พูดจบ ซุนเสี่ยวหยาก็หมุนตัวบิดสะโพกแล้วเดินต่อไป ในใจคิดก็ยิ่งขยะแขยงและก็ดูแคลนผู้ชายที่อยู่ข้างหลัง
คนงาน?
หลี่โม่รู้สึกปวดหัวอย่างอดไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ได้จำคนผิดล่ะมั้ง
ในไม่ช้า เขาก็ตามซุนเสี่ยวหย่ามาจนถึงห้องเก็บของ ภายในห้องมีเก้าอี้ของห้องแสดงดนตรีวางอยู่เต็มไปหมด
ซุนเสี่ยวหยาชี้นิ้วสั่งไปที่ข้างหนึ่งอย่างวางอำนาจ กล่าว “รีบไปทำงานเร็วเข้า วันนี้ก่อนเลิกงานเธอต้องจัดเก้าอี้ในห้องนี้ทั้งหมดให้เรียบร้อย แล้วก็พวกเธออีกกี่คน เร่งเข้า อย่าคิดที่จะอู้กันล่ะ เพราะฉันจะอยู่ดูพวกเธอตรงนี้ ถ้าใครคิดจะอู้ ก็หยุดคิดเรื่องค่าแรงไปได้เลย!”
คนงานสองสามคนที่กำลังยกเก้าอี้อยู่ตรงนั้น เมื่อได้ยินคำนี้ ก็รีบเร่งทำงานกัยเลยทีเดียว คงกลัวว่าจะโดนหักค่าแรงกัน
หลี่โม่เกิดความสงสัยเล็กน้อย เมื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มันช่างวุ่นวายกันไปหมด
ทำไมฉันถึงกลายมาเป็นคนขนของซะได้
“ขอโทษนะครับ คุณเข้าใจผิดรึเปล่าครับ คือผมไม่ได้จะมา…”หลี่โม่หันหน้ามามองผู้หญิงที่กำลังตัดแต่งเล็บของเธออยู่
ซุนเสี่ยวหยาเลิกคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยท่าทีที่เหยียดหยาม “อะไรที่บอกว่าเข้าใจผิด เธอเป็นคนงานที่มาทำงานพาร์ทไทม์ ทำไมถึงได้มาพูดจาไรสาระไปเรื่อย รีบไปทำงาน!”
พูดจบ สายตาเย็นชาของเธอก็จ้องเขม็งไปยังคนงานที่ทำงานกันอย่างแข็งขัน แล้วตะโกนกล่าว “มองอะไร พวกเศษขยะ รีบ ๆ ทำงานเข้า ไม่งั้นฉันจะหักเงินเดือนพวกเธอ!”
หลี่โม่มีสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย พลางกล่าว “นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่? คนงานก็คนเหมือนกัน พวกเขาเอาค่าแรงแล้วทำงานให้กับพวกคุณ พวกคุณอยู่ในความสัมพันธ์แบบผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่เจ้าชีวิตกับทาส คุณกำลังใช้วิธีดูถูกคนแบบนี้หรอ?”
ซุนเสี่ยวหยาตอนแรกที่กำลังจะเดินไปแล้ว เมื่อได้ยินที่หลี่โม่กล่าวมา ก็หันกลับมาด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่าคาดไม่ถึง ดวงตาคู่ที่ปาดมาสคาร่าหนาเตอะ มองประเมินหลี่โม่คร่าว ๆ แล้วชี้ไปที่จมูกของเขาพลางก่นด่า “คนโง่แบบแกใครหามาทำงานได้เนี่ย? กล้ามากนะที่มาต่อปากกับฉัน รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?!”
ซุนเสี่ยวหยายืนอยู่ห่างไปจากหลี่โม่ไม่ไกล และก็ยังพูดเสียงดัง จนน้ำลายเกือบจะกระเด็นใส่หน้าหลี่โม่อยู่แล้ว
หลี่โม่มองมาที่เธออยากเหม็นขี้หน้า พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ผมไม่สนว่าคุณป็นใคร ผมแค่หวังว่าคุณจะให้เกียรติผู้อื่นได้ ดังนั้นผู้อื่นก็จะเคารพคุณ ถ้าไม่อย่างนั้น คงจบไม่สวย!”
“โอ้โห น่าแปลกจริง ๆ…”
ซุนเสี่ยวหยาท่าทางดูโกรธแต่ก็หัวเราะไปด้วย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยการดูถูกและเยาะเย้ย “ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้? โอเคโอเค ฉันจะไม่ตามน้ำไปกับคำพูดไร้สาระของแกละ ออกไป รีบออกไป! ไม่มีงานของแกที่นี่แล้ว ไปไปไป…”
แล้วซุนเสี่ยวหยาก็ผลักหลี่โม่ไปข้างนอก พลางตะโกนด่าอย่างต่อเนื่อง
หลี่โม่หลีกออกจากมือของเธอ แล้วกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ผมไม่ได้จะมาทำงาน ผมมาหาผู้จัดการของพวกคุณหลินชิงหาน”
ซุนเสี่ยวหยาผงะไปครู่หนึ่ง ดวงตาสองคู่ของมองจ้องตรงไปยังหลี่โม่ แล้วหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งในทันที!
เสียงนั้น ราวกับเสียงของแม่ไก่เวลาออกไข่
“โอ้พระเจ้า น่าขำเป็นบ้าเลย ฮ่าฮ่าฮ่า! ไอโง่เอ้ย คนงานชั้นต่ำแบบแก พูดว่าจะไล่ฉันออก? แกคิดว่าตัวเองเป็นพวกลูกเศรษฐีที่ปลอมตัวมารึไง”
หลี่โม่ยิ้มอย่างเย็นชา
เวลานี้เอง ก็มีเสียงติ้งดังขึ้น มันเป็นเสียงของประตูลิฟต์ด้านข้าง ปรากฏผู้หญิงคนหนึ่งที่ท่าทางดูไม่ธรรมดา เธออยู่ในชุดทำงานทักซิโด้ เดินออกมาช้า ๆ
“มีเรื่องอะไรถึงได้เสียงดังขนาดนี้? ซุนเสียวหยา ทำไมเธอถึงได้มาคุมอยู่ที่นี่?” ผู้หญิงคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ในมือเธอถือข้อมูลบางอย่างไว้แล้วเดินเข้ามา
เสียงของเธอดังชัดเจนและดึงดูดให้ผู้ฟังสนใจ รูปร่างของเธอสมส่วน การแต่งตัวดูมีเสน่ห์ไม่ดูชั่วร้าย ดูพอดีและเซ็กซี่มากอีกด้วย ผมของเธอเป็นลอนคลื่นใหญ่สีน้ำตาลเกาลัดกระจายอยู่ด้านหลังศีรษะ ที่ติ่งหูประดับด้วยต่างหูทรงกลมส่องแสงแพรวพราว นี่มันยวู้เจี่ยฟ่านชัด ๆ !
ผู้หญิงคนนั้นเดินไปตรงหน้าของซุนเสี่ยวหยา พลางกล่าวถาม “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“ผู้จัดการ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...