หลี่โม่อึ้งไปเล็กน้อย และมองไปที่กู้หยุนหลาน เขาเห็นสายตาของเธอที่จ้องมาที่เขาอย่างแปลก ๆ
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี่? แล้วเขาเป็นใคร?” กู้หยุนหลานดูค่อนข้างไม่พอใจ
เธอพูดกับหลี่โม่ไม่ดีเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา เพราะเขาทำให้เธอต้องเดือดร้อน ทั้งจากสายตา และการเยาะเย้ยของคนอื่น หัวใจของเธอได้ตายไปจากหลี่โม่แล้ว
แต่ตอนนี้หลี่โม่กลับยืนอยู่ข้าง ๆ รถโรลส์-รอยซ์
นี่......
หลี่โม่เกาหัวอย่างช้า ๆ สายตาของเขามองไปที่เฉียนฝูที่อยู่ด้านข้าง
เฉียนฝูยิ้มทันที และพูดว่า “น้องชาย ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ ฉันขอตัวก่อน ถ้านายต้องการอะไรในอนาคตก็โทรหาฉันได้เลยนะ”
หลังจากนั้นเฉียนฝูก็กลับเข้าไปในรถ
รถโรลส์-รอยซ์ค่อย ๆ ขับออกไป
หลี่โม่ยิ้มและอธิบายว่า "ชายชราเขาไม่รู้ทาง ผมก็เลยบอกทางให้เขา"
เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้กู้หยุนหลานก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก
มันยากที่จะเชื่อ เป็นไปได้ไหมว่าสามีของเธอจะเป็นเศรษฐีรุ่นสองผู้ลึกลับ?
ทันใดนั้น เสียงแหลมไม่น่าฟังก็ดังขึ้นมา "หยุนหลาน นี่คือสามีไร้ประโยชน์ของเธอใช่ไหม?"
เป็นคำพูดที่มาจากผู้หญิงที่แต่งตัวดี และทันสมัย เธอมีผมหยักศกลอนใหญ่ ริมฝีปากสีแดงเพลิง สวมแว่นกันแดดทรงกว้าง และใส่ชุดเดรสที่ดูเปรี้ยวจี๊ด ที่มีเสื้อชั้นในสีดำ และกางเกงขายาวสุดฮอตสีขาว ขาของเธอเรียวยาวกับกางเกงสีขาวนวลสะท้อนแสงแดดให้มีความเงาวาว
สีหน้าของกู้หยุนหลานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอยิ้มอย่างฝืน ๆ พร้อมทัดผมไปหลังหูและแนะนำเขาว่า "อืม เขาชื่อหลี่โม่ เขา..."
ดูเหมือนมันยากที่จะพูดว่าเขาเป็นสามีของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นยืนกอดอกจึงทำให้หน้าอกของเธอดูเต็มอิ่มยิ่งขึ้น เธอพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า "หยุนหลาน เธอนี่ไม่ระวังเลยนะ ไปแต่งงานกับผู้ชายไร้ค่าแบบนี้ได้ยังไง หรือว่าผู้ชายดี ๆ ในประเทศนี้ตายกันไปหมดแล้ว?”
จินช่านน่า ลูกสาวของตระกูลจินแห่งเมืองฮั่นที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เธอเดินทางเพื่อไปศึกษาต่อ และเพิ่งกลับมาที่ประเทศจีนไม่กี่วันมานี้
เธออยากจะเจอสามีที่ไร้ค่าของกู้หยุนหลานที่คนเขาร่ำลือกัน แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เจอกับเขาในวันนี้เลย
เมื่อมองดูแล้ว เขามันก็เหมือนขี้แพ้จริง ๆ นั่นแหละ
กู้หยุนหลานไม่ได้อธิบายต่อ เธอเหลือบมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง
ทำไมเขาถึงไม่มีความละอายใจเลย?
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอก็คงไม่ต้องอับอายต่อหน้าเพื่อนรักของเธอ
หลี่โม่ยิ้มและพูดว่า "หยุนหลาน ผมกลับไปทำงานต่อก่อนนะ ส่วนเรื่องการรักษาของซีซี ก็ไม่มีปัญหาแล้ว ผมจะใช้ไขกระดูกของผมในการรักษา"
“ไม่มีปัญหาแล้ว?” กู้หยุนหลานประหลาดใจเล็กน้อย และพูดว่า “คุณปู่ยอมให้ใช้ไขกระดูกของคุณได้ยังไง?”
หลี่โม่จึงอธิบายว่า "ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลบอกให้ทำตามกฎข้อบังคับของโรงพยาบาล"
เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็มองจินชานน่าอย่างมีความหมายแล้วเดินจากไป
หลังจากที่หลี่โม่เดินจากไป กู้หยุนหลานก็ยังคงไม่เข้าใจ เธอจึงรีบไปที่โรงพยาบาลพร้อมกับเพื่อนรักทั้งสองของเธอ หลังจากยืนยันเรื่องนี้ได้แล้วเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หยุนหลาน ที่ฉันพูดไม่ได้อะไรนะ แต่ถ้าเธอรีบหย่ากับเจ้าหลี่โม่ไร้ประโยชน์นั่นซะ ฉันจะแนะนำให้เธอรู้จักผู้ชายดี ๆ สักคนเอง พวกนายน้อยมั่งคั่งและมีอำนาจในเมืองฮั่น ถ้าเธอคิดว่ายังไม่ดี ฉันยังมีเพื่อนต่างชาติที่ทั้งหล่อทั้งรวย และเก่งด้วยนะ ”
ในห้องผู้ป่วย จินช่านน่ายืนอยู่ข้าง ๆ และยืนมองกู้หยุนหลานที่กำลังดูแลซีซีอย่างอ่อนโยน
ซุนเจี๋ย หญิงสาวอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็เห็นด้วย และพูดว่า “ใช่ หยุนหลาน นี่ก็ผ่านมาสี่ปีแล้ว ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ควรค่ากับมันเลย ถึงเวลาที่เธอต้อตัดสินใจแล้วนะ”
กู้หยุนหลานหยุดไปครู่หนึ่งแล้วมองซีซีที่หลับอยู่บนเตียงผู้ป่วย เธอแตะหน้าผากอันรียบเนียนของเด็กน้อยเบา ๆ และพูดด้วยดวงตาที่เปียกชื้น "ฉันจะไม่หย่ากับเขา เราแต่งงานกันมาสี่ปีแล้ว ความรู้สึกของเรามันไม่ใช่ของปลอม และเขาก็จะเป็นพ่อของซีซีตลอดไป ยกเว้นว่าเขาจะไม่ต้องการพวกเราแล้ว"
เมื่อได้ยินแบบนี้จินช่านน่าก็กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด และพูดว่า "หยุนหลาน ทำไมเธอถึงโง่ขนาดนี้! ไอ้หลี่โม่นั่นมันมีอะไรดี?"
กู้หยุนหลานหันกลับมามองจินช่านน่าที่กำลังอารมณ์เสียอยู่ และพูดว่า "เอาล่ะ นาน่า ฉันรู้ว่าเธอทำเพื่อฉัน แต่นี่มันเป็นเรื่องของฉัน"
จินช่านน่าอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็อดไว้ "ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม แต่ฉันจะไม่ล้มเลิกพยายามที่จะแยกพวกเธอออกจากกัน! เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เธอตกลงไปในโคลนตมแน่! "
กู้หยุนหลานไม่ได้พูดอะไร เพราะเธอเข้าใจว่าจินช่านน่าใจดี และหวังดีกับเธอจริง ๆ
“แม่คะ หนูไม่ได้พูดไร้สาระ หนูรักหลี่โม่ แม้ว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมาหนูจะถูกญาติ และเพื่อน ๆ ต่อว่า และเยาะเย้ยเพราะเขา แต่เขาก็เป็นสามีของหนู และเป็นพ่อของซีซี!”
“ตลอดสี่ปี เขาอยู่ที่บ้านนี้อย่างเงียบ ๆ เคยมีเรื่องมีราวบ้างไหม?”
“แม่ดูถูกเขา คุุณปู่ดูถูกเขา ทุกคนดูถูกเขา แต่หนูจะไม่ทำ!”
หลี่โม่ที่ยืนอยู่หน้าประตู เขาถือแอปเปิลในมือ และสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาของเขาเปียกชื้น เขาจึงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เขาหัวเราะ ตลอดสี่ปีผ่านมาแสดงให้เห็นว่า เธอรักเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะสร้างความลำบากใจให้เธอไม่รู้จบก็ตามที
ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงโง่ขนาดนี้
ทั้ง ๆ ที่เขาสัญญากับเธอว่าชีวิตของพวกเราจะเจริญรุ่งเรือง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะว่างเปล่า
หลี่โม่กำหมัด ดวงตาของเขาแสดงถึงความจริงจัง ‘กู้หยุนหลานเชื่อผมสิ คำมั่นสัญญาของผมที่ให้ไว้กับคุณจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คุณจะต้องกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก!’
แต่ตอนนี้ในห้องนั่งเล่น กู้หยุนหลานกำลังหลั่งน้ำตาออกมาดั่งดอกแพร์ท่ามกลางสายฝน ไปที่หวังฟางและกู้เจี้ยนหมินแล้วพูดว่า "แม่คะ พ่อคะ พ่อกับแม่ไม่เข้าใจหรอก หนูรักเขา หนูรอเขา รอที่จะได้บอกทุกคนอย่างยุติธรรมว่าเขาเป็นพ่อของซีซี และเป็นสามีของหนู กู้หยุนหลาน...”
จากนั้นทั้งห้องก็เงียบลง
แม้ว่าบนใบหน้าหวังฟางจะยังคงมีความไม่พอใจอยู่ แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกหลังจากที่ได้ยินคำพูดของกู้หยุนหลาน
ในเวลานี้ หลี่โม่ก็เปิดประตู และยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มราวกับแสงอาทิตย์อันอบอุ่น เขามองไปที่กู้หยุนหลาน และเห็นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เขาเดินขึ้นไปหาเธอ และค่อย ๆ เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ
“หลี่โม่ คุณสัญญากับฉันได้ไหม? เพื่อฉัน และซีซี”
“ฉันไม่อยากทนกับการเยาะเย้ยพวกนั้นอีกแล้ว ไม่อยากให้ซีซีเรียกคุณว่าลุงตามที่พวกเขาบอก ฉันอยากให้ทุกคนรู้ว่าคุณเป็นพ่อของซีซี และเป็นสามีของฉัน กู้หยุนหลาน และคุณก็ไม่ใช่คนไม่เอาไหน”
ดวงตาของกู้หยุนหลานเป็นสีแดงก่ำ และเต็มไปด้วยน้ำตา
"ผมสัญญา"
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง เขาเหลือบมองกู้หยุนหลานอย่างอ่อนโยน และหันหลังกลับเดินออกไป
***ดั่งดอกแพร์ท่ามกลางสายฝน เป็นสำนวนจีนที่บรรยายถึงหญิงสาวที่ร้องไห้แต่ก็ยังงดงามด้วยใบหน้าที่ละเอียดอ่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...