พอธีภพกับสาริศาเดินออกไป ภายในสำนักพิมพ์ก็มีเสียงคุยกันดังขึ้นมา
สาริศาไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นประเด็นให้เพื่อนร่วมงานเอาไปคัยกัน เธอได้แต่ทำหน้าบึ้งตึง แล้วขึ้นรถไปที่TNP Groupพร้อมกับธีภพ ในระหว่างทาง จึงเหลือแค่เธอกับธีภพ และสุดท้ายเธอก็ทนไม่ได้ จึงพูดออกมาว่า “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“ทำไม? กลัวหรือไง?” ธีภพยิ้มเยาะ “เขาเป็นเพียงหนึ่งในผู้ชายที่ให้เงินคุณไม่ใช่หรือไง แค่นี้ก็กลัวแล้ว พื้นฐานทางจิตใจของคุณไม่สมกับเป็นมือที่สามที่ทำลายครอบครัวของคนอื่นเอาซะเลย”
สาริศารู้สึกว่าธีภพในตอนนี้ไม่มีเหตุผลเลย เธอไม่อยากจะพูดอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียว ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างแทน
ในที่สุดรถก็มาหยุดจอดที่ชั้นล่างของTNP Group สาริศาเดินตามธีภพเข้าไป ก่อนจะขึ้นไปภายใต้การนำทางของเลขานุการเขาจนมาถึงห้องทำงานของธนพัตอีกครั้ง
ยังคงเป็นห้องทำงานที่ออกแบบอย่างสมัยใหม่ ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถเข็นกำลังยืนมองออกไปที่หน้าต่างบานใหญ่ แสงแดดที่ส่องเข้ามาบนตัวเขา จนเกิดประกายจนแสบตา
“สวัสดีครับคุณน้า” ธีภพกล่าวทักทาย แล้วเดินไปข้างหน้าพร้อมกับสาริศา “จู่ๆ ก็บอกว่าอยากขอสัมภาษณ์กะทันหัน ผมต้องขอโทษจริงๆ นะครับ มันไม่ได้ส่งผลกระทบกับงานใช่ไหมครับ?”
ธนพัตค่อยๆ หันกลับมา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขามีสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไร แค่สัมภาษณ์เล็กน้อยเท่านั้นเอง”
สีหน้าของธนพัตสงบมาก แม้ว่าจะเป็นตอนที่เขาเห็นสาริศา ก็ไม่มีท่าทีใดๆ บนใบหน้าของเขา
“เอาล่ะ เริ่มสัมภาษณ์กันเลย” ธีภพยกยิ้มเล็กน้อย และโบกมือให้สาริศามานั่งลงบนโซฟา ธนพัตก็เคลื่อนรถเข็นไปหยุดลงฝั่งตรงข้าม โดยตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มองสาริศาเลย
“ขอบคุณสำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้นะครับคุณน้า” ธีภพยังแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเป็นการสัมภาษณ์ธรรมดาทั่วไป “ขอบคุณสำหรับการสัมภาษณ์ครั้งก่อนด้วย ยอดขายนิตยสารของเราเพิ่มขึ้นเยอะมาก”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
“บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ เราจะเน้นเรื่องรางวัลเยาวชนดีเด่นที่คุณน้าเพิ่งได้รับมาเป็นหลักนะครับ” ธีภพพูดอย่างไม่ลังเลใจ “คุณรู้สึกยังไงกับการได้รับรางวัลในครั้งนี้ครับ?”
“มันถือเป็นการยืนยันความสามารถของตัวเอง” ธนพัตพูดสั้นๆ
สองน้าหลานถามและตอบอย่างใจเย็น ส่วนสาริศาที่อยู่ข้างๆ ก็นิ่งสงบมาก
เธอเข้าใจธีภพดี บรรณาธิการผู้สง่างามถึงขั้นมาสัมภาษณ์ด้วยตนเอง แน่นอนว่า เขาต้องคิดจะทำอะไรบางอย่างแน่น่อน
หรือว่า?
สาริศานึกถึงรูปถ่ายเมื่อวานนี้ และใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวไปทันที
หรือว่าเขาจะเอารูปถ่ายพวกนั้นให้ธนพัตดู?
เธอไม่รู้จริงๆ ว่าถ้าธีภพรู้ว่าเธอคือภรรยาของธนพัต เขาจะรู้สึกยังไง
พอนึกถึงภาพเหตุการณ์นั้น สาริศาอดที่จะตัวสั่นเทาไม่ได้
ช่างเถอะ ขอให้วันนั้นมาช้าสักหน่อยเถอะ
ส่วนอีกด้าน หลังจากฟังคำถามของธีภพ ธนพัตก็เข้าใจความคิดของธีภพขึ้นมาทันที
ธนพัตเหลือบมองเล็กน้อย แล้วเห็นรอยยิ้มที่พยายามปิดไว้บนใบหน้าของสาริศา
มุมปากของธนพัตก็ยกยิ้มอย่างห้ามไว้ไม่ได้
เธอคงจะรู้สึกว่ามันน่าสนุกสินะ? ในเมื่อเธอรู้สึกสนุก เขาก็ไม่รังเกียจที่จะเล่นไปกับเธอด้วย
“ภรรยาของฉัน เป็นคนเรียบง่ายและใจดีจริงๆ” หลังจากพูดจบ ธนพัตก็พูดต่อช้าๆ “เธอเป็นที่คนขี้อายมาก ถึงจะแต่งงานกันแล้ว แต่เธอมักจะหน้าแดงใส่ฉันตลอด ดูน่ารักมาก”
สาริศาชะงักงัน เธอมองไปทางธนพัต แต่คิดไม่ถึงว่าพอเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นธนพัตกำลังยกยิ้มอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...