ในเวลาเดียวกันนี้ ฮั่วเจี้ยนเฟิงเคาะประตูบ้านของกู้หยุนหลาน
หลังทราบข่าวจากพี่มีด ฮั่วเจี้ยนเฟิงอดใจไม่ไหว รีบรุดมาเยาะเย้ยหลี่โม่
หลังพี่มีดถูกชูจงเทียนตำหนิยกใหญ่ ในใจยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แสร้งบอกฮั่วเจี้ยนเฟิงว่าได้จัดการหลี่โม่แล้ว เพื่อให้ฮั่วเจี้ยนเฟิงโอนเงินงวดสุดท้ายให้เขา
หลังฮั่วเจี้ยนเฟิงโอนเงินงวดสุดท้ายไปด้วยความดีใจ จึงรีบไปซื้อของฝากให้ครอบครัวกู้หยุนหลานทันที เพื่อเยาะเย้ยและสร้างความอับอายให้แก่หลี่โม่ เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีของตน
เปิดประตูบ้าน หวังฟางเห็นแก้มของฮั่วเจี้ยนเฟิงยังคงมีรอบบวมแดงอยู่ จึงเกิดความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นในใจ
“เจี้ยนเฟิงเองหรือ รีบเข้ามานั่งในบ้านเร็วเข้า”
“ผมซื้อเครื่องสำอาง และแผ่นมาร์คหน้ามาให้คุณป้าครับ สามารถลดอาการปวดบวมได้เป็นอย่างดี ผมเองก็ลองใช้ดูแล้ว ดีขึ้นมากทีเดียว”
หวังฟางได้ยินก็แทบจะร้องไห้ ช่างเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นจริง ๆ ตนเองถูกตบจนหน้าบวม ยังไม่ลืมซื้อของมาฝากอีก เมื่อเทียบกับคนไร้ค่าอย่างหลี่โม่แล้ว เขาใส่ใจมากกว่าหลายเท่านัก
“เธอควรพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เป็นถึงเจ้าคนนายคน รักษาแผลให้หายดีเสียก่อน จะได้ไม่ต้องอับอายต่อหน้าลูกน้อง”
“ยังไงคุณป้าก็สำคัญกว่า ผมสามารถทำงานที่บ้านได้ ไม่มีผลกระทบอะไรครับ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดพลางเหลือบมองดูนาฬิกา ประเมินเวลาแล้วหลี่โม่คงใกล้จะมาถึง ไม่รู้ว่าหลี่โม่จะอยู่ในสภาพเช่นไร เดาว่าหน้าตาคงจะบวมช้ำจนแม้กระทั้งแม่ของกตัวเองก็ยังจำไม่ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าฮั่วเจี้ยนเฟิงก็เผยรอยยิ้มของความสะใจออกมา
“เจี้ยนเฟิงมีน้ำใจจริง ๆ รีบนั่งลงกินผลไม้ก่อน เดี๋ยวป้าจะไปยกน้ำชามาให้”
“คุณป้าไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมมาเยี่ยมเยียนเท่านั้น อีกเดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดจบ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น ฮั่วเจี้ยนเฟิงจึงหันตามเสียงเปิดประตูไปด้วยความดีใจ
กู้หยุนหลานกับหลี่โม่เดินเข้าประตูมา ฮั่วเจี้ยนเฟิงเห็นใบหน้าหลี่โม่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย จึงเกิดความโมโหขึ้นในใจ
“หลี่โม่ แกเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรรับผิดชอบภาระเลี้ยงดูครอบครัวบ้าง แม้ว่าทำงานได้เงินไม่มากนัก ก็ควรจะหาเงินพอเป็นค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร และค่าเสื้อผ้าให้กับซีซีได้บ้าง”
“แม่...”
“ลูกอย่าเพิ่งพูดอะไร เจ้าไร้ประโยชน์หลี่โม่ไม่ควรทำงานที่ร้านเสริมสวยอีกต่อไป ต้องให้เขาออกไปหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งเสียที!”
หวังฟางระบายความโกรธทั้งหมดใส่หลี่โม่ ตัดสินใจให้หลี่โม่ออกไปหางานทำ เช่นนี้เขาจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางหูขวางตา
อีกทั้งหากให้หลี่โม่ทำงานจนตัวเป็นเกลียว ไม่แน่ว่าถ้าหลี่โม่ไม่มีเวลาดูแลกู้หยุนหลาน ถึงเวลานั้นฮั่วเจี้ยนเฟิงอาจจะมีโอกาสใกล้ชิดกู้หยุนหลานมากขึ้นก็เป็นได้
ฮั่วเจี้ยนเฟิงหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “ผมหางานที่เหมาะสมให้กับหลี่โม่ได้แล้วครับ ถ้าหากหลี่โม่ยินดี ผมจะช่วยจัดการให้”
“เจี้ยนเฟิงยังเก่งเหมือนเดิมจริง ๆ เทียบกับคนไร้ประโยชน์อย่างหลี่โม่แล้ว ถือว่าเก่งกว่าหลายเท่านัก ถ้าเจี้ยนเฟิงพอมีหนทาง เช่นนั้นก็รีบจัดการให้เจ้าสวะนี่ไปทำงานเร็ว ๆ จะได้ไม่ต้องมาอยู่ขวางหูขวางตาฉันที่นี่”
หวังฟางกับฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดเข้าขาเหมือนนัดกันมา เพื่อไล่ให้หลี่โม่ออกไปทำงานนอกบ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...