ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1299

“ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเดินมาถึงขั้นนี้ได้” โอฮาระ ฟุคุริมองเย่เทียน

เย่เทียนส่ายหน้าอย่างดูถูก “อย่าเสียใจไปเลย พวกนายก็รอวันนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

“ดูแล้วนายมีลูกเล่นจริงๆด้วยสินะ!” โอฮาระ ฟุคุริหันกลับไปมองพวกองเมียวจิที่ยังคงทำความเคารพอยู่

“ไม่คิดว่าจะมีหนึ่งในองเมียวจิที่ทรยศ แต่ไม่เป็นไร รบครั้งนี้เป็นตายร้ายดีฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ถึงแม้โอฮาระ ฟุคุริจะเข้าวงการได้ไม่นาน แต่เขากลับมีพลังที่เป็นเอกลักษณ์

ในตอนที่เขาเข้าวงการได้ไม่นานก็ปราบองเมียวจิทุกคนได้แล้ว

ต่อมาก็ใช้อำนาจเผด็จการของเขาจนกลายมาเป็นหัวหน้าลับขององเมียวจิ แต่เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน หัวหน้าสมาคมองเมียวจิไม่ได้ปรากฏตัวที่นี่ก็อธิบายปัญหาได้มากมายแล้ว

ถึงแม้เย่เทียนจะมั่นใจในตัวเอง แต่เขาก็ไม่ประมาทง่ายๆ

ก่อนหน้านี้เขาศึกษาองเมียวจิจากหน่วยรบพิเศษมาบ้างแล้ว และรู้เรื่องของโอฮาระ ฟุคุริมาบ้างแล้วเหมือนกัน

หลังจากที่อ่านเอกสารราชการมาหลายฉบับ ในสมองของเขาก็มีคำหนึ่งปรากฏขึ้น ปีศาจ!

เจ้าหมอนี่เก่งมาก จัดการไม่ได้ง่ายๆ และคาวาอิยูที่อยู่ข้างๆก็เหมือนกัน

ทั้งสองมีนิสัยคนละขั้ว และตามข้อมูลในเอกสารราชการ คาวาอิยูก็เป็นคนที่ต่อกรไม่ได้ง่ายๆเหมือนกัน และกระบวนท่าบางอย่างของคาวาอิยูก็ถูกบันทึกไว้เหมือนกัน

บันทึกได้ละเอียดขนาดนี้ คนทรยศที่โอฮาระ ฟุคุริพูดถึงก็คงจะเป็นหัวหน้าสมาคมองเมียวจิคนปัจจุบัน

เพราะยังไงนอกจากท่านนี้แล้ว การจะเอาข้อมูลพวกนี้มาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

แน่นอนว่า เรื่องวุ่นวายของสมาคมองเมียวจิไม่เกี่ยวกับเย่เทียน เขาแค่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้าก็พอ

“เข้ามาเถอะ ครั้งก่อนสู้ได้ไม่สุดเลย แต่ครั้งนี้……”

เย่เทียนว่าแล้วก็เริ่มมีแสงสีทองประกายออกมา จักรพรรดิเก้าท่ารวมกับวิชากระบี่ นี่ก็คือการโจมตีที่แรงที่สุดในตอนนี้ของเย่เทียน

เรื่องราวเกิดขึ้นติดต่อกันเรื่อยๆ ถึงแม้ในสมองของเขาจะมีวิชากระบี่นับไม่ถ้วนที่รอให้เขาไปค้นพบ แต่ก็ไม่มีโอกาสที่เหมาะสมสักที

ถ้าจบจากศึกครั้งนี้เย่เทียน ตัดสินใจพักจำศีลสักช่วงหนึ่ง ทั้งยังต้องคิดวิเคราะห์การต่อสู้ของตัวเอง และต้องรวบรวมวิชายุทธ์ทั้งหมดด้วย

การจำศีลภาวนาก็เหมือนกับการอ่านหนังสือ

ทุกคนได้รับวิชายุทธ์ที่เหมือนกันแต่กลับเข้าใจและรับรู้แตกต่างกัน ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเหมือนกันแต่ก็มีรายละเอียดเล็กน้อยที่แตกต่างกัน

และความแตกต่างนี้ก็ตัดสินอนาคตของคนคนหนึ่งเช่นกัน

ตอนนี้เย่เทียนเป็นทุกอย่าง เรียนรู้ทุกอย่างแต่ไม่บรรลุ ถ้าตอนต่อสู้จริง สิ่งที่ใช้ได้กลับมีน้อยมาก ถึงแม้จะก้าวไปอีกระดับแล้วก็ตาม แต่พูดตามความจริง นี่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย

เพราะยังไงการยกระดับตำแหน่งของเขาก็แค่ทำให้การต่อสู้ของเขายืดยาวไปก็เท่านั้นเอง

“ดีมาก!ครั้งนี้ฉันจะสับนายให้ละเอียดเป็นชิ้นๆเลย!” คาวาอิยูพูดเสียงดังฟังชัด ชักกระบี่ยาวที่เหน็บตรงเอวออกมา

ร่างกายมีแสงสีแดงแตกกระจายออกมา สายตาเริ่มถูกแสงสีแดงเข้าครอบงำ ผมยาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อยๆ ทำให้ทั้งตัวของเขาเหมือนถูกไฟคลอกทั้งตัว

เห็นได้ชัดว่า คาวาอิยูเริ่มแรกก็ใช้ชิกิคามิของตัวเองแล้ว

“อาทิตย์ ฟันผูกวิญญาณ!”

คาวาอิยูเริ่มโจมตีก่อน ดาบยาวในมือฟันไปยังเย่เทียนกลางอากาศ

แสงสีแดงพุ่งไปยังเย่เทียนเหมือนเชือกที่เฉียบคม

แต่ดาบในมือของเขายังคงถือไว้แน่น

เย่เทียนอดไม่ได้เลิกคิ้วขึ้น เหมือนจะสังเกตเห็นอะไร แต่คาวาอิยูไม่ให้โอกาสเขาไหวตัวทัน

“ล็อก!”

คาวาอิยูเสียบดาบลงบนพื้นอย่างแรง

พื้นตรงหน้าเขาแตกออกจากกัน จากนั้นอัคคีเพลิงพวกนั้นก็สั่นสะเทือนขึ้นมา สุดท้ายบนสุดของอัคคีเพลิงก็มีแสงสีแดงระเบิดออก ถ้าแหงนมองบนฟ้าจะเห็นวิชาค่ายกลสีแดงแปลกๆปรากฏขึ้น

“เย่เทียน ตอนนี้ฉันจะดูสิว่านายจะหนีรอดยังไง!”

คาวาอิยูลุกขึ้นยืนตรงช้าๆ เลียดาบยาวในมือช้าๆ

อาการในตอนนี้ไม่ดีมากๆ เพราะยังไงการสร้างค่ายกลเมื่อกี้ใช้เมื่อกี้พลังของเขามากเกินไป ถึงจะมีชิกิคามิคอยช่วย แต่เขาก็ยังรู้สึกว่างเปล่าอยู่ดี

แต่ยังดีที่เขาไม่ได้ต่อสู้คนเดียว

ฝ่ามือมีความเยือกเย็นแนบอยู่บนแผ่นหลังของเขา แสงสีขาวอ่อนๆครอบงำตัวเขาไว้ คาวาอิยูที่ตอนแรกยังเหนื่อยล้าก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว พลังก็กลับคืนมาอีกครั้ง

สายตาที่มองไปยังเย่เทียนเหมือนกำลังมองเหยื่อที่ตกลงไปในกับดักของตัวเอง

“ฉันเกลียดค่ายกล!”

เย่เทียนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ

ถ้ามีค่ายกลปรากฏขึ้น นั่นแสดงว่าต้องใช้พลังมากขึ้นถึงจะถอนได้ น่ารำคาญมาก!

“มาจบเรื่องนี้กันเถอะ!ฉันยอมรับว่านายเก่งมาก แต่การกระทำของนายมันโง่เกินไปหน่อย!” คาวาอิยูทำท่าราวกับตัวเองชนะแล้ว “ชาติหน้าจำไว้ด้วยว่า อย่าให้เวลาองเมียวจิมีเวลาสร้างค่ายกล ไม่งั้นนายจะตายอนาถกว่าเดิม!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่