ทั้งความร่วมมือกับตระกูลหวัง และตำแหน่งรองประธาน จู่ ๆ ทั้งหมดมันก็หายไปภายในพริบตาเดียว แล้วตำแหน่งของกู้ซิ่งเหว่ยในบริษัทก็จะลดลงด้วย!
สุดท้ายชายชรากู้ก็พ่นลมออกอย่างเย็นชา และตะโกนว่า "พอได้แล้ว! เลิกเล่นได้แล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของบริษัทยาหยุนเซิง พวกเราต้องร่วมมือกันเพื่อเซ็นสัญญาขอความร่วมมือกับบริษัทหรงคังให้สำเร็จ แกก็ต้องเก็บอารมณ์ของแกด้วย และต้องช่วยหยุนหลานให้มาก ๆ รู้ไหม?”
หลังจากนั้น ชายชรากู้ก็หันหลังกลับ และเดินจากไป
กู้หยุนหลานมองดูกู้ซิ่งเหว่ยที่กำลังโกรธด้วยสายตาเย็นชา เธอหันหลังกลับ และพาหลี่โม่ออกไป
ดวงตาของกู้ซิ่งเหว่ยแดงก่ำ เขาทุบโต๊ะประชุมด้วยความโกรธ และตะโกนด้วยน้ำเสียงต่ำว่า "กู้หยุนหลาน หลี่โม่ ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!"
อีกด้าน กู้หยุนหลานพาหลี่โม่ออกจากบริษัท ที่หน้าประตูบริษัท เธอก็หยุด และหันกลับมาถามด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า "หลี่โม่ บอกฉันมาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับคุณไหม?"
หลี่โม่รู้ว่ากู้หยุนหลานจะต้องถามแบบนี้ เขายักไหล่ และยิ้มอย่างแผ่วเบา "ทำไมคุณถึงรู้สึกแบบนั้นล่ะ?"
กู้หยุนหลานตอบว่า "เมื่อกี้ไม่มีใครสังเกตเห็นคุณ แต่ฉันสังเกตเห็น ทันทีที่หวังฉางเหอมาถึง เขาก็รีบเดินเข้ามาขอโทษคุณก่อนเลย แล้วตอนในห้องประชุม หวังฮั่นเชาก็ทำแบบนั้นอีกครั้ง เขาพูดอะไรเกี่ยวกับเฉียวเย่ และเทียนเย่ คุณกล้าเถียงไหมว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ?"
กู้หยุนหลานรอบคอบมาก เธอไม่ได้ถามเรื่องนี้ตอนอยู่ในห้องประชุม แต่เธอพาหลี่โม่ออกมาแล้วค่อยถาม
หลี่โม่มองไปที่ดวงตาโต และใบหน้าอันบอบบางของกู้หยุนหลาน แล้วยิ้ม “คุณคิดมากเกินไปแล้ว บางทีหวังฉางเหออาจก้มหัวขอโทษ เพราะคุณก็ได้ ส่วนหวังฮั่นเชา ผมเดาว่าเขาคงจะเข้าใจผิด คุณไม่ต้องไปคิดหรอกว่าผมจะเป็นคนแบบไหน หรือ หวังฉางเหอจะขอโทษผมได้ยังไง”
กู้หยุนหลานหรี่ตาลง ในใจของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย และในขณะที่เธอต้องการจะถามอะไรบางอย่างต่อ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
เธอรีบรับโทรศัพท์ และเสียงของจินซ่านน่าก็ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์ แล้วถามเธอว่า "หยุนหลาน เธออยู่ที่ไหน ไม่ใช่ว่าเธอบอกฉันว่าคืนนี้จะไปที่เวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์เหรอ ฉันอยู่ที่บ้านเธอ"
กู้หยุนหลานเพิ่งนึกขึ้นได้ และเธอก็รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า "ฉันจะรีบกลับไปเลย"
หลังจากวางสาย เธอก็เหลือบมองหลี่โม่ และถอนหายใจ "เอาเถอะ พาฉันกลับหน่อย"
หลี่โม่ยิ้ม และขับรถยนต์ไฟฟ้าพากู้หยุนหลานกลับบ้าน
ทันทีที่เธอเดินเข้าไปในบ้าน เธอก็เห็นจินซ่านน่าแต่งตัวด้วยแฟชั่นสุดเปรี้ยว รูปร่างของเธอสูงโปร่ง และหุ่นดีมาก ผมของเธอหยิกหยักศกสีน้ำตาล ขาเรียวสวมกระโปรงสั้นสีเหลือง พร้อมกับเสื้อท่อนบนแบบปาดไหล่สีแดงเเผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ
กู้หยุนหลานยิ้ม และพูดว่า "เพราะนี่มาจากสูเทียนไฮ่ไงล่ะ เธอก็รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากฉัน ถ้าฉันไปคงไม่ต้องบอกนะว่ามันจะหมายความว่าอะไร"
“สูเทียนไฮ่ส่งมาเหรอ?” จินซ่านน่าพึมพำด้วยความสงสัย “เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันลองถามเกี่ยวกับการ์ดเชิญสีทองนี้แล้ว มันมีเพียงสิบใบในกรุงโซล เธอถึงคิดว่าใคร ๆ ก็สามารถได้รับมันเหรอ? ผู้ชายแบบสูเทียนไฮ่จะได้รับการ์ดเชิญได้ยังไงกัน"
“ในกรุงโซลมีแค่สิบใบเหรอ?” กู้หยุนหลานตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าตกใจกับคำพูดของจินซ่านน่า
“แต่ถ้าสูเทียนไฮ่ไม่ได้เป็นคนส่งมา แล้วใครเป็นคนส่งมาล่ะ?” กู้หยุนหลานถามกลับ
จินซ่านน่าก็ขมวดคิ้ว และถามว่า “ยังมีคนอื่นที่ชอบเธอแล้วตามตื้อเธออีกหรือเปล่า? บอกฉันมานะ แล้วฉันถึงจะช่วยเธอคิด”
กู้หยุนหลานมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า และพูดว่า "เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรเนี่ย"
ขณะที่เธอพูด เธอก็เหลือบมองหลี่โม่ที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว ทันใดนั้น เเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และลดเสียงลง แล้วพูดว่า “ล่าสุดหลี่โม่ถามฉันว่า ฉันชอบคุณโจ ฮิซาอิชิไหม...”
จินซ่านน่าตัวสั่น เธอมองการ์ดเชิญสีทองในมือ และมองไปยังห้องครัวพร้อมกับกู้หยุนหลาน อย่างสงสัย และถามด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “เธอไม่ได้จะบอกฉันว่าหลี่โม่เป็นคนส่งการ์ดเชิญใบนี้มาใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...