ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 858

“เย่เทียน ให้ฉันเห็นหน่อยเถอะว่านายมีความสามารถอะไร!”

มองเห็นข่งเทียนหยินถอยออกมาแล้ว กัวหมิงเลี่ยงก็ไม่มัวไร้สาระกับเย่เทียนต่อไปอีกโดยสิ้นเชิง ส่งเสียงพึมพำแบบเย็นชาออกมาจากในปาก รีบกวัดแกว่งกระบี่ยาวในมือทันที คมกระบี่ดุเดือดฟันเข้าไปยังเย่เทียนแบบก้าวรุดไปข้างหน้าโดยไม่หวาดหวั่น

“คิดจริงเหรอว่าฉันจะกลัวนาย?”

เรื่องราวบานปลายมาถึงขั้นนี้ เย่เทียนยังกลัวหัวหดได้ที่ไหน ขยับเท้าต่อเนื่อง โฉบเข้าไปทางกัวหมิงเลี่ยงอย่างห้าวหาญ

ฟึบๆ!

กระบี่ยาวราวกับสามารถแทงทะลุที่ว่างกลางอากาศได้ ส่งเสียงคำรามดังเป็นระลอก แรงกระบี่เย็นยะเยือกนั้นเหมือนว่าเกาะตัวกลายเป็นของแข็ง ทำให้เย่เทียนรู้สึกเพียงบริเวณหน้าอกมีความรู้สึกเจ็บจี๊ดลอยมารางๆ

“แรงกระบี่ก่อตัวขึ้น?”

ชั่วขณะนั้นสีหน้าเย่เทียนดูแย่ระดับหนึ่ง ถ้าไม่เคยตั้งใจศึกษาค้นคว้ากีฬาเคนโด้ ย่อมไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้เด็ดขาด แค่อาศัยเพียงจุดนี้ พอจะอธิบายได้แล้วว่ากัวหมิงเลี่ยงไม่ใช่มีแค่ชื่อเสียงและไม่มีความสามารถนะ!

นึกถึงตรงนี้ ในใจเย่เทียนกลัดกลุ้มถึงขีดสุด นี่ยังไม่ทันใช้งานพลังภายใน กัวหมิงเลี่ยงก็แสดงความสามารถที่ดูถูกไม่ได้ออกมาแล้ว ถ้าใช้พลังภายในขึ้นมา นั่นยังไม่ลอยขึ้นฟ้าไปอยู่เคียงข้างพระอาทิตย์เลยหรือไง?(แสดงถึงความเก่งกาจมาก)

เปรียบเทียบขึ้นมา ปัจจุบันนี้ถึงบอกว่ามีเหล้าปีศาจคลี่คลายพลังงานสองส่วนในร่างกายของเขาอยู่ แต่ถ้าสิ้นเปลืองเกินเหตุ ถึงตอนนั้นเข้าสู่การแข่งชิงสิทธิ์แล้วจะทำอย่างไร? ใครกล้ารับรองว่าข่งเทียนหยินยังมีเหล้าปีศาจอีก?

แต่เรื่องราวมาถึงตอนนี้ เย่เทียนไม่สนใจอะไรมากขนาดนั้นแล้ว คนอื่นเขาถือกระบี่มาฆ่า แม้ว่าเขาไม่อยากปะทะฝีมือเท่าไรก็ไม่อาจยืนรอความตายได้กระมัง?

เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง คัมภีร์หวงภายในร่างกายหมุนโคจรด้วยความเร็วสูง ชี่ทิพย์อันทรงพลังรวบรวมอยู่บนหมัดขวาทันที ต่อยเข้าไปอย่างรุนแรง

ตึง!

หมัดนี้ต่อยบนตัวกระบี่อย่างแรง เสี้ยววินาทีที่สัมผัสโดน เย่เทียนสามารถสัมผัสได้ว่ามีแรงกระบี่ดุเดือดส่วนหนึ่งพลอยลอยมาด้วย ทำให้มือขวาของเขามีความเจ็บปวดแบบเลือนราง

“ไสหัวออกไปให้ฉัน!”

เย่เทียนขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ในปากส่งเสียงตะโกนต่ำๆ หมัดขวาออกแรงฉับพลัน ดึงกระบี่ยาวไปด้านข้าง

“นายคิดว่าจะเป็นแบบนั้นเหรอ?”

มุมปากกัวหมิงเลี่ยงวาดรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้น ขยับเท้าซ้ายเบาๆ เขย่งเท้าขวา ถือโอกาสหมุนตัวสักครึ่งรอบ กระบี่ยาวที่ถูกดึงออกกรีดเข้าไปยังเย่เทียนอีกครั้ง

เพียงแต่ ถ้าสังเกตดูอย่างละเอียดแล้วละก็ ต้องเห็นได้เลยว่าแขนขวาของกัวหมิงเลี่ยงสั่นเทาเล็กน้อยสักครู่หนึ่ง จากจุดนี้มองออกได้ไม่ยาก เขาไม่อาจได้เปรียบต่อหมัดเมื่อสักครู่นั้นของเย่เทียน

ฟู่ๆ!

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร กระบี่ยาวกรีดเข้าไปยังส่วนเอวของเย่เทียนอีกครั้งแล้ว ตรงที่คมกระบี่กรีดผ่าน ปรากฏระลอกคลื่นผิดปกติในอากาศยิ่งกว่าเดิม คล้ายว่าแม้แต่อากาศที่ว่างเปล่ายังรับคมกระบี่ดุเดือดอันนี้ไม่ไหว

“เอ๋?”

เย่เทียนสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงน้อยนิดนี้เข้า กลับไม่กล้าฝืนรับ ขยับเท้าติดต่อกัน หลบออกมาแบบไม่ชัดเจน

แต่ เย่เทียนหลบเข้าไปแล้ว และโต๊ะเก้าอี้ด้านข้างของเขากลับไม่โชคดีขนาดนั้น ภายใต้แรงกระบี่อันดุเดือด โดนหักเป็นสองท่อนโดยตรง

โครม!

ทันใดนั้น โต๊ะเก้าที่ถูกฟันเป็นสองท่อนค่อยๆ หักร่วงลงพื้น ทำให้ห้องโถงที่เงียบงันกลับสู่ความวุ่นวายอีกระดับหนึ่ง

ข่งเทียนหยินมองจนหางตากระตุกหนักๆ บนหน้ายิ่งเผยลักษณะอันขมขื่นออกมา

ที่นี่เป็นโรงเตี๊ยมของเขา ข้าวของส่วนใหญ่ในที่นี้ล้วนเป็นเขาทำขึ้นมาด้วยตนเองทั้งสิ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมูลค่าของโต๊ะเก้าอี้พวกนี้เลย เขาไม่ปวดใจได้เหรอ?

“หลานชายทั้งสอง ถ้าไม่อย่างนั้นพวกนายออกไปสู้ข้างนอกดีกว่าไหม? โรงเตี๊ยมเล็กๆ นี้ของฉันอาจทนพวกนายทรมานไม่ไหว!”

“หมัดเก้าฟ้าร้องบ้าบออะไร ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน!”

ข้างหูมีเสียงต่ำๆ ของกัวหมิงเลี่ยงลอยมา เย่เทียนเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม “อย่าว่าแต่เก้าหมัดกระจอกๆ เลย ต่อให้เพิ่มอีกเท่าตัวเป็นสิบแปดหมัดอีกฉันก็พอจะต่อยออกมาได้!”

ระหว่างพูดจา เย่เทียนยื่นมือทั้งคู่ออกมาด้วย ต่อยออกไปเก้าหมัดอีกครั้ง

เขาไม่รู้ว่าอะไรคือหมัดเก้าฟ้าร้อง นี่คือผลลัพธ์จากการที่เขาแสดงคัมภีร์หวงออกมาสุดกำลังเท่านั้น

ก่อนหน้าที่ไม่ได้กินสารพันธุกรรม เย่เทียนคืออยู่ที่ฝึกพลังชั้นเจ็ด พอที่จะปราบแดนระดับดินได้ทั้งหมด หลังกลืนสารพันธุกรรมลงไป บวกกับมีเหล้าปีศาจร่วมมืออยู่ด้วย การฝึกฝนของเขาอย่างน้อยจึงอยู่ที่ฝึกพลังชั้นเก้า ภายใต้สถานการณ์สำแดงมาสุดกำลัง ถึงแม้เป็นเพียงการต่อยธรรมดา ล้วนนำมาสู่การบาดเจ็บร้ายแรงได้

ตามองเห็นเย่เทียนต่อยออกมาเก้าหมัดอีกครั้ง ในใจกัวหมิงเลี่ยงแอบโล่งอกทีหนึ่ง ในเมื่อไม่ใช่หมัดเก้าฟ้าร้องที่สาบสูญไป งั้นเขาก็วางใจลงมากแล้ว

ครุ่นคิดในหัวสมองอยู่ไม่หยุด แต่การตอบสนองของกัวหมิงเลี่ยงกลับไม่ช้า รวบรวมพลังภายในอันทรงพลังไว้ที่คมกระบี่ ชั่วขณะนั้นกระบี่ยาวระเบิดแรงกระบี่ดุเดือดที่พุ่งทะยานออกมา ทำให้คนเกิดความรู้สึกกลัวขึ้น

“ทะลวงให้ฉัน!”

กัวหมิงเลี่ยงยกกระบี่ในมือขึ้นทันใด ชั่วขณะหนึ่งมีแรงกระบี่ดุดันราวกับมังกรยักษ์คำรามพุ่งเข้าไปหาหมัดแล้ว โจมตีหมัดสิบแปดอันแตกกระเจิงในเสี้ยววินาที

“แม่งเอ๊ย!”

เย่เทียนสบถเสียงต่ำทีหนึ่ง ถึงบอกว่าเขารู้แต่แรกแล้วว่าจัดการกัวหมิงเลี่ยงไม่ง่าย แต่ปัจจุบันนี้ปะทะกันเข้าจริง เขายังอดทอดถอนใจไม่ได้ เจ้าหมอนี่ไม่เสียแรงมีชื่อเสียงโด่งดังแบบนั้นจริงๆ แกร่งไม่ใช่ย่อยเลย

“ฉันยอมรับว่าความสามารถของนายไม่เลว มีสิทธิ์ให้ฉันจริงจังขึ้นมา แต่ถ้านายมีแค่ความสามารถนี้ นายคงไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้!”

กัวหมิงเลี่ยงยักคิ้ว ในที่สุดสายตาที่มองทางเย่เทียนยังดูจริงจังขึ้นมา

สีหน้าเย่เทียนเคร่งขรึมถึงขีดสุดเหมือนกัน อย่ามองว่าเมื่อสักครู่เหมือนสู้ดุเดือด แต่ความเป็นจริงนั้นเป็นแค่การลองเชิงของทั้งสอง ต่อไปนี้ต่างหากถึงเป็นการต่อสู้แท้จริง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่