ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1017

หลังจากที่เย่เทียนพูดจบเชฟก็ได้เคลื่อนไหวแล้ว ในแขนเสื้อของเขามีมีดกินอาหารเพิ่มขึ้นมาเล่มหนึ่ง ดูแล้วฐานะที่แท้จริงของหมอนี่คงไม่ใช่เชฟแน่ๆ

แต่เย่เทียนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าถูกคนที่เป็นแค่นักฆ่าที่ช่ำชองทำร้าย มันคงเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากเลยล่ะ

หลังจากที่เชฟยื่นมีดในมือออกไปก็รับรู้ถึงการขัดขวางที่นึกไม่ถึง มือที่ถือมีดของเขาถูกใครบางคนจับเอาไว้ได้ แค่จะขยับยังเป็นเรื่องที่ยากลำบากเลย

“นี่แก!” เชฟตะโกนออกมาด้วยความตกใจ อยากที่จะชักมือกลับ

เชฟเองก็ไม่ใช่คนทั่วไป การเป็นนักฆ่าที่ถูกฝึกฝนออกมาโดยเฉพาะ ก็ต้องเคยผ่านการฝึกฝนที่ยากลำบากมาก่อนถึงมีฝีมืออย่างวันนี้ได้ แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ เย่เทียนมีแรงเยอะกว่าเขาเสียอีก!

เชฟนั้นถือเป็นสายเลือดยุโรปในอุดมคติเลย ถึงจะใส่ชุดพ่อครัวที่ค่อนข้างหลวม แต่ก็ไม่สามารถปิดบังร่างกายที่กำยำของเขาเอาไว้ได้! หันมองมาที่เย่เทียนล่ะ? เมื่อเทียบหุ่นกับเขาแล้วมันก็ดูอ่อนแอไปเลย

แต่ด้วยร่างกายที่ผอมบางแบบนี้กลับมีพละกำลังที่เชฟเองก็นึกไม่ถึง

“ป๊าบ!”

ช่ายเหมยเป่านั้นเร็วยิ่งกว่าเย่เทียน ในตอนที่เชฟลงมือ พนักงานที่ทำหน้าที่เข็นรถเข็นอาหารก็เอามือลงไปใต้จานแล้วหยิบปืนพกขึ้นมากระบอกหนึ่งเล็งไปที่ช่ายเหมยเป่า

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำร้ายผู้หญิง แต่เป็นเพราะต้องการใช้ช่ายเหมยเป่ามีส่วนควบคุมเย่เทียน ทำให้เย่เทียนยอมทำตามที่สั่ง

แต่น่าเสียดายที่เขาใสซื่อเกินไป ในใจของนางปีศาจอย่างช่ายเหมยเป่านั้นเดือดดาลมาก ตอนนี้มาถึงคนใช้ปืนจ่ออยู่แบบนี้ นิสัยที่เจ้าอารมณ์ของเธอก็ได้ระเบิดออก

พนักงานรู้สึกถึงแค่ลมหอมๆ พัดผ่านหน้าไป แล้วช่ายเหมยเป่าก็หายวับไปกับตา

เห็นผีแล้ว ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้ นี่ยังใช่คนอยู่มั้ยเนี่ย!

ในหัวของเขามีเวลาคิดได้แค่นั้น จากนั้นก็รู้สึกถึงแรงที่กระแทกใส่ท้ายทอย หน้ามืดแล้วล้มลงไปบนรถเข็นอาหารจนเกิดเสียงดังขึ้นเบาๆ

เย่เทียนที่เห็นอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าช่ายเหมยเป่ากำลังโชว์ฝีมือให้ตัวเองดู ถึงเขาจะมีเทคนิคในการฆ่าคนมากมาย แต่ด้วยฝีมือของเขาก็ยังเจ็บหนักอยู่ดี

เย่เทียนยื่นมือที่ว่างออกไปทันที โจมตีไปที่สะบักของเชฟ จนเกิดเสียงดังขึ้น ทำเอาเชฟถึงกับเหงื่อเย็นไหลออกที่หน้าผากเลย

“เชี่ย!”

เย่เทียนปล่อยมือข้างที่จับแขนของเชฟออก ครั้งนี้เขาไม่จำเป็นต้องลงมือ มีดที่อยู่ในมือของเชฟก็ได้หล่นลงพื้น

และเย่เทียนก็ไม่รอให้เชฟได้ทันตั้งตัว แทงเข็มเงินเล่มหนึ่งเข้าไปที่หน้าผากของเชฟ

“กะ…แกใช้เวทมนตร์อะไรกับฉัน! ทำไมฉันถึงขยับไม่ได้!” เชฟมองไปที่เย่เทียนด้วยความร้อนรนแล้วเริ่มโวยวายออกมา ในสถานการณ์ที่คับขัน ความสามารถด้านภาษาจีนของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคำที่พูดออกมานั้นชัดเจนอย่างมาก

“ก็แค่เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ถ้าคุณยอมตอบคำถามผมมาแต่โดยดี ผมก็จะปล่อยคุณไป!” เย่เทียนจ้องมองเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่แววตาของเขากลับเปี่ยมไปด้วยความเยือกเย็น ทำเอาเชฟที่สบตาแล้วต้องรีบหลบตาทันที

“หืม?” ในตอนที่เย่เทียนกำลังรู้สึกสิ้นหวังอยู่นั้นเอง เขาก็เหลือบไปเห็นรอยสักที่อยู่ตรงคอของเชฟ มันเป็นตัวอักษรสี่ตัวที่เขียนว่าdmadแถมตัวอักษรนี่ยังมีอยู่บนตัวของพนักงานด้วย แบบนี้ก็แสดงว่ามันต้องงไม่ใช่ความชอบส่วนตัวแน่นอน

“เดดมอนด์ ดูท่านี่น่าจะเป็นนักฆ่าแบบตระกูลสินะ!” เนื่องจากช่ายเหมยเป่ารู้จักวัฒนธรรมของยุโรปมากกว่านิดหน่อย หลังจากที่ได้เห็นตัวอักษรเหล่านี้เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

“ทำไม? ตระกูลเดดมอนด์นี่แข็งแกร่งมากเลยเหรอ?” พอเย่เทียนได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มสนใจ ดูผิวเผินเหมือนเขาจะไม่ได้ไปหาเรื่องตระกูลนี้เข้านะ!

“ท่านผู้นำ เกิดอะไรขึ้นครับ?” ชิโปโตะเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน พอเห็นศพที่นอนอยู่บนพื้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ควรพูดแต่ไม่พูด เหมือนผู้นำในใจคนนี้จะมีร่างกายที่ค่อนข้างพิเศษนะ! นี่เพิ่งผ่านไปไม่เท่าไหร่ก็มีคนเอาชีวิตมาทิ้งตั้งเยอะแล้ว ทำเอาเขารู้สึกว่าอยากจะซื้อประกันขึ้นมายังไงไม่รู้….

“ดูเหมือนว่าจะพักที่โรงแรมต่อไปไม่ได้แล้ว!” พอได้รู้ว่าสองคนนี้เป็นคนจากตระกูลเดดมอนด์แล้ว ชิโปโตะก็พูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

เขามองเย่เทียนทีหนึ่ง “ท่านผู้นำ ตระกูลเดดมอนด์นั้นค่อนข้างมีอำนาจในเจนัวครับ ตอนนี้แค่ส่งคนมาดูลาดเลาเท่านั้น ถ้าถูกพวกนั้นล้อมไว้ละก็แย่แน่!”

เย่เทียนรู้สึกเหนื่อยใจมาก ทำไมตัวเองเพิ่งมาถึงอิตาลีก็เกิดเรื่องขึ้นมาเยอะขนาดนี้แล้ว!

“แล้วเราจะไปไหนกันล่ะ?” เย่เทียนจ้องมองชิโปโตะที่ทำน้าร้อนรน

ชิโปโตะกลับหันมายิงฟันแล้วยิ้มให้ “เรื่องนี้ท่านผู้นำไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับผมแล้วที่นี่ก็คือบ้านเกิดแห่งที่สองของผม เดดมอนด์นั้นพูดได้แค่ว่ามีอำนาจ แต่ถ้าอยากคุมทั้งหมดก็ยังเป็นไปไม่ได้! มากับผม รับรองว่าครั้งนี้ต้องไม่มีปัญหาแน่นอนครับ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่