เสียงของไก่ขัน แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาในเรือน
หยาจื่อเปิดหน้าต่างออก ส่วนฉินจือเก็บผ้าม่านเตียง แสงที่ทั้งพร่ามัวและอ่อนกลับสอดส่องลงมาที่ใบหน้าของเฉียวเหลียนเหลียน
ขนตายาวขยับเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน
เมื่อคืนพลิกตัวไปมาจนค่ำจนผล็อยหลับ เธอฝันดีมากเมื่อคืน
ในฝันพวกเขาทั้ง 7 คนอยู่ด้วยกันที่หมูบ้านกู้เจีย มีป้าหลิวผู้ใจดี พี่ชายรองหลิว พี่สะใภ้รองและเหล่าหลานตัวน้อยๆของพวกเขา
ทั้งหมดล้วนมีแต่ความสุข
แต่แล้วแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาก็ปลุกเธอ ทุกอย่างเป็นเหมือนกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ จนรอยร้าวที่แหลกละเอียด
เฉียวเหลียนเหลียนตื่นแล้ว
เมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
เมื่อว่าฝันเมื่อครู่มันเป็นความจริงทั้งหมด ความสุขและความหอมหวานนั่น แม้จะตอนนี้จะตื่นแล้วแต่ก็รู้สึกเหมือนความรู้สึกนั้นมันฝังลงไปในกระดูก เธอรู้สึกถึงได้ทุกครั้งที่นึกถึง
เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
จนกระทั่งเสียงของลูกชายที่อยู่ด้านนอกดังเข้ามา
เธอลุกขึ้นมานั่งกับเตียง
"เกิดอะไรขึ้นกับโหลวเอ๋อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น"
ขณะที่ฉินจื่อเข้ามาสวมเสื้อให้เธอพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
"นี่เป็นถึงจวนของท่านอ๋อง จะเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะเจ้าคะ ฮูหยินวางใจเถอะเจ้าค่ะ"
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เฉียวเหลียนเหลียนก็ยังไม่วางใจ
ทันทีที่แต่งตัวเสร็จก็รีบไปเปิดประตูทันที
ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตเธอ
แสงแดดเหลืองอ่อนที่แสนสะอาดและอบอุ่น
ลูกชายคนโตที่นำมือไพล่หลังคล้ายกับต้นไม้ใหญ่ที่รากฝักลึกลงกับดินแน่น
ลูกสาวคนรองที่ยิ้มอย่างขี้เล่น ในมือถือลูกขนไก่ที่เฉียวเหลียนเหลียนทำขึ้นมาให้เธอ ขาเล็กนั่นวิ่งอย่างซุกซน
ลูกชายสามในตอนนี้เป็นเหมือนเสือดาวตัวเล็ก ๆ วิ่งวนรอบพี่ชายและน้องสาวไปมาและก็คำรามอย่างมีความสุข
ลูกชายสี่นั่งบนเก้าอี้หวายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในมือถือหนังสืออยู่ม้วนหนึ่ง จ้องมองไปที่พี่น้องของเขา
และสุดท้ายลูกสาวคนเล็กที่วิ่งไล่ตามพี่สาวที่ถือลูกขนไก่ ทั้งวิ่งและยิ้มในขณะเดียวกัน เสียงหัวเรานั่นทั้งชัดเจนและคมชัดเหมือนระฆังเงิน
มันช่างงดงามเสียจริง
เฉียวเหลียนเหลียนยืนอยู่ที่ประตู ในตอนนี้สมองของเธอเริ่มจดจำภาพตรงหน้าและจำมันไว้อย่างไม่มีทางลืม
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ต่อให้เธอจะกลายเป็นคุณยายและเด็กๆนั้นเติบใหญ่ เฉียวเหลียนเหลียนคนนี้ก็จะยังจำภาพที่งดงามและน่าประทับใจนี้ได้และยังจำความรู้สึกที่สั่นสะท้านจนไม่สามารถมีอะไรมาแทรกแซงนี้ได้
ในเวลานี้หยูเฟยเฉิงหันมาเห็นเฉียวเหลียนเหลียน เขาหันหน้ามาส่งยิ้มพร้อมกับส่งเสียงเรียก
"ท่านแม่"
เสียงเรียกนี้มันช่างอัศจรรย์จริงๆ
หยูเฟยเชว่ที่กำลังเตะขนไก่ พี่สาวหยูเฟยเชว่ที่กำลังเล่นซ่อนหากับพี่สาว ทุกคนล้วนหยุดนิ่งและหันศรีษะไปพร้อมกัน
เมื่อมองเห็นเฉียวเหลียนเหลียนยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตู เด็กสาวสองคนก็วิ่งไปหาพร้อมทั้งน้ำตา
"ท่านแม่ ฮึก ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงท่านจนนอนไม่หลับเลย"
"ท่านแม่ เมื่อวานท่านแม่ไม่ได้นอนกอดเกอเอ๋อเลย ฮือ"
ถ้าจะให้พูดว่าเด็กผู้หญิงนั้นแตกต่างจากเด็กผู้ชาย ดูทั้งเจ้าเด็กสามคนนั่น ยกเว้นกู่โหลวที่มีอารมณ์อ่อนไหวเล็กน้อย ลูกชายคนโตและลูกชายคนที่สี่กลับไม่แสดงออกเลยสักนิด มีเพียงหางตาของพวกเขาที่ดูแปลกไปเล็กน้อย
เมื่อมองที่เด็กสาวสองคนที่อยู่ในอ้อมแขนทั้งคู่ในตอนนี้นั้นก็เหมือนน้ำก็อกที่เปิดอยู่ เฉียวเหลียนเหลียนก็ทำอะไรไม่ถูก
"เอาล่ะๆ ไม่ร้องๆ"เธอปลอบคนโตเสร็จก็ปลอบคนเล็กต่อ แต่ทว่าเด็กสาวทั้งสองคนก็ยังไม่หยุดร้อง เฉียวเหลียนเหลียนหมดหนทางจึงได้แต่ส่งสายตาไปยังจี้อวิ๋นชู
อวิ๋นชูไม่ได้กล่าวอะไร
เมื่อครู่พวกเจ้าแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันก็ทำราวกับข้าเป็นอากาศ ตอนนี้กลับเริ่มเรียกหา
ข้าไม่สนใจหรอก!
เขาตะโกนในใจพลางหันศรีษะเล็กน้อย ทำเป็นไม่เห็นเฉียวเหลียนเหลียนขอความช่วยเหลือ
"เจ้าลูกคนนี้"เฉียวเหลียนเหลียนมอง
"พูดอะไรไร้สาระ หากพระชายาโกรธขึ้นมา ระวังตัวไว้เจ้าเถอะ"
ในฐานะนายหญิงแห่งตำหนักตะวันออก หากพระชายาทรงพิโรธขึ้นมา หยูเฟยเชว่จะทำอะไรเธอได้
"ข้าไม่กลัวนางหรอก"
ใครจะไปรู้ จู่ๆ ลูกสาวคนโตก็วางตะเกียบและพูดด้วยใบหน้าเข็นชา
"หากนางกล้าทำอะไรข้าก็อย่าโทษว่าข้าไร้ความปราณีแล้วกัน"
เฉียวเหลียนเหลียนเม้มปากแน่น ใจตกไปถึงตาตุ่ม
เป็นนางช่างเบาปัญญาเสียจริง ลูกๆของเธอเป็นถึงตัวร้ายที่ควบคุมคนอื่นได้เชียวนะ
"เจ้านี่นะ"เฉียวเหลียนเหลียนลูบหัวลูกสาวคนโต
"อย่างไรก็ตามการเลี่ยงการก่อเรื่องก็ดีที่สุด เราไม่สามารถยอมเสียไปแปดร้อยเพื่อทำให้ศัตรูเสียพันหนึ่งไม่ได้หรอก"
"ท่านแม่โปรดวางใจ "หยูเฟยเชว่เปลี่ยนเป็นหัวเราะในเสี้ยววิ
"ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี แต่ไม่ว่าใครก็ขัดขวางไม่ให้ข้าตามหาท่านแม่ได้ ข้าจะกินถวนเกาที่ท่านแม่ทำ"
"ใช่ๆ ถวนเกาที่ท่านแม่ทำอร่อยที่สุด"หยูเฟยเกอที่ก้มหน้าก้มกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยสรหน้าจริงจัง
ทั้งครอบครัวต่างเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
รอกินของว่างเสร็จ เฉียวเหลียนเหลียนก็พาหยูเฟยเชว่และหยูเฟยเกิไปทำกับข้าว
ทุกวันนี้ครอบครัวไม่ขาดแคลนคนรับใช้ ไม่ขาดแคลนคนล้างผัก ทำกับข้าว แต่เฉียวเหลียนเหลียนก็ยังคงเคยชินกับการเลือกผักล้างผักเอง หยูเฟยเชว่เองก็มีความสุขที่ได้พูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ของตน
เสี่ยวเกอเกาะขาท่านแม่ของตน ขอเพียงได้อยู่ข้างๆท่านแม่
ณ เก้าอี้หวาย
แม่ลูกสามคนต่างพากันออกไป
จี้อวิ๋นชูมองหน้าหยูเฟยจง
"จงเอ๋อ เรื่องนั้นเป็นอย่างไรแล้วบ้าง ท่านพี่องค์รัชทายาทเห็นด้วยหรือไม่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่36หายค่ะ แก้ไขให้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาตอน 21-25หาย แก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายแก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายค่ะ...
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...