ถึงแม้บอกว่าการก่อสร้างที่เขาเสี่ยวหมางเสร็จงานไปส่วนใหญ่แล้ว แต่ยังคงมีสถานที่ซ่อนเร้นไม่น้อยกำลังก่อสร้างช้าๆ
สถานที่พวกนี้ไม่ใช่อะไรนอกจากสถานที่ลึกลับแท้จริงของสำนักชิงหนัง ดังนั้นมีเพียงนักพรตเหอจึงลงมือคนเดียว ส่วนคนอื่นรวมทั้งเย่เทียนถึงแม้อยากช่วยเหลือก็ไม่มีทางลงมือได้
ประเด็นคือวิชาค่ายกลด้านนี้นักพรตเหอล้ำหน้าไปมากกว่าทุกคนเหลือเกิน
ดีที่สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นที่เกี่ยวกับด้านการฝึกฝนล้วนสร้างจนเสร็จสมบูรณ์หมด ตอนเย่เทียนพาสมาชิกกองกำลังพิเศษมาถึงห้องฝึกฝน ทุกคนล้วนตกใจค้างแล้ว
ความเข้มข้นของชี่ทิพย์ในที่นี้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจมากขึ้น พูดอย่างไม่เกินจริง แม้แต่ตอนนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ทรัพยากรจัดหามาได้เพียบพร้อม ฝึกฝนอยู่ที่นี่วันหนึ่งก็เหมือนฝึกที่ข้างนอกหนึ่งเดือนเต็มๆ เลยทีเดียว
“ชี่ทิพย์เข้มข้นมากเลย! ถ้าฝึกฝนอย่างหนักอยู่ที่นี่ได้ ครั้งนี้พวกลูกหลานของตระกูลบู๊โบราณเหล่านั้นยังคิดจะมาแข่งขันอีกเหรอ?”
“เหอะๆ ตอนนี้ผมยิ่งรอคอยให้งานชุมนุมเริ่มต้นขึ้นแล้วสิ แบบนี้ถึงสามารถให้พวกเขาเห็นความเก่งกาจของพวกเราดีๆ สักหน่อย!”
สมาชิกกองกำลังพิเศษเหล่านี้ส่วนมากเคยโดนคนของตระกูลบู๊โบราณเล่นงาน นี่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เพียงแค่ตอนนั้นกลยุทธ์ของพวกเขาเน้นหนักที่คำว่าอดทน ในใจอึดอัดมากแค่ไหนแค่คิดก็รู้ได้
ตอนนี้เงื่อนไขการฝึกฝนยกสูงขึ้น ถ้ายังปล่อยคนพวกนี้ก้าวร้าวต่อไปอีก งั้นพวกเขายังไม่มีหน้าไปพูดจริงว่าตนเองชนะอย่างมีเกียรติอะไรแล้ว
เย่เทียนกลับขมวดคิ้วแล้ว
ก่อนหน้างานชุมนุมเริ่มต้นมีปณิธานแบบนี้ก็ดี แต่หยิ่งยโสจะทำให้คนหลงตัวเอง เขามีหน้าที่ทำให้คนกลุ่มนี้รับรู้ว่าอะไรคือความสามารถของลูกหลานตระกูลชั้นสูงที่แท้จริง
เฉิงชิ่งกลายเป็นตัวเลือกชั้นดีในการฝึกซ้อมครั้งนี้อย่างไม่มีข้อยกเว้น
“ผมรู้ว่าในใจพวกคุณค่อนข้างไม่พอใจ แต่ผมอยากเตือนสติพวกคุณหน่อยว่าลูกหลานตระกูลบู๊โบราณถึงแม้มีคนไม่ได้เรื่องส่วนหนึ่ง แต่มากกว่านั้นเป็นผู้สืบทอดสายตรงที่พวกเขาตั้งใจอบรมเลี้ยงดูออกมา”
“ส่วนพวกคุณล่ะ? ถึงแม้ตอนนี้มีทรัพยากร แต่ถ้าพูดถึงความสามารถอันแท้จริง พวกคุณยังด้อยกว่านิดหน่อย!”
คำพูดของเย่เทียนทำให้สมาชิกกองกำลังพิเศษเหล่านี้เศร้าใจพอสมควร หรือว่าพวกเขาตีทีเดียวก็แพ้ขนาดนี้? แค่คนที่พูดจาบนเวทีเป็นเย่เทียน ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นละก็ เวลานี้เดาว่าเพียงแค่แรงอาฆาตพยาบาทที่กระจายออกมาจากสายตาก็พอจะทำให้คนพังทลายได้
“ทำไม? ไม่ยอมรับใช่หรือไม่?”
มุมปากเย่เทียนมีรอยยิ้ม เพียงแค่ในสายตาทุกคนกลับคือแววของการดูถูกอย่างยิ่ง
“ดีมาก! ผมชอบสายตานี้ของพวกคุณ จำเอาไว้ นี่ถึงเป็นลักษณะที่พวกคุณควรแสดงออกมา!” เย่เทียนพยักหน้าแล้ว จากนั้นชี้ไปยังเฉิงชิ่ง
“คนนี้นะก็คือคุณชายตระกูลชั้นสูงของตระกูลเฉิง เฉิงชิ่ง ถึงแม้บอกว่าตอนนี้เป็นผู้อาวุโสของสำนักชิงหนัง แต่เขาสามารถเป็นตัวแทนความสามารถของลูกหลานญาติสายตรงในตระกูลบู๊โบราณส่วนใหญ่ได้!”
มุมปากของเฉิงชิ่งกระตุกเล็กน้อย ความสามารถของเขาเอามาเปรียบเทียบกับพวกไม่เอาไหนเหล่านั้นได้เหรอ? เขารู้สึกว่าเย่เทียนกำลังด่าเขาอยู่
เย่เทียนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ “ต่อไปนี้ยังมีเวลาอีกสามวัน สิ่งที่พวกคุณต้องทำก็คือล้มเขา! ไม่ว่าพวกคุณใช้วิธีอะไร ขอเพียงพวกคุณสามารถทำจุดนี้ได้ ผมก็ยอมรับว่ากองกำลังพิเศษยังมีความสามารถต่อสู้อยู่บ้าง”
“ไม่เช่นนั้นละก็ การแข่งขันอะไรก็ไม่ต้องเข้าร่วมทั้งนั้น! จะไปขายขี้หน้าเปล่าๆ ยังไม่สู้ไสหัวไปตั้งใจฝึกฝนจะดีกว่า!”
อินเจิ้งและคนอื่นมองฉากที่คุ้นเคยอันนี้อยู่มุมปากกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง มาแล้ว ครูฝึกปีศาจร้ายที่น่ากลัวคนนั้นมาอีกแล้ว นึกถึงตอนแรกที่เย่เทียนอยู่หุบเขาหนอนฝึกซ้อมให้พวกเขา แม้ว่าตอนนี้ก็บรรลุถึงยอดฝีมือระดับดินขั้นสูงสุดแล้ว อินเจิ้งยังคงรู้สึกว่าขาของตนเองกระตุกอยู่บ้าง
เฉิงชิ่งช่วงเริ่มต้นยังเบ้ปากแบบรู้สึกว่าไม่มีอะไร แต่หลังจากคำพูดของเย่เทียนจบลง ตรงด้านล่างสายตาของสมาชิกกองกำลังพิเศษเหล่านั้นเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง
ถูกสายตาแบบนี้จ้องไว้ เฉิงชิ่งมักรู้สึกว่าตนเองสับสนพอสมควร แม้กระทั่งเริ่มรู้สึกคอแห้งผาก
ข้างล่างตรงนี้ยังเป็นคนที่ไหนกัน นี่เป็นหมาป่าหิวโซหลายตัวชัดๆ
“พี่ใหญ่ ฉันรู้สึกว่าคนพวกนี้จะฉีกเนื้อฉันแล้วนะ!”
ระหว่างที่ผู้ชายคนนี้พูดอยู่ใช้นิ้วมือถูริมฝีปากสักนิด ดูขึ้นมาวิตถารมาก
เย่เทียนแม้แต่พูดก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ต่อยเข้าไปหมัดหนึ่งโดยตรง
รู้สึกได้ถึงแรงหมัดอันทรงพลังนั้น ผู้ชายคนนี้สีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน ทันใดนั้นร่างกายปรากฏหมอกสีแดงชั้นหนึ่งขึ้นฉับพลันคลุมตนเองเอาไว้ จากนั้นกลายเป็นค้างคาวตัวหนึ่งอยากจะหนีไปทันที
แต่เพิ่งบินขึ้นก็โดนขังไว้กลางอากาศแล้ว
“ที่นี่เป็นถิ่นฐานของฉัน!”
เย่เทียนพูดประโยคหนึ่งแบบนิ่งๆ “ออกมาเถอะ นายคงไม่อยากเห็นฉันบีบมันจนตายไปหรอกมั้ง!”
หลังจากเสียงพูดของเย่เทียนจบลง ชายกำยำที่รูปร่างสูงใหญ่ และบนศีรษะมีเขาสองอันคนหนึ่งค่อยๆ ขึ้นมาจากใต้ดิน ขอเพียงเป็นพื้นที่ที่เขาเหยียบย่ำล้วนกลายเป็นลาวาทั้งหมด
“ไม่เสียงแรงเป็นผู้ชายที่กำจัดสมเด็จพระสันตะปาปา พูดตามตรง เรื่องนี้ฉันจินตนาการมาหลายร้อยปีเลยนะ นึกไม่ถึงถูกนายทำสำเร็จแล้ว”
เย่เทียนยักไหล่ขึ้นหน่อย “นั่นได้เพียงอธิบายว่านายอ่อนหัดเกินไป!”
เปลี่ยนเป็นคนอื่นพูดขนาดนี้ดู เดาว่าชายกำยำจะตบอีกฝ่ายตายในทีเดียว แต่ความสามาถที่เย่เทียนแสดงออกมาก็คือต้นทุนที่เขากำเริบเสิบสานเยาะเย้ยได้ ถึงแม้เป็นเขาก็ทำได้เพียงฟังเฉยๆ
“เย่เทียน ฉันไม่ได้มีความเป็นศัตรูอะไร บางทีพวกเราก็ไม่ควรจะมองอีกฝ่ายเป็นศัตรูแบบนี้ ครั้งนี้ที่มาเพียงแค่อยากจะเจรจาร่วมงานกันหน่อยเท่านั้น”
“ร่วมงาน? เหมือนว่าฉันไม่มีความจำเป็นต้องร่วมงานกับพวกนายนะ ใช่แล้ว นายเป็นคนของกลุ่มไหนนะ?”
เผชิญหน้ากับคำถามนี้ของเย่เทียน สีหน้าของชายกำยำก็ดูแย่เหมือนกินแมลงวัน สุดท้ายได้เพียงพูดแบบเสียงทุ้มอยู่ในคอ “หมายเลขสิบสาม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...