“น่าจะเป็นตอนที่เดินไม่ทันระวังจนไปชนเข้า คุณรีบเช็ดออกเร็วๆ สิ อีกเดี๋ยวมีคนมาเห็นเขาก็จะเกิดปัญหายุ่งยากกันไปอีก! ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันจะเอากระจกขึ้นมาส่องให้คุณดู...”
ในกระเป๋าของเธอก็มีกระจกเล็กๆ พกติดตัวมาด้วย พร้อมทั้งควานหาในกระเป๋าให้เขาทันที
พอเวธัสได้ยินก็คว้ามือเธอที่กำลังหยิบสิ่งของของเธอไว้แน่น และหยุดฝีเท้าลง พร้อมทั้งกระซิบกระซาบเสียงทุ้มต่ำ พร้อมทั้งเหล่ตาเหลือบมองเธอ จนเกิดรอยยิ้มจางๆ อย่างร้ายกาจอยู่ในเสียงพูดตอนท้ายๆ
“คุณเป็นคนทำให้เลอะ งั้นคุณก็ควรแสดงความรับผิดชอบในการลบมันออกด้วย”
ตรงนี้มันคือทางเดิน แม้ว่าคุณโทนี่กับคุณอัทธ์ยังไม่ได้เดินออกมา แต่ณิชาก็สำรวจมองบริเวณโดยรอบตามสัญชาตญาณ พร้อมทั้งบ่นพึมพำด้วยหัวใจห่อเหี่ยว “คุณสูงเกิน ไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ค่ะ...”
เมื่อสิ้นเสียงลง เวธัสกลับโน้มร่างกายสูงใหญ่ลงเล็กน้อยเพื่อให้พอเหมาะลง
จู่ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็ปรากฏต่อหน้าเธอ ลูกกระเดือกอันเซ็กซี่เคลื่อนไหวขึ้นลง--
“งั้นผมก็ลดตัวลงหน่อยก็แล้วกัน”
ณิชาถลึงตาโตใส่ “คุณ...”
“ไม่อยากเช็ดเหรอ?” เวธัสเห็นเธอถลึงตาโตใส่เขาอย่างกับลูกกวางตัวน้อย แพขนตาสั่นเทาเล็กน้อย ช่างน่ารักน่าชังนุ่มนวลอ่อนโยนราวกับแปรงพู่นกันที่กำลังระบายสีอยู่ในห้องหัวใจ แต่แสร้งพูดอย่างเย็นชาใส่ “งั้นก็เอาไว้ก่อนแล้วกัน...”
ระหว่างที่เขาพูดอยู่นั้น เขาจึงทำหลังตรง และแสดงท่าทางไม่สนใจสักนิด
ณิชาตื่นตระหนกทันที พร้อมทั้งรีบเหนี่ยวรั้งต้นคอของเขาให้โน้มลงมา
“เดี๋ยวสิคะ ฉันเช็ดเอง!”
เนื่องจากใช้พละกำลังมากเกินเหตุ พริบตาเดียวระยะห่างของทั้งสองคนก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ใกล้จนเธอเหมือนมองเห็นรูขุมขนอันไร้ที่ติของเขาได้
คิ้วตาของเวธัสซ่อนรอยยิ้มจางๆ อาการสะใจเอาไว้ และแสดงความรู้สึกออกทางสายตา “เช็ดให้สะอาดหน่อย”
ณิชากลืนน้ำลายลงคอ พร้อมทั้งยื่นมือออกมาเช็ดตรงปกคอเสื้อของเขาอย่างมั่วซั่วไปหมด รอยลิปสติกที่ติดอยู่ตรงปกคอเสื้อมันเช็ดง่ายดายขนาดนั้นไหมล่ะ แต่สามารถทำให้รอยลิปสติกมันจางลงเล็กน้อย จนมองไม่ออกมาเป็นรูปริมฝีปากแล้ว
จังหวะประจวบเหมาะนั้นเอง คุณอัทธ์ออกมาจากห้องประชุมพอดี
เขาอายุอานามห้าสิบไปแล้ว มองแวบเดียวก็เห็นชายหญิงกำลังฟัดเหวี่ยงกันอยู่ ซึ่งท่าทางสนิทสนมแนบแน่น ท่าทางคลุมเครือ แถมยังเป็นหญิงชายที่หน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่ คุณอัทธ์ถึงกลับตาค้างทันที
รสนิยมของวัยรุ่นแหละ เขาแก่แล้ว ตามไม่ทัน....
คุณอัทธ์เคยเจอกันญ่ามาก่อน แต่ว่านั่นก็หลายปีก่อนแล้ว ครั้งนี้เห็นเวธัสกับณิชาสนิทสนมกัน บวกกับณิชากับกันญ่าหน้าตาคล้ายกันมาก เขาย่อมเข้าใจผิดคิดว่าณิชาคือกันญ่า
หางตาณิชาเหลือบเห็นคุณอัทธ์ออกมาแล้ว จึงยอมปล่อยเวธัสทันที พร้อมทั้งพูดสองแง่สองง่าม “เช็ดเสร็จแล้วค่ะ พวกเราไปกินข้าวกันเถอะค่ะ”
“ไปด้วยกัน” เวธัสดึงเธอเข้ามาในลิฟต์ตัวเดียวกัน อย่างไม่สนใจสิ่งใด
คุณอัทธ์เดินตามหลังมาติดๆ ณิชาทักทายคุณอัทธ์อย่างหน้าด้านหน้าทน...
“สวัสดีครับ …” คุณอัทธ์ยิ้มตอบรับตามมารยาท
นี่คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลสถานนท์ เป็นว่าที่ภรรยาของเวธัส!
ณิชายิ้มให้ ทว่าในใจกลับอดกลั้นกับความโกรธเคือง
ทั้งที่พูดแล้วว่าจะไม่ไปกินข้าวด้วย แต่เวธัสยังจะให้เธอติดสอยห้อยตามไปอีก!
โอกาสที่จะพูดถึงเรื่องการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าก็ไม่มี แต่ตอนนี้กลับหนักข้อขึ้นเยอะ เพราะต้องมาระวังตัวคุณอัทธ์ท่านนี้อีก
ยิ่งคิดก็ยิ่งอึดอัด ณิชาเกลียดจนอยากจะควักลูกตาของเวธัสออกมาสักข้าง เมื่อกี้ยังแกล้งโกรธอยู่เลย ตอนนี้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ โมโหใส่...
เวธัสเดินมุ่งหน้าทางด้านข้างหนึ่งก้าว จึงสบตากับณิชาอย่างประจวบเหมาะ
ณิชารีบเบนสายตาไปทางอื่นอย่างเร่งรีบ หัวใจเต้นโครมครามดั่งกลองเพล
ก้นบึ้งแววตาของเวธัสมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่ในนั้น...
ซึ่งเวธัสเป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รอยยิ้มจางๆ ที่อ้อยอิ่งอยู่นนาน ความอ่อนโยนกับเย็นชา ซึ่งแสดงความหนักแน่นและอ่อนโยนออกมา จนคุณอัทธ์เห็นเต็มสองตา จึงกลายเป็นการตอบโต้กันระหว่างคู่รัก
จงกลเห็นเธอร้องไห้ออกมา จึงรีบตบหลังฝ่ามือเธออย่างร้อนใจทันควัน พร้อมทั้งสอบถามกลับอย่างเป็นห่วงเป็นใย “เด็กดี ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น? เช็ดน้ำตาก่อน แล้วค่อยพูดกับน้าเล็กให้รู้เรื่อง”
กันญ่าปาดน้ำตาจนแห้งสนิท และสูดจมูกอย่างแรง พร้อมทั้งพูดอย่างน้อยใจ “คุณเวธัสเขา...เขาพูดว่าเขาจะขอถอนหมั้นกับหนูค่ะ”
“ถอนหมั้น?” จงกลได้ยิน พร้อมทั้งขมวดหัวคิ้วไว้แน่น “เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ไม่มีทางที่เขาจะไม่พูดกับฉัน หนูไปฟังความหมายผิดมาหรือเปล่า? หลายปีนี้ที่พวกหนูหมั้นกันมา ความรู้สึกที่มีต่อกันก็มั่งคงมาตลอดไม่ใช่เหรอ?
“หนูก็อยากได้ยินว่าหนูฟังความหมายผิดไปค่ะ แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันกับเป็นเรื่องจริงทั้งหมดค่ะ” กันญ่ากะพริบตาเล็กน้อย น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย “แต่มีเรื่องหนึ่งที่หนูต้องบอกกับน้าเล็กให้ได้ค่ะ...”
จงกลขมวดคิ้วหากัน เพื่อแสดงความหมายให้เธอพูดต่อไป
“ถ้าคุณเวธัสบอกเลิกหนูเพราะผู้หญิงคนอื่น หนูยอมรับได้ แต่ถ้าเป็นณิชาซึ่งมันเป็นสิ่งเดียวที่หนูรับไม่ได้” กันญ่าเม้มริมฝีปากล่าง ลักษณะท่าทางยากเย็นในการเผยอปากอกมา
“…ณิชา?” จงกลแปลกใจ “เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร? ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอสองคน!”
“ณิชาเป็นคนในเครือญาติของตระกูลสถานนท์ เมื่อสี่ปีก่อนพ่อของเธอบันดาลโทสะจนตกเป็นฆาตกร ตอนนั้นบ้านเธอล้มละลาย เพื่อรักษาเงินทองเอาไว้ เธอจึงให้ท่าฐานภพ แถมยังคลอดลูกนอกสมรสออกมาคนหนึ่ง!”
ความจริงกันญ่าไม่รู้เรื่องราวระหว่างณิชากับฐานภพว่ามันเคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่ในเวลานี้ เธอย่อมต้องการยัดเยียดความสกปรกให้ณิชายิ่งเยอะก็ยิ่งดี
และยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เธอพูดออกมาไม่ถือว่าเป็นคำโกหก
สีหน้าจงกลดูย่ำแย่ลงทุกอณู พร้อมทั้งโกรธจัดจนควบคุมไม่อยู่ “ที่หนูกำลังพูดอยู่ คือตาธัสกำลังหลงผู้หญิงคนไร้ศีลธรรมคนหนึ่งจนโงหัวไม่ขึ้น เลยต้องการจะถอนหมั้นกับหนูใช่มั้ย?”
กันญ่ากลืนน้ำลายอยู่น้อยเนื้อต่ำใจ สีหน้าขื่นขมด้วยความเจ็บปวด
ซึ่งเป็นเรื่องที่รับได้ยากมาก แต่ท่าทางก็จำใจยอมรับให้ได้
“บังอาจมาก!”
จงกลคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงไฮโซมานานหลายปี เมื่อได้ยินเรื่องโสมมมาไม่น้อย แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อหลานชายตัวดีที่น่าภาคภูมิใจของตนเองก็ตกอยู่ในวังวนข่าวอื้อฉาวแบบนี้ พร้อมทั้งโกรธและขุ่นเคืองทันที
“ผู้หญิงคนหนึ่งไม่รักนวลสงวนตัวจนท้องไม่มีพ่อก็พอไปวัดไปวาได้ แต่ทั้งๆ ที่ตาธัสเขามีสัญญาแต่งงานกับหนูอยู่แล้ว เธอยังจงใจเกี่ยวพันไม่เลิก! ผู้หญิงแบบนี้ อยากจะแต่งงานกับตาธัสจนตัวสั่น ฉันไม่มีวันจะยอมรับเป็นอันขาด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...