บางครั้งสาริศาก็นึกคิด หรือว่าในตอนนั้นพชิราจะไม่ได้ไปต่างประเทศ
แต่เธอก็แค่คิดเท่านั้น
บางครั้งเธอคงจะคิดมากไปเอง ดังนั้นจึงไม่คิดมากอีก เพราะสุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์อะไร จึงไม่อยากจะเสียเวลามาคิดอีก?
หลังจากที่สาริศาคิดได้แบบนั้น เวลาที่เอามาคิดเรื่องพชิราก็น้อยลง
“ริศา คุณกำลังทำอะไรอยู่ครับ” จนถึงช่วงบ่ายของวันนี้ สาริศาเลิกงานกลับมาถึงบ้านแล้ว
ธนพัตรู้สึกเบื่อจึงมายืนข้างสาริศา มองเธอกวักน้ำในบ่อปลาเล่น
ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ธนพัตจึงกอดสาริศามาจากด้านหลัง แล้วก้มหน้าลงไปสูดกลิ่นหอมที่ลำคอของเธอ
การกระทำนี้ทำให้สาริศารู้สึกจั๊กจี้ที่คอเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่พูดอะไร ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงปล่อยให้ธนพัตทำตามใจชอบ
“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่รู้สึกเบื่อๆ ” สาริศามองดูปลาในบ่อน้ำและตอบคำถามของธนพัต
“หืม เบื่อ? ถ้าอย่างนั้นเรามาทำอะไรที่น่าสนุกกันดีกว่า” หลังจากธนพัตพูดจบ เขาก็กัดติ่งหูของสาริศาเบาๆ
ทำแบบนี้ทำให้ร่างกายของสาริศาสั่นเทาเล็กน้อย พอคิดว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในห้องนอน ถ้าทำอะไรในที่สาธารณะคงจะไม่ดี
ดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือออกไปผลักธนพัตออกห่าง แต่ระดับธนพัต จะปล่อยให้เธอผลักออกไปอย่างง่ายดายได้ยังไง
ดังนั้นจึงยิ่งร้อนแรงขึ้น จนพวกเขาได้ยินเสียงร้องเรียกดังมาแต่ไกล จึงทำให้พวกเขาสงบลง
“คุณพ่อคุณแม่ครับ นี่คุณพ่อคุณแม่อยากจะมีน้องชายให้ผมอีกคนเหรอครับ” ธีร์กลับมาจากโรงเรียน ได้ยินแม่บ้านบอกว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ ก็เลยรีบมาหาพวกเขา
แต่ตอนนี้ฉากที่ธีร์เห็นนั้น ทำให้เขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า พวกเขาอยากจะมีน้องชายหรือน้องสาวตัวน้อยให้ตัวเองหรือเปล่า
ไม่อย่างนั้นการกระทำของพวกเขาจะอธิบายยังไง?
และธนพัตซึ่งกำลังมีอารมณ์ พอได้ยินคำถามงี่เง่าของธีร์ ก็อดที่จะอยากโยนธีร์ออกไปจากบ้านไม่ได้
แต่สติสัมปชัญญะบอกเขาว่า นี่คือลูกชายของเขา เขาทำไม่ได้แบบนั้น ดังนั้นเขาทำได้เพียงยอมจำนน
ในขณะที่ทั้งสามมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วน พวกเขาได้ยินเสียงแม่บ้านเดินเข้ามาและเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา
“คุณท่านโทรมาค่ะ” หลังจากที่แม่บ้านบอกเสร็จ เธอก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่ดูอะไรอื่นเลย
สาริศาเห็นท่าทางที่มีมารยาทของแม่บ้าน จึงรู้สึกว่าแม่บ้านที่เธอเลือกนั้นดีมากเลยทีเดียว
เลยอดที่จะชื่นชมตัวเองไม่ได้ รู้สึกว่าเธอมองคนเก่งมาก
แต่ว่าพอรู้ว่าคนที่โทรมาคือท่านประเสริฐ จึงอดที่จะมองไปทางธนพัตด้วยสายตาจริงจังไม่ได้ เธออยากรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ธนพัตก็วางสายไป
สาริศามองสีหน้าของธนพัต อยากจะมองหาความจริงข้างในนั้น แต่ก็น่าเสียดายมาก
ธนพัตเป็นคนที่ไม่ว่าจะมีความสุขหรือความโกรธก็แยกไม่ออก เพราะสาริศามองไม่ออกเลย
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ไม่เมื่อมองไม่ออก ตนเองยังมีปาก ถามเองได้”
“คุณปู่เรียกพวกเรากลับบ้านไปทานข้าวกับท่านครับ”
ที่แท้ท่านประเสริฐก็รู้ข่าวเรื่องที่พวกเขาคืนดีกันแล้ว ดังนั้นท่านจึงอยากให้พวกเขากลับบ้านไปทานอาหารพร้อมกัน
สาริศาคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรมาก
พอคิดว่าจะได้พบคุณปู่แล้ว หัวใจของเธอก็เริ่มกระวนกระวายเล็กน้อยที่ได้เจอคุณปู่อีกครั้ง
แต่หลังจากผ่านเรื่องราวมาเยอะ ตอนนี้เธอจึงสามารถสงบนิ่งตอนที่จะเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ
สาริศากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะไปพบท่านประเสริฐในวันพรุ่งนี้
ส่วนธีร์กำลังคิดถึงสิ่งที่ได้เรียนมาจากโรงเรียนในวันนี้ และเพื่อนร่วมชั้นคนไหนรังแกเพื่อนร่วมชั้นคนไหน
ทั้งสามต่างกำลังคิดแต่เรื่องของตัวเอง จึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครพูด
หลังจากทานอาหารเย็นจบ ทั้งสามคนก็นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันสักพักหนึ่ง จากนั้นจึงแตกย้ายกันกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง
จากนั้นพอธนพัตตั้งใจจะทำต่อจากก่อนหน้านี้ที่ทำไมจบ ก็ได้ยินเสียงธีร์มาเคาะประตู
ธนพัตจนใจ ได้แต่ลงจากเตียงไปเปิดประตูให้ธีร์เข้ามาเท่านั้น
“ราตรีสวัสดิ์ครับคุณพ่อคุณแม่” หลังจากพูดจบ ธีร์ก็หันหลังเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง
สาริศากับธนพัตกำลังงุนงงกับการกระทำของธีร์ ธีร์เป็นอะไรไป ทำไมถึงมาบอกฝันดีกับพวกเขาก่อนนอนแล้วจากไปแบบนี้?
โดยไม่รู้ว่า นี่คือสิ่งที่คุณครูสอนธีร์ไว้ ก่อนจะนอนหลับ ให้บอกฝันดีพ่อแม่ แบบนั้นพ่อแม่จะมีความสุขมาก
ในคืนนี้ธีร์จึงอยากลองดูว่าทำแล้วพ่อกับแม่จะมีความสุขไหม
แต่ธีร์ไม่เห็นรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าของพ่อแม่ แต่กลับเห็นพ่อกับแม่ทำสีหน้าจนใจมาก
ตกลงแล้วธีร์พูดผิดไปหรือคุณครูสอนผิดไปกันแน่? ธีร์เองก็ไม่รู้เหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปถามคุณครูที่โรงเรียน
หลังจากถูกธีร์เข้ามาขัดจังหวะ ธนพัตก็หมดความต้องการ จึงกอดสาริศาไว้เตรียมตัวที่จะนอนหลับ
“ราตรีสวัสดิ์ครับ ที่รัก” ธนพัตจูบหน้าผากของสาริศา ก่อนจะหลับตาลง
สาริศาที่กำลังนอนอยู่บนเตียง พอเห็นแบบนี้ก็ยกยิ้มมุมปาก
ก่อนจะหลับไปอย่างช้าๆ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...