หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 1862

หลังจากเรขาฟื้นแล้ว เธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจและอยากขอบคุณรษิกามาก

ทั้งเลอศิลป์และรษิกาไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของเรขา หลังจากคุยกันสั้นๆ กับเรขาแล้ว พวกเขาก็ออกจากโรงพยาบาลไป

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เลอศิลป์ก็โทรหาจักรภพในทันที

จนกระทั่งถึงตอนนี้เองที่จักรภพได้รู้ว่ามีเรื่องราวน่ากลัวเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน เช่นนั้นแล้ว เขาจึงเดินทางไปเยี่ยมเรขาในเวลากลางดึก

เวลาต่อมา รษิกาก็ได้รับสายจากเพื่อนรักของเธอ ซึ่งโทรมาบอกว่าจักรภพมาเยี่ยมแม่ของเธอแล้วจริงๆ

แต่น้ำเสียงของเมธินีกลับดูใจเย็นมากในครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เธอจะส่งเสียงออกมาเหมือนเด็กสาวที่ไขว่คว้าหาความรักและความลุ่มหลง

“รษิกา แม่ฉันยังขาดเลือดและมีเม็ดเลือดไม่เพียงพอ ฉันจะดูแลแม่ให้ดี ฉันจะไม่คิดเรื่องอื่นในระหว่างนี้เด็ดขาด”

“ได้เลย ดูแลคุณเรขาดีๆ นะ ถ้ามีอะไรที่เธอต้องการ ก็เรียกหาฉันได้เสมอ!”

รษิกาเข้าใจได้ว่าเมธินีกำลังเจอกับความยากลำบากเพียงใดในตอนนี้

ย้อนกลับไปหลังจากเธอคลอดเด็กๆ ออกมา รษิกาก็ละทิ้งทุกความคิดในเรื่องความรักและความสัมพันธ์ไปอย่างสิ้นเชิง เธอต้องการเพียงแค่เลี้ยงดูลูกๆ ให้ดีเท่านั้น

ระหว่างช่วงเวลานั้น ผู้หญิงทุกคนจะใจเย็นลงและมีสติมากขึ้น

แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเธอก็ยังมีความคาดหวังและการยืนยันบางอย่างด้วย

ชีวิตดำเนินต่อไปอย่างธรรมดาเป็นเวลาหนึ่งเดือน

ในช่วงเวลานั้น เบนนี่ได้เดินทางไปพร้อมกับครอบครัวทั้งหมดเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันการแข่งขันคอมพิวเตอร์เยาวชนระดับโลก ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันได้

การแข่งขันนั้นเป็นสิ่งที่คนนอกไม่อาจเข้าใจได้

แต่เบนนี่บอกพ่อแม่เขาว่ามีแฮ็กเกอร์ต่างชาติบางคนใช้โอกาสของการแข่งขันในการแฮ็กสถาบันเทคนิคชั้นนำบางแห่งโดยใช้ระบบของคณะกรรมการจัดงาน

ในไม่ช้า พวกเขาก็จงใจจะขโมยข้อมูลทั้งหมด

อชิขบขันมากเมื่อได้รู้ข่าวลือนั้น ขณะที่เบนนี่มักจะล้อเลียนเขาด้วยเรื่องนั้นเสมอ

บริษัทเสื้อผ้าเด็กของไอรดาก็เริ่มต้นขึ้นแล้วเช่นกัน

รษิกาไม่เคยจินตนาการเอาไว้เลยว่าการลงทุนของเลอศิลป์จะมากมายขนาดนี้

ร้านเรือธงเปิดทำการในกว่ายี่สิบเมืองใหญ่ทั่วประเทศพร้อมๆ กัน

การออกแบบของไอรดามีความสดใหม่และทันสมัยที่สอดคล้องกับความสนใจของเด็กๆ นอกจากนี้ยังสร้างสรรค์และสนุกสนานอีกด้วย นอกจากนี้ การออกแบบดังกล่าวยังผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ ของวัฒนธรรมชวาลาโบราณเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้บริโภครู้สึกสดชื่น

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ราคานั้นสมเหตุสมผลและไม่แพงเลย

แบรนด์ชื่ออบอุ่นนั้นได้รับความนิยมในชั่วพริบตา และพันธมิตรทางธุรกิจหลายสิบรายก็มองหาโอกาสทำแฟรนไชส์กับพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกเขารู้ว่าแบรนด์ดังกล่าวเป็นของฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ป พวกเขาก็รู้ว่าไม่มีโอกาสเลย

ไอรดาเลือกตั้งชื่อแบรนด์ว่าอบอุ่นด้วยตัวเธอเอง เพราะเธอเคยพูดว่าเธอต้องการให้เด็กๆ ที่สวมเสื้อผ้าจากฝีมือการออกแบบของเธอนั้นรู้สึกอบอุ่นสบายในทุกๆ วัน