“ริศา หนูมาแล้วเหรอ”
ในขณะที่สาริศากำลังเหม่อลอย กันยาก็ลืมตาตื่น แล้วมองไปที่สาริศา
ความคาดหวังและความสิ้นหวังในแววตาของเธอเปร่งประกายออกมาทันที
เธอไม่ได้เห็นหน้าสาริศามานาน แต่พอมองไปที่สาริศา แววตาของกันยาก็หม่นหมองลงอีกครั้ง
“ค่ะ ฉันมาแล้ว”
สาริศาพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปเพื่อช่วยประคองกันยาขึ้นมา ให้กันยานั่งพิงหัวเตียง จะได้สบายตัวขึ้น
ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ไม่รู้จะว่าควรพูดอะไรดี
ถ้าเกิดการบาดหมางระหว่างคนสองคน พอต้องมานั่งอยู่ด้วยกัน ก็จะมีแค่ความอึดอัดใจ
และนี่คือสถานการณ์ในตอนนี้ สาริศาได้แต่มองขาของตัวเอง และก้มหน้าเงียบ
สุดท้ายกันยาก็เป็นคนพูดขึ้นมาก่อน “ริศา พวกหนูแต่งงานแล้วเหรอจ๊ะ?”
ที่ถามหมายถึงเธอกับธนพัต เธอจึงพยักหน้าแล้วตอบกลับ “อืม”
เธอรู้ว่าตั้งแต่เมื่อก่อนมาจนถึงตอนนี้กันยาก็ไม่เห็นด้วยเรื่องของเธอกับธนพัต
แต่ตอนนี้เธอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ตนเองก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก
จากนั้นก็มองดูเวลา ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้ว
“เอ่อ...คุณหิวไหมคะ เดี๋ยวฉันไปซื้ออาหารมาให้คุณดีกว่าค่ะ” สาริศาไม่รู้ว่าจะเรียกกันยายังไง จึงชะงักไปเล็กน้อย
“ได้จ้ะ รบกวนหนูแล้ว” กันยาพยักหน้า จากนั้นสาริศาก็จากไป
“ทำไมคุณถึงมานั่งอยู่ตรงนี้คะ” เมื่อตะกี้สาริศาก็กำลังคิดอยู่ว่าธนพัตไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วหายไปไหน คิดไม่ถึงว่าเขาจะมานั่งอยู่หน้าห้องแบบนี้
“อืม ให้ที่ว่างพวกคุณได้คุยกัน” ธนพัตเงยหน้าขึ้นมองสาริศา
“หิวหรือยังคะ ไปซื้ออาหารกันเถอะ” ถึงแม้สาริศาจะไม่หิวมากนัก แต่ก็เริ่มหิวอยู่เล็กน้อยแล้ว
ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สาริศาไม่หิวก็คือเธอไม่มีความอยากอาหารแม้แต่นิดเดียว ถึงจะไม่มีความอยากอาหารแต่เธอก็ยังต้องกิน
ถึงตอนนี้แล้ว ธนพัตเองก็คงจะหิวเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงเรียกธนพัตไปด้วยกัน
อาหารในโรงพยาบาลรสชาติธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ ธนพัตกับสาริศากินเพียงเล็กน้อย
หลังจากที่สาริศารีบกินให้เสร็จ เธอก็สั่งอาหารใส่กล่องกลับไปให้กันยา
“นี่ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณอยากกินอะไร ก็เลยซื้ออาหารอ่อนๆ มาให้ค่ะ”
สาริศาเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เห็นว่ากันยายังคงนอนพิงอยู่เหมือนเดิม จึงเลื่อนโต๊ะเล็กมาวางไว้ข้างหน้ากันยา
แบบนี้สะดวกที่กันยาจะกินข้าวมากกว่า
“จ้ะ แม่กินได้” กันยายกยิ้ม แล้วหยิบตะเกียบที่สาริศายื่นให้ ก่อนจะเริ่มกินข้าว
ครั้งนี้กันยาไม่สบายได้บังเอิญมาก ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากไหน
สาริศาเอ่ยถามคุณหมอ แต่คุณหมอบอกว่าไม่มีอาการร้ายแรง พรุ่งนี้ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
แต่ในตอนนั้นทางโรงพยาบาลโทรไปแจ้งเธอถึงอาการของกันยา น้ำเสียงดูร้อนรนมาก
หรือว่าพวกเขากลัวคนไข้จะตาย ดังนั้นจึงใช้น้ำเสียงร้อนรนขนาดนั้น?
สาริศาไม่รู้เรื่องราวรายละเอียดลึกซึ้งขนาดนั้น แต่เรื่องสำคัญในตอนนี้คืออาการป่วยของกันยา ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง สาริศากับธนพัตถึงจะกลับถึงบ้าน
เพราะวันนี้พวกเขาเหนื่อยกันมากจริงๆ ทั้งสองจึงไม่มีอารมณ์จะพูดคุยกัน สาริศานอนอยู่ในอ้อมแขนของธนพัต แล้วนอนหลับไปอย่างสบายใจ
ในช่วงที่นอนหลับ สาริศาก็ฝันถึงเหตุการณ์ที่พชิราวางระเบิด และถึงแม้จะเป็นแค่ความฝันเธอก็ยังหวาดกลัวมาก
สาริศาไม่รู้ว่าทำไมเหตุการณ์ถึงกลายเป็นแบบนี้ เดิมทีควรจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข แต่เรื่องเลวร้ายกลับเข้ามาหาเธอไม่หยุด
สาริศาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วไปดูแลกันยาในสภาพใต้ตาดำคล้ำ
“อย่าเพิ่งไปเลย ยังเช้าอยู่ นอนต่ออีกสักพักเถอะ”
ธนพัตจับมือของสาริศาไว้ แล้วมองไปที่รอยคล้ำใต้ตากับถุงน้ำใต้ตาของสาริศา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสาร
“ไม่มีค่ะ”
กันยาอยากจะหาเรื่องคุยกับสาริศา แต่ดูเหมือนว่าสาริศาจะยังไม่ยอมเปิดใจ
กันยาเองก็รู้สถานการณ์ในตอนนี้ จึงไม่คิดจะบังคับเธอ จึงได้เพียงแต่มองไปที่สาริศา แต่ในใจไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“คือว่า คุณหมอบอกฉันว่าวันนี้คุณออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว อาการของคุณไม่ร้ายแรงอะไรมาก”
สาริศานึกถึงสิ่งที่คุณหมอพูดเมื่อวานนี้ แล้วพูดซ้ำให้กันยาฟัง
ถึงแม้จะมีศัพท์เทคนิคมากมายที่สาริศาฟังไม่เข้าใจ แต่บางทีถ้าบอกให้กันยาฟัง เธออาจเข้าใจ
แต่กันยาก็รู้แค่คร่าวๆ รายละเอียดลึกๆ ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
“อืม แล้วคุณ...”
“คุณจะกลับบ้านกับฉันไหมคะ”
ถึงแม้กันยาจะไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่สาริศารู้สึกผิดมากที่เคยทำแบบนั้นกับกันยา
ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจพากลับไปดูแลที่บ้านด้วยตัวเองจะดีที่สุด ตอนนี้พชิราไม่อยู่ข้างกาย กันยาอยู่ที่บ้านพักคนชราคนเดียวเธอไม่วางใจ
“ไม่ต้อง!”
เสียงเข้มงวดของกันยาทำให้สาริศาตกใจเล็กน้อย
นอกจากตอนเด็กที่สาริศาทำผิด กันยาจะดุเธอแล้ว เวลาที่เหลือเธอไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
สาริศารู้สึกตกใจเล็กน้อย และอารมณ์ของเธอก็แสดงขึ้นบนใบหน้าตรงๆ
“ทำไมคะ! ตอนนี้ลูกสาวของคุณไม่อยู่ กลับไปกับฉัน ฉันดูแลคุณสะดวกมากกว่า”
สาริศาขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนนี้กันยากำลังประท้วงตนเองอยู่หรือเปล่า?
สาริศาไม่เข้าใจ มองท่าทางของกันยาอย่างละเอียด สาริศาก็พบว่าใบหน้าของเธอมีรอยย่นเยอะขึ้นมาก
“ยังไงก็ไม่ต้อง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเถอะ” หลังจากที่กันยาพูดแล้ว เธอก็หันหน้าไปทางอื่น ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากคุยกับสาริศาต่ออีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...