หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 60

ธีภพก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร  เมื่อนึกถึงสาริศาเป็นสามีภรรยากับธนพัตอย่างแท้จริง ทรวงอกของเขาก็เหมือนกับมีเปลวไฟลุกโชน ที่ดับอย่างไรก็ไม่ยอมดับสักที

“ทำไม คุณรู้สึกเสียใจไหม ที่ผมก็เป็นคนของตระกูลกีรติเมธานนท์เช่นกัน อีกทั้งเมื่อเทียบกับคนพิการอย่างธนพัตคนนั้น ผมยังแข็งแแรงกว่า” ภายใต้การชักนำของไฟแห่งโทสะ เขาไม่มีเหตุผล เพียงแค่ต้องการดูถูกธนพัต “พ่อผมบอกว่า ธนพัตหลังจากอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อน ไม่เพียงแต่สูญเสียขาสองข้าง เรื่องอย่างว่าก็เสื่อมไปด้วย สาริศาคุณนี่มันใจกว้างจริง ๆ เลยนะ ผู้ชายแบบนี้คุณก็ไม่ถือสา นี่คุณต้องการเพียงเงินอย่างเดียวใช่ไหม ถึงได้ยอมทำขนาดนี้——”

“ธีภพ คุณนี่แม่ง หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!” สาริศาตะโกนขึ้น

เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อธีภพเหยียดหยามตัวเองนั้น เธอยังสามารถรับมืออย่างใจเย็นได้ แต่เมื่อธีภพเหยียดหยามธนพัตนั้น เธอกลับรู้สึกโมโหโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก!

เมื่อคิดถึงธนพัต คิดถึงความสมบูรณ์แบบของชายหนุ่มคนนั้น ทุกครั้งที่นั่งอยู่บนรถเข็น เผยให้เห็นถึงสีหน้าอ้างว้างอย่างไม่ตั้งใจ  ฉับพลันสาริศาก็รู้สึกว่าธีภพที่อยู่ตรงหน้านี้ค่อนข้างที่จะน่ารังเกียจ!

เพราะว่ามีคนแบบนี้ในครอบครัว ทำให้ธนพัตต้องปกปิดแสงที่เปล่งประกายในตัว แสร้งเป็นคนพิการมากว่าทศวรรษ

ธีภพคิดไม่ถึงว่าสาริศาจะโมโหขึ้นได้ขนาดนั้น จึงชะงักขึ้น

ขณะที่เขาหยุดชะงักขึ้นนั้น สาริศาไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกต่อไปแล้ว

“ธีภพ” เธอกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันรู้ว่าคุณไม่สบายใจ เดิมทีฉันคิดว่าฉันกับธนพัตนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการ แต่ว่าพวกเราดันเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องระหว่างฉันกับธนพัต คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ส่วนใดของเขาใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ ฉันรู้ดีกว่าคุณ! ”

เมื่อพูดคำเหล่านี้จบ เธอก็ไม่อยากจะเห็นหน้าของธีภพอีก จึงเดินออกไปจากห้องทำงาน แล้วก็กระแทกประตูแรง ๆ

หลังจากที่สาริศาจากไป ธีภพก็อยู่ในห้องทำงานคนเดียว ยืนอย่างเงียบ ๆ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว

จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาถึงรู้สึกตัว

หยิบโทรศัพท์ขึ้น แล้วเห็นชื่อ “ไรยา” ที่อยู่บนหน้าจอ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล

“ฮัลโหล” เขารับโทรศัพท์ขึ้น น้ำเสียงรำคาญ “มีอะไร”

“ภพขา~” เสียงหวานของไรยาดังขึ้นในโทรศัพท์ “คุณยุ่งมากเลยเหรอคะ”

“ก็ไม่เท่าไหร่ คุณมีธุระอะไร”

“ความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรค่ะ” ในน้ำเสียงของไรยาซ่อนด้วยความน้อยใจ “เพียงแต่ว่างานแต่งของเราได้กำหนดไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ แต่ทำไมฉันไม่เคยได้เจอคุณปู่ของคุณเลย……อย่างไรท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของตระกูลกีรติเมธานนท์ ฉันควรที่จะไปพบท่านหน่อยหรือเปล่า”

ธีภพเดิมทีอยากจะตอบด้วยความรำคาญว่า “ไว้ค่อยคุย” แต่ฉับพลันเหมือนเขาคิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาเป็นประกาย

“คุณพูดถูก” เขาสงบสติอารมณ์ลง “ไม่เพียงแต่เป็นคุณปู่ของผม ยังมีอาและอาสะใภ้ของผม รวมไปถึงคนในบ้านตระกูลกีรติเมธานนท์คนอื่น คุณก็ควรจะไปพบ”

“จริงเหรอคะ” ไรยากล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจ “ถ้าอย่างนั้นจะไปเจอกันเมื่อไหร่คะ”

“เร็ว ๆ นี้แหละ” มุมปากของธีภพยกเป็นเส้นโค้งเย็นชา “ผมจะจัดงานเลี้ยงครอบครัวขึ้น จะเชิญชวนทุกคน และทำการแนะนำคุณอย่างเป็นทางการ”

……

เมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น สาริศาก็ออกจากห้องทำงานอย่างรีบร้อน

ตอนที่เธอลุกขึ้นนั้น ยังมีคนไม่น้อยที่ซุบซิบอะไรบางอย่างกันอย่างระมัดระวัง สายตานั้นชำเลืองมามองเธอไม่หยุดหย่อน

เรื่อง ธีภพและก็คนเหล่านี้ที่ชอบซุบซิบนินทา สาริศารู้สึกหงุดหงิดในใจ

วันนี้อาการป่วยของคุณแม่ดีขึ้นแล้ว งานนี้ ควรเปลี่ยนได้หรือยัง

สาริศาครุ่นคิดตลอดทาง เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าธนพัตนั้นอยู่ที่บ้านแล้ว อีกทั้งยังไม่ได้นั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับยืนอยู่ในห้องรับแขก

“คุณกลับมาแล้วเหรอ” ธนพัตกล่าวเบา ๆ 

สาริศามองเข้าไปในบ้าน พลางถอดรองเท้าพลางถาม: “ป้าแหวนกับลุงชัยยังไม่กลับมาเหรอคะ”

“ยังเลย ผมให้พวกเขาหยุดลางาน”

“อย่างนั้นฉันจะไปทำอาหารให้คุณนะ”

เมื่อธนพัตเดินจากไป สาริศาก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น จึงรีบทำการหายใจลึก ๆ

ธนพัตไม่นานก็กลับมา แล้วฉีกยาติดแผลค่อย ๆ แปะเข้าที่นิ้วมือของสาริศา ท่าทางที่ตั้งใจในแววตาดำขลับดุจหินออบซิเดียนนั้น ราวกับไม่ใช่สิ่งที่เผชิญนั้นไม่ใช่นิ้วมือที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นสิ่งของที่มีค่า

“โอเคแล้ว” หลังจากที่แปะยาติดแผลอย่างระมัดระวังเสร็จ ธนพัตก็มองไปที่ห้องครัว ขมวดคิ้ว “วันนี้คุณไม่ต้องทำอาหารแล้วนะ พวกเราสั่งจากข้างนอกแล้วกัน”

สาริศาตอนนี้หัวร้อนไปหมดแล้ว ไม่ว่าธนพัตพูดอะไร เธอก็ได้แต่พยักหน้า

ทั้งสองเดินมาที่ห้องรับแขก ธนพัตเปิดดูเว็บสั่งอาหาร จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น แล้วถาม :“คุณอยากจะทานอะไร”

“ฉันอะไรก็ได้ค่ะ”

ธนพัตพยักหน้ารับ แล้วกดเคาะลงที่แล็บท็อปสองสามที

เวลานี้ โทรศัพท์ที่ธนพัตวางไว้บนโต๊ะน้ำชาได้ดังขึ้น

ธนพัตที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น แล้วถามขึ้น :“ใครโทรมา”

สาริศาชำเลืองดู “ผู้ช่วยชรัณค่ะ”

“ช่วยผมเปิดลำโพงหน่อยสิ” 

สาริศาทำตามที่เขาบอก ไม่ช้าเสียงของชรัณก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์

“คุณชายพัทครับ” เสียงของชรัณไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมฟังแล้วรู้สึกตื่น

“ว่ามา”

“เจอเบาะแสสาวน้อยคนนั้นนิดหน่อยแล้วครับ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ