ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 794

ปั้ง!

ฮาชิโมโตะ มินาโตะที่เดินออกจากดาดฟ้าได้สั่งให้คนล็อกประตูของดาดฟ้าไว้ แล้วพาทุกคนลงมาชั้นหนึ่งโดยไม่สนใจการต่อสู้ของเย่เทียนกับเสชื่ออีก

เห็นเพียงดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้นของเธอมองไปยังสำนักงานใหญ่แก๊งหวงจี๋ที่อยู่ไม่ไกล ใบหน้าที่งดงามได้แสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมา ขอแค่เธอสามารถจัดการทุกคนที่อยู่ข้างในได้ เธอก็อาจจะสามารถควบคุมกองกำลังใต้ดินของเมืองจินก็ได้!

“แจ้งพวกของอูชิงเจ๋อที่ซ่อนตัวอยู่ บอกพวกเขาให้บุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่พร้อมกับเรา!

พวกที่ติดตามฮาชิโมโตะ มินาโตะมาต่างพากันเคลื่อนไหว โดยไปรวมตัวกับพวกลูกน้องของอูชิงเจ๋อ แล้วบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่พร้อมกัน

คนของกู่เจิ้นเจียงที่ซ่อนตัวอยู่ไม่รู้ว่ากู่เจิ้นเจียงได้ตายไปแล้ว พอเห็นลูกน้องของอูชิงเจ๋อเริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาก็เคลื่อนไหวโดยการบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่พร้อมกัน

“เชี่ย! ทำไมพวกนั้นถึงสู้กันเองแล้วละ? อย่าบอกนะว่าทางพี่ใหญ่ล้มเหลวแล้ว?”

“ไม่หรอกมั้ง? ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่คงส่งสัญญาณให้เราตั้งนานแล้ว”

“จะพูดมากไปทำไม? พี่ใหญ่ยังอยู่ในนั้นนะ! บุกเข้าไปก่อนค่อยว่ากัน!”

หลังจากที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี คนของแก๊งมังกรฟ้าก็ตั้งสติได้ พวกเขานั้นถือเป็นหัวกะทิในหัวกะทิเลย ถึงจะมีแค่ร้อยกว่าคน แต่ก็ไม่ได้มีความหวาดหวั่นแม้แต่น้อย แถมแต่ละคนยังพร้อมสู้อย่างเต็มที่ด้วย!

ไม่นาน กองกำลังของทั้งสามฝ่ายก็มารวมกันอยู่ตรงประตูทางเข้าสำนักงานใหญ่ของแก๊งหวงจี๋ การตะลุมบอนครั้งใหญ่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เสียงฆ่าฟันดังกึกก้อง!

ส่วนหอประชุมที่อยู่บนตึก หลังจากที่กู่เจิ้นเจียงล้มลง กลิ่นคาวเลือดอ่อนๆ ก็เริ่มอบอวลไปทั่ว กระตุ้นอารมณ์ของทุกคน

“เคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน!”

สวีพานมองไปยังหยางซิงไห่ที่ลงมือด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ภาพเหตุการณ์ที่น่าตกใจเมื่อกี้ ทำให้โรคหัวใจของเขาแทบกำเริบเลย

ส่วนกู้หยุนก็ค่อยๆ ตั้งสติได้ ดวงตาอันสวยงามจ้องมองไปยังหยางซิงไห่ด้วยความตื้นตัน

หยงซิงไห่เหมือนจะรับรู้ได้ จึงพยักหน้าเบาๆ แล้วไปยืนอยู่ด้านหลังของกู้หยุนโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เหลยเหลาหู่ก็แอบโล่งอกไปเหมือนกัน การที่ส่งหยางซิงไห่ให้ไปอยู่กับอูชิงเจ๋อ เดิมทีก็เพื่อให้ไปสืบว่าฮาชิโมโตะ มินาโตะที่อยู่เบื้องหลังอูชิงเจ๋อมีการเคลื่อนไหวอะไรบ้าง ไม่นึกเลยว่าในช่วงชุลมุนจะสามารถช่วยชีวิตของกูหยุนเอาไว้ได้

ปั้ง!

แต่ทว่า ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งสติได้ ประตูของหอประชุมก็ถูกคนพังเข้ามา คนของแก๊งมังกรฟ้าคนหนึ่งได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนเสียงดังว่า “พี่ใหญ่ แย่แล้ว ฮาชิโมโตะ มินาโตะนั่นจะพาคนบุกเข้ามาแล้วครับ!”

นี่มันก็ถือเป็นเรื่องปกติ ที่ทางฮาชิโมโตะ มินาโตะจะเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน บวกกับการที่มีนักฆ่าชั้นยอดอีกหลายคนคอยช่วย จึงมีความหวังมากสุดที่จะบุกเข้ามาในสำนักงานใหญ่ของแก๊งหวงจี๋

“ฉันคิดไว้แล้วว่านังนั่นต้องรับมือไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน!”

เหลยเหลาหู่สบถออกมา ยกปืนเล็งไปที่อูชิงเจ๋ออย่างไม่ลังเล แล้วลั่นไกทันที

ปั้ง!

อูชิงเจ๋อไม่มีทางคาดคิดว่าเหลยเหลาหู่จะลงมือแบบนี้ จึงได้กินลูกตะกั่วไปลูกหนึ่ง สองตาเบิกกว้าง แล้วล้มลงด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

“พวกคุณยอมสนับสนุนคุณกู้แล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกคุณจะได้แสดงความจงรักภักดีแล้ว!”

เหลยเหลาหู่กวาดตามองผู้คนที่กำลังตกตะลึง แล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ตอนนี้อูชิงเจ๋อตายแล้ว ถ้าพวกคุณไม่อยากให้แก๊งหวงจี๋ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นและถ้าไม่อยากตายละก็ ให้มารวมกันอยู่ข้างหน้าให้หมด ขวางนังฮาชิโมโตะ มินาโตะไว้ให้ได้ เพื่อรอคนของผมมา!”

มีหนึ่งในนั้นรู้สึกไม่พอใจ “ทำไมเราต้องเป็นคนไปขวาง….”

ปั้ง!

แต่น่าเสียดาย เหลยเหลาหู่ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดจบก็ส่งกระสุนให้กินไปเม็ดหนึ่ง ทำให้เขาต้องเดินตามอูชิงเจ๋อไปในพริบตา

ดวงตาดั่งเสือของเหลยเหลาหู่จ้องมองไปยังทุกคน แล้วพูดอย่างอาฆาตว่า “ถึงผมจะเป็นคนที่มีเหตุผล แต่ว่าตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่จะคุยเรื่องเหตุผล ถ้าใครแม่ฃยังข้องใจอีกก็ก้าวออกมา ฉันจะส่งพวกแกลงไปรวมทีมกันข้างล่างเอง!”

ทุกคนยังมีใครกล้าพูดอะไรอีก ต่างพากันมองกันไปกันมา กลัวจะได้ลิ้มรสลูกกระสุนของเหลยเหลาหู่เข้า

เย่เทียนเบ้ปาก เสียงฆ่าฟันด้านล่างดังเข้ามาในหู และรู้ว่ายิ่งจัดการหมอนี่ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี

พอคิดได้อย่างนั้น เย่เทียนก็ไม่อยากเสียเวลากับเขาอีก ขยับขาแล้วพุ่งขึ้นกลางอากาศ แล้วเตะกลับหลังไปที่หัวของเสชื่อ

เสชื่อขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ระหว่างที่หมุนตัวกลับ กระบี่สั้นในมือก็ฟันเข้าไปที่หลังของเย่เทียน

พอรับรู้ถึงเสียงลมที่ดังมาจากด้านหลัง เย่เทียนก็ดึงการโจมตีกลับ แล้วเปลี่ยนเป็นการถีบแทน

ตุบ!

เย่เทียนถีบเข้าไปที่แขนของเสชื่อ ตอนที่บังคับให้คมกระบี่ในมือของเสชื่อเปลี่ยนทิศ เขาก็อาศัยแรงนั้นเด้งตัวไปข้างหลัง แล้วลงพื้นอย่างมั่นคงและสบายใจ

นี่มันเป็นเพียงแค่การดูเชิงของอีกฝ่ายเท่านั้น และยังไม่ได้เอาจริงเลย แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้ทั้งคู่ได้รู้แล้วว่าฝีมือของอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลย!

ดวงตาคู่นั้นของเสชื่อที่มองไปยังเย่เทียนส่องแสงเป็นประกาย ลิ้นที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากทนไม่ไหวจนต้องเลียริมฝีปากที่แห้งกรัง

“ฉันยอมรับว่าดูถูกแกเกินไป แต่ฉันก็เชื่อว่าผลลัพธ์ในคืนนี้ยังเหมือนเดิม สุดท้ายแล้วแกก็จะตายด้วยน้ำมือของฉันอยู่ดี!”

เสชื่อขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ แต่อาการชาที่ส่งมาจากเเขน ทำให้เขาแอบระวังตื่นตัวขึ้นมาอย่างมาก

“ไม่สิ คุณปล่อยผมไปสักครั้งดีมั้ย?”

เย่เทียนมองเขาด้วยความจนใจ ส่ายหน้าแล้วพูดไปว่า “คุณก็กลับไปรายงานเบื้องบนว่าฆ่าผมไปแล้ว แค่นี้เราสองคนก็ไม่ต้องสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้ว”

เสชื่อส่ายหน้า แล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า “เป็นต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ คืนนี้แกต้องตายสถานเดียว!”

“ดูท่าเราคงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”

เย่เทียนมองบนอย่างไม่สบอารมณ์ พอนึกถึงปีศาจเลือดผู้น่าเกรงขามที่ยังซ่อนอยู่ในเงามืด ถ้าต้องเสียกำลังกับเสชื่อมากเกินไป ตอนที่ปีศาจเลือดออกมาก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว…..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่