สาริศารู้ว่าเหตุผลของตัวเองเลวร้ายแค่ไหน เธอแอบหยิบสิ่งของของคนอื่น พฤติกรรมแย่ๆ แบบนี้ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะทำมันออกมาได้
ธนพัตมองสาริศาที่สีหน้าซีดเผือดอยู่ตรงหน้า พลันรู้สึกว่าหัวใจตัวเองปวดหนึบ
ให้ตายเถอะ
น้ำเสียงของตนเมื่อครู่ มันรุนแรงเกินไป ทำให้เธอกลัวหรือเปล่า
ธนพัตไม่อยากใส่อารมณ์กับเธอ แต่เมื่อครู่สร้อยคอมันเกือบจะตกแตกแล้ว ดูเหมือนมันยังอยู่ในสายตาเขา ทำให้จิตใจของเขาอดไม่ได้ที่จะเกิดโทษะ
สร้อยคอเส้นนี้ สำหรับเขาแล้ว เป็นตัวแทนที่สำคัญมาก ถ้าเมื่อครู่แตกไปจริงๆ......
แค่คิดเขายังไม่กล้าแม้แต่จะคิด
เขารู้ว่าหากตอนนี้ตัวเองอยู่กับสาริศา เกรงว่าจะทำตัวไม่ค่อยดีนัก เขาจึงหันตัวเดินไปยังตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ตออกมามาสวมใส่ “ที่บริษัทผมยังมีเรื่องนิดหน่อย ผมจะออกไปก่อน คุณพักผ่อนก่อนเลย”
ขนตาของสาริศาสั่นเล็กน้อย
ธนพัต คือไม่อยากเห็นหน้าเธอใช่ไหม
แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ แค่กัดริมฝีปาก และพยักหน้า
ธนพัตรีบร้อนเปลี่ยนเสื้อผ้า ขนาดที่ว่าผมยังไม่ทันแห้งดี ก็นั่งบนรถเข็นแล้วออกจากห้องไปเลย
ระหว่างทางลงไปชั้นล่าง ป้าแหวนกำลังจัดห้อง เมื่อเห็นธนพัต จึงอดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง
“คุณชาย เวลานี้แล้วคุณจะไปไหนคะ” เธอรีบวิ่งเข้ามา “และผมของคุณอีก ทำไมถึงเปียก รีบเป่าให้แห้งเถอะค่ะ”
ธนพัตจึงหยุดรถเข็น สีหน้ายังคงเย็นชาเล็กน้อย แต่ยังคงพูดอย่างสงบ “ป้าแหวน ผมมีธุระที่บริษัท คุณอย่าลืมเตือนให้ริศาเปลี่ยนยานะครับ”
“ฉันรู้แล้วค่ะ แต่ว่า......”
คำพูดของป้าแหวนยังไม่ทันจบ รถเข็นของธนพัตก็ออกไปแล้ว ไม่หันกลับมาอีก
ในห้อง
สาริศาทรุดนั่งลงบนเตียงดั่งคนสูญสิ้นจิตวิญญาณ
ความเจ็บปวดหนักหน่วงบนแขนประดังเข้ามา เธอเปิดผ้าพันแผลออกเล็กน้อยดูอย่างระมัดระวัง เห็นว่าแผลฉีกเปิดอย่างที่คาด
เธอรู้เลยว่าจะต้องจัดการกับแผลอีกครั้ง จึงรีบหยิบเอาสำลีก้านมาเพื่อจะจัดการกับมัน แต่มือซ้ายของเธอดันไม่ถนัด จิ้มไปหลายครั้ง มีแต่จะจิ้มไปจนเลือดออกเพิ่ม
น้ำตาของเธอร่วงหล่น ตัวเธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเจ็บปวด หรือเพราะการตำหนิของธนพัตเมื่อครู่
ดูเหมือนว่า สร้อยคอเส้นนั้น สำหรับธนพัตแล้ว มันมีความหมายพิเศษจริงๆ
ตนแค่หยิบมาดูนิดหน่อย ก็ทำให้ธนพัตโมโหรุนแรง
แต่......
เขาโหดร้ายจริงๆ เธอซึ่งเป็นคนที่มีชีวิต กลับเทียบสร้อยคอเส้นนั้นไม่ติด ดูเหมือนว่าสำหรับในใจธนพัตแล้ว เธอมันก็แค่นี้เองสินะ
เมื่อความคิดอิจฉาเช่นนี้ผุดขึ้นในจิตใจ ทำให้ตัวสาริศาอดไม่ได้ที่จะอึ้ง
แต่ในวินาทีต่อมา เธอก็ยิ้มขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้
สาริศานะสาริศา ทำไมธนพัตต้องคิดว่าเธอสำคัญกว่าสร้อยคอเส้นนั้นด้วยล่ะ
ต้องรู้นะว่าสร้อยคอเส้นนั้นน่ะ คาดว่าน่าจะเป็นของแฟนเก่า ผู้หญิงที่ชื่อพชิราคนนั้นมอบให้เขา ผู้หญิงที่สวยมากขนาดนั้น เส้นผมทุกเส้นสวยงดงามกว่าเธอ สร้อยแค่เส้นนั้นแน่นอนว่าสามารถเหวี่ยงเธอไปได้เป็นหนึ่งแสนแปดพันไมล์
แต่ตัวเธอในตอนนี้อิ่มเอมใจเกินไปหรือเปล่า แค่เพราะธนพัตอ่อนโยนต่อเธอขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองมีน้ำหนักในความสำคัญเท่าไร กล้าดียังไงไปแตะต้องสิ่งของของเขา
สำคัญตัวมากเกินไปแล้วมั้ง
ทั้งทั้งที่เธอควรรู้ ในโลกใบนี้ นอกจากคุณแม่ ไม่มีใครหรอกที่จะสนใจตัวเองจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นสุวิทย์พ่อแท้ๆ ของตัวเอง หรือคนที่บอกว่าจะอยู่เคียงข้างตัวเองไปตลอดชีวิตอย่างธีภพ ใครก็ตาม สำหรับเธอแล้ว ก็แค่คนที่ผ่านมาในชีวิตเท่านั้น
ไม่
ไม่ได้เด็ดขาด
สาริศาตัดสินใจในใจอย่างรวดเร็ว
เธอรีบลุกขึ้น ใช้มือซ้ายจัดกระเป๋าเดินทางไปอย่างทุลักทุเล และใช้มือข้างเดียวแบกลงชั้นล่าง
“อ้าว คุณนายน้อย นี่คือ......” ทันทีที่ป้าแหวนเห็นกระเป๋าเดินทางในมือของเธอ ก็พลันตกใจ
“คุณแม่ของฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลค่ะ ฉันตั้งใจจะกลับบ้านไปดูแลท่าน” สาริศาฝืนยิ้มให้ป้าแหวน “เพราะมันก็นานแล้วที่ฉันไม่ได้อยู่กับคุณแม่”
“โธ่ ตัวคุณนายน้อยเองก็บาดเจ็บอยู่นะคะ ยังจะพูดเรื่องดูแลคนอื่นอีก” ป้าแหวนกังวล “ไม่สู้คุณพาคุณแม่มาที่นี่ดีกว่า ฉันดูแลพวกคุณเองก็ได้ค่ะ”
“ไม่มีปัญหาจริงๆ ค่ะ คุณแม่ของฉันไม่คุ้นเคยกับสถานที่แปลกด้วย” สาริศาปฏิเสธ “เดี๋ยวฉันพูดกับธนพัตเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
ทานอาหารเช้าอย่างรีบเร่ง แล้วสาริศาก็เรียกแท็กซี่ออกไป
กลับบ้านที่ไม่ได้กลับมานาน สาริศาเก็บของอย่างง่ายๆ จนเรียบร้อย มองดูเวลา มันยังค่อนข้างเช้าอยู่ จึงตัดสินใจไปทำงาน
เธอลาพักมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว มันสมเหตุสมผลกับบาดแผลแค่นี้ไม่ควรใช้เวลานานนัก แต่สำนักพิมพ์แมกกาซีนก็ไม่มีคนพูดอะไรกับเธอ ถ้าเธอเดาไม่ผิด น่าจะเป็นสาเหตุมาจากธีภพ
มาถึงออฟฟิศที่ไม่ได้เข้ามานาน เมย์กับพี่จ๊าจ๋าเข้ามาถามไถ่ด้วยความห่วงใยเธออยู่นาน แม้จะมีพวกชญาภาคอยกระแนะกระแหนอยู่ไม่ไกล แต่สาริศาก็ยังรู้สึกอารมณ์ดี
เธอนั่งลง เตรียมจะทำงาน แต่ไม่คิดว่า จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รวดเร็ว
เธอชะงัก และหันหน้าไป เห็นธีภพสีหน้าตึงเครียด
“หัวหน้ากองบก.ธีภพ” สาริศาลุกขึ้นยืนทันที มองสีหน้าแปลกๆ ของธีภพ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “คุณมีเรื่องอะไรเหรอคะ”
ไม่รู้ว่าเธอตาฝาดหรือไม่ เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่า ธีภพในวันนี้ดูไม่ปกติอย่างมาก
ธีภพในเวลานี้ลักษณะเหมือนคนกำลังตื่นตระหนก เหมือนลืมว่ารอบตัวยังมีคนมากมาย ดันพุ่งเข้ามาคว้าจับไหล่ของสาริศา พร้อมกับตะคอกลั่น “สาริศา ทำไมคุณไม่บอกผม! ทำไมคุณไม่บอกผมว่าเมื่อสองปีก่อนคุณถูกคนใส่ร้าย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...