เมื่อได้ยินออสตินพูดเช่นนี้ สาริศาก็ตกใจชะงักขึ้น และไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไรดี
“คุณริศา คุณออสติน อาหารของพวกท่านพร้อมแล้ว ขออนุญาตถามว่าตอนนี้เสิร์ฟได้เลยไหมครับ” ขณะที่สาริศากำลังอึดอัดไม่รู้จะทำอย่างไรอยู่นั้น พนักงานเสิร์ฟได้ก้าวเดินหน้ามาถามพอดี
“ค่ะ เสิร์ฟตอนนี้ได้เลย” ราวกับการคว้าฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตไว้ สาริศารีบตอบกลับคำถามของพนักงานเสิร์ฟทันที
หลังจากที่รอให้พนักงานเสิร์ฟพยักหน้าแล้วเดินจากไป สาริศาก็หันมากล่าวกับออสติน “เรื่องนี้พวกเราค่อยคุยกันทีหลัง วันนี้ตกลงกันแล้วว่าจะมาสัมภาษณ์คุณ ตอนนี้อาหารก็เสร็จแล้ว พวกเราเริ่มสัมภาษณ์กันเถอะค่ะ”
ความตื่นเต้นของสาริศา ออสตินรู้สึกเอ็นดู จึงพยักหน้าให้ความร่วมมือ อย่างไรเรื่องแบบนี้ก็ไม่ควรรีบร้อน
“ครับ พวกเราดำเนินการสัมภาษณ์ก่อนก็ได้”
ได้ยินออสตินกล่าวเช่นนี้ สาริศาในใจก็แอบโล่งอก จากนั้นก็หยิบเครื่องบันทึกเสียงที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋า
“ไม่ทราบว่าอะไรที่ทำให้คุณผันตัวมาทำอาชีพทนายความคะ”
“คุณเข้าใจบทบาทของทนายความและคุณค่าของชีวิตอย่างไรคะ"
……
คำถามของสาริศาตอนเริ่มต้นนั้นค่อนข้างดี ออสตินเองก็ให้ความร่วมมือ ความคิดเห็นมากมายที่สื่อออกมาทำให้สาริศารู้สึกชื่นชมเขามาก ไม่อยากจะเชื่อว่านี่จะเป็นคำพูดของผู้ชายเจ้าชู้ที่ตัวเองรู้จัก
แน่นอน กลับประเทศก็สามารถยืนหยัดในแวดวงการเมืองและกฎหมายได้ในเมือง s จึงไม่ต้องสงสัยด้านความสามารถทางวิชาชีพของออสติน
สัมภาษณ์มาถึงในช่วงท้าย สาริศาได้ถามคำถามซุบซิบที่สาธารณชนให้ความสนใจสองสามข้อ เช่น ข่าวลือของออสตินกับมารีดาราชื่อดัง
“ทุกคนอยากทราบว่า ข่าวลือระหว่างคุณกับคุณมารีเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
สาริศาเดิมทีไม่อยากจะถามคำถามซุบซิบนี้ แต่ว่าจำใจ เห็นได้ชัดเจนว่านักอ่านค่อนข้างสนใจเรื่องแบบนี้ เพื่อยอดขายของนิตยสาร เธอทำได้แค่ทำตามความต้องการของตลาด
“ข่าวลืออะไรครับ” ออสตินเอนหลังไปพิงเก้าอี้ เลิกคิ้วกล่าวถาม
“ว่ากันว่า พวกคุณกำลังคบกันอยู่” สาริศารู้สึกอึดอัดในใจ แต่ด้วยฐานะนักข่าวมาหลายปี เธอยังคงแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ สีหน้ายังคงมีรอยยิ้ม
ทันใดนั้นออสตินได้วางมือลงบนโต๊ะ ยกมือข้างหนึ่งเท้าคางแล้วจ้องมองสาริศาด้วยท่าทางขี้เล่น “ทุกคนอยากรู้ หรือว่าเป็นคุณที่อยากรู้ครับ”
เขาไม่ตอบกลับย้อนถาม
“สาธารณชนต่างอยากรู้เรื่องนี้มาก แน่นอนว่าเรื่องนี้รวมถึงฉันด้วย คุณจะสะดวกบอกเราได้ไหมคะ” สาริศาตอบกลับได้อย่างเป็นทางการ
“ที่แท้คุณอยากรู้เรื่องนี้เหรอครับ” เห็นได้ชัดว่าออสตินอยากฟังเฉพาะสิ่งที่เขาต้องการฟัง ยิ้มเล็กน้อย “ถ้าคุณอยากรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผมกับผู้หญิงคนอื่น ผมขอเข้าใจได้ไหมครับว่ากำลังหึงผมอยู่ "
“อะไรนะ!” สาริศาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป ให้ตายเหอะ ทำไมเธอต้องหึงด้วย เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเธออย่างไรไม่ทราบ พูดตามตรง เธอแทบอยากจะให้เขามีความสัมพันธ์กับมารีด้วยซ้ำ
“ผมบอกว่า” ออสตินยิ้มอย่างมีเลศนัย “คุณกำลังหึงผม”
ออสตินค่อย ๆ เก็บรอยยิ้มมุมปากขึ้น แววตากลับยังคงมีรอยยิ้ม น้ำเสียงนั้นเบามากราวกับกำลังจมน้ำตาย
“ช่วงนี้มารีมีคดีที่เกี่ยวกับการฟ้องร้องการเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ต้องการให้ผมช่วย ดังนั้นจึงเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง เพียงแต่ว่าบังเอิญถูกนักข่าวบันเทิงถ่ายภาพไว้ได้ ผมกับเธอเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางด้านการทำงานเท่านั้นครับ ข่าวลือต่าง ๆ ภายนอกล้วนไม่เป็นความจริง คุณไม่ต้องไปเชื่อ และก็ไม่ต้องเป็นกังวล”
“ทำไมฉันต้องกังวลด้วย” สาริศาไม่เข้าใจ
“ตอนนี้ใจผมมีเพียงคุณ” ออสตินเปล่งหนึ่งประโยคนี้ออกมา
นี่มันอะไรกับอะไรเนี่ย สาริศาถูกคำพูดเหล่านี้ทำให้สับสนวุ่นวายไปหมด การพัฒนาระหว่างเธอกับออสตินเหมือนจะอยู่เหนือการควบคุมของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ได้ เธอจะให้เรื่องแบบนี้พัฒนาต่อไปไม่ได้ เธอไม่ชอบออสติน จุดนี้เธอจะต้องอธิบายให้เขาได้เข้าใจในตอนนี้ให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถลำลึกมากไปกว่านี้
“ออสติน ระหว่างฉันกับคุณไม่ได้……” คำพูดของสาริศาเพิ่งจะเปล่งออกมา ก็ถูกเสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะขึ้น เหลือบมองดูสายที่โทรเข้ามาแวบหนึ่ง เป็นสายของพชิรา ลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายสาริศายังคงรับสายโทรศัพท์ขึ้น ไม่แน่อาจจะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกันยาก็ได้
“ริศา พรุ่งนี้มีเวลาว่างไหม” พชิรายิ้มแล้วกล่าว
“มีเรื่องอะไร” สาริศาขมวดคิ้วเบา ๆ
“ถ้าหากเธอมีเวลา ฉันอยากจะนัดเธอไปดูโอเปร่าด้วยกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...