กู้หยุนหลานนึกออกแล้วว่าฮั๋วเจี้ยนเฟิงคือใคร จากนั้นเธอก็ยิ้มและเปิดประตูให้ฮั๋วเจี้ยนเฟิงเข้ามา
หวังฟางมองฮั๋วเจี้ยนเฟิงที่กำลังเข้าประตูมา ทำให้เธอรู้สึกอยากมีลูกเขยคนใหม่ทันที
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ฮั๋วเจี้ยนเฟิงได้มอบของขวัญมากมายให้กับหวังฟาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางต่างประเทศทุกชนิด เสื้อผ้าชื่อดังระดับนานาชาติ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ด้วยใจทั้งสิ้น
หวังฟางไม่ได้อาจเอาหลี่โม่ไปเปรียบเทียบกับฮั๋วเจี้ยนเฟิง เพราะเธอรู้สึกว่าหลี่โม่เป็นเพียงคนไร้ค่าคนหนึ่ง
ลูกเขยไร้ค่าคนนี้ไม่ได้ให้อะไรกับหวังฟางมาหลายปีแล้ว
“คุณป้าครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจของผม โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”
ฮั๋วเจี้ยนเฟิงถือของขวัญและมอบให้หวังฟาง จากนั้นเขาก็กะพริบตาให้กับหวังฟาง
ปากแห่งความสุขของหวังฟางแทบหุบไม่อยู่ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจี้ยนเฟิง เธอมาสักทีนะ แถมยังหอบของฝากมามากมาย คราวหลังไม่ต้องทำตัวสุภาพมากขนาดนี้ก็ได้จ้ะ”
“เรื่องเล็กน้อยมากเลยครับ ราคาไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ พอดีผมได้ยินมาว่า วันนี้เป็นวันเกิดของคุณลุง ผมก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมสักหน่อยน่ะครับ จะได้ฉลองวันเกิดของคุณลุงด้วยเลย ผมจองภัตตาคารเอาไว้ห้องหนึ่ง ไว้เสร็จที่นี่แล้ว พวกเราไปที่นั่นกันนะครับ”
ฮั๋วเจี้ยนเฟิงไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นคนนอกเลย
“ขอบใจจริง ๆ นะจ๊ะ เจี้ยนเฟิง นี่ก็หลายปีแล้ว เธอยังคงนึกถึงป้ากับคุณลุงเสมอเลย”
หวังฟางแนะนำเขาให้แก่ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ของเธออย่างตื่นเต้น “ฉันขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือฮั๋วเจี้ยนเฟิง เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของหยุนหลานล่ะ ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการของบริษัทลงทุนติ่งซิน”
ญาติและเพื่อนมองฮั๋วเจี้ยนเฟิงและทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่ กู้หยุนหลานอย่างเงียบ ๆ โดยคิดว่าฮั๋วเจี้ยนเฟิงน่าจะแอบชอบกู้หยุนหลานแน่ ๆ
กู้เจี้ยนหมินซึ่งเป็นดาวเด่นของงานนั่งอยู่ที่นั่งประจำ พร้อมกับกำลังพูดคุยกับญาติและเพื่อน ๆ ของเขา
ตอนนี้ เขามองไปที่ฮั๋วเจี้ยนเฟิงและกล่าวด้วยความพึงพอใจ “ฮั๋วเจี้ยนเฟิง นั่งก่อนสิ หยุนหลานยังไม่รีบชงชาให้เพื่อนอีก”
กู้หยุนหลานตอบรับและรีบลุกขึ้นชงชา โดยมีถ้วยชาอยู่ด้านหลัง แล้วยื่นให้ฮั๋วเจี้ยนเฟิง พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
ฮั๋วเจี้ยนเฟิงไม่พลาดโอกาสในการขายของดี ๆ ให้กู้เจี้ยนหมิน
กู้เจี้ยนหมินมีความสุขมาก เขาเข้าใจว่าฮั๋วเจี้ยนเฟิงพยายามช่วยเขายกสถานะ เขาจึงพูดอย่างร่าเริง “ฮั๋วเจี้ยนเฟิงนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ พวกนายค่อย ๆ ถามฮั๋วเจี้ยนเฟิงทีละคนสิ จะได้ไม่ไปทำให้เขาเสียเวลา ไว้เดี๋ยวฉันได้ความยังไงจะบอก ฉันติดต่อกับเขาตลอดนั่นแหละ”
ญาติและเพื่อน ๆ หันกลับมาปรบมือให้กู้เจี้ยนหมินทันที ทำให้กู้เจี้ยนหมินยิ่งลอยใหญ่ ยิ่งเขามองไปที่ฮั๋วเจี้ยนเฟิงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพอใจมากขึ้นเท่านั้น
หลังจากมีความสุขอยู่พักหนึ่ง กู้เจี้ยนหมินก็นึกถึงหลี่โม่ที่ไม่น่าพอใจ จากนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“หลี่โม่ นี่มันกี่โมงแล้ว ญาติและเพื่อน ๆ ของฉันมาถึงแล้วนะ ยังไม่ออกมาอีก ไม่มีคนดูแลแขกเลย!”
กู้เจี้ยนหมินพูดไปโกรธไป
กู้หยุนหลานรีบพูดว่า “เดี๋ยวหนูโทรบอกเขาให้”
ฮั๋วเจี้ยนเฟิงยืนขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมพอจะเคยได้ยินเรื่องของหลี่โม่มาบ้าง แต่ก็ยังไม่เคยเจอเขาสักที ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรก ที่จะได้เจอเขา เพราะเขาสามารถแต่งงานกับคนสวยแห่งเมืองฮั่นอย่างกู้หยุนหลานได้เลยทีเดียว ดังนั้นผมเลยคิดว่าเขาคงจะเป็นคนที่น่าทึ่งแน่ ๆ เลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...