รษิกาไม่พูดอะไรออกมาเลย
เลอศิลป์เหลือบมองภคินทร์ “เก็บข้าวของคุณแล้วไสหัวไป!”
แววตาเขามีแต่ความเยือกเย็น
ภคินทร์ไม่กล้าเถียงอะไร การรอดจากเรือนจำนั้นก็ถือว่าเป็นความเมตตาที่มากเพียงพอแล้ว เขาจึงรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ศศิตากวาดตามองรายงานก่อนที่จะเงยหน้ามามองรษิกา
“รษิกา…” น้ำเสียงเธอเปลี่ยนไป
“มันเป็นความผิดฉันเอง และฉันขอโทษลูกชายเธอด้วยที่ฉันทำไม่ดีลงไป รษิกา บอกเลอศิลป์สิว่าฉันสัญญาว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ฉันขอโทษ…”
ด้วยนิสัยของศศิตา เธอจะไม่มีวันพบกันครึ่งทางกับใครหากไม่ใช่ทางออกสุดท้าย แต่เมื่อคิดว่าจะถูกไล่ให้ไปอยู่เอเปียสามถึงห้าปีก็ทำให้เธอหวาดกลัว
รษิกาไม่ได้สะทกสะท้านใดๆ ดวงตาของเธอเย็นชา “ฉันขอโทษค่ะ คุณนายศศิตา แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉัน”
เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอทนมามากพอแล้ว จึงเดินออกจากห้องโถงไปอย่างรวดเร็ว
เอกพลรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวน เขากังวลจนขมวดคิ้วแน่น
เอกพลเห็นว่าภรรยาของเขาไม่สำนึกผิดและขู่ว่า “คุณต้องโทษตัวเองคนเดียวเลย คุณตาบอดตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อัญชสาขึ้นมา และทำให้ลูกของเราเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมาก คุณไม่เคยสนใจเลยว่าเลอศิลป์รู้สึกยังไง คุณอยากควบคุมและตัดสินใจเอง รษิกามีอะไรผิดปกติมากจนคุณยอมรับเธอไม่ได้งั้นเหรอ? เธอไม่เคยทำร้ายคุณหรือเลอศิลป์เลย ผมคิดว่าคุณควรสำนึกผิดได้แล้วนะ!”
ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอกระตุกขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอเบิกตากว้าง
“คุณกำลังตำหนิฉันและชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดของฉัน ฉันรู้ว่าฉันทำผิด แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะแก้ไขไม่ได้” เธอสะอึกสะอื้น
ความผิดหวังแทงเข้าที่ใจของเอกพลอย่างรุนแรง
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจความร้ายแรงของความผิดพลาดของคุณ คุณกำลังทำร้ายเด็กๆ และปฏิเสธการมีอยู่ของพวกเขา! รษิกาไม่ได้พูดอะไรสักคำในวันนี้ แต่คุณลองนึกภาพดูว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง คุณไม่เคยชอบเธอเลยตั้งแต่แรก สมน้ำหน้าคุณ!” เขากล่าวและหันหลังเพื่อจะจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...