก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย “นี่คือสาริศา ส่วนนี่คือเมธาวิน ”

เมธาวิน?

ด้วยสัญชาตญาณของนักข่าว เธอรู้สึกว่าชื่อนี้ฟังดูคุ้นหูมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอก็เข้าใจในทันที “อ๋อ! คุณเมธาวิน! คุณชายตระกูลเธียรนิติฐาดลใช่ไหมคะ”

ในเมือง Sมีสามตระกูลใหญ่

นำโดยตระกูลกีรติเมธานนท์ ที่ธุรกิจของตระกูลที่ใหญ่ที่สุด ต่อไปก็เป็นตระกูลเธียรนิติฐาดล ที่ทำธุรกิจด้านวงการบันเทิง และตระกูลนิธิธราสกุลที่หลายปีมานี้ค่อยๆ ตกต่ำลงไป

ส่วนเมธาวิน เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลเธียรนิติฐาดล และเป็นทายาทของตระกูลเธียรนิติฐาดลด้วย

“สวัสดีค่ะ” สาริศารู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้มทักทายอย่างสุภาพ “ฉันชื่อสาริศาค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เมธาวินมีดวงตาเรียวคมน่าดึงดูดใจคู่หนึ่ง เขาจับมือของสาริศา และยกขึ้นมาเตรียมจะจุมพิตบนหลังมืออย่างสุภาพบุรุษ

แต่ในขณะนี้เอง ธนพัตที่อยู่ด้านข้างก็ยกมือขึ้นมา แล้วคว้ามือของสาริศากลับมา

“อย่ามาแตะต้อง” ธนพัตพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ