เขียนชื่อเหรอ?
หลี่โม่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเขียนไปประโยคหนึ่งก็พอว่า จากคนคนหนึ่งที่จะทำให้เธอมีชีวิตที่สุขสบายและจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ โจวซินอี๋ก็รู้สึกหวั่นไหวเช่นกัน
เขาช่างดีกับผู้หญิงคนนั้นมาก ถ้าได้เป็นผู้หญิงของเขา คงจะมีความสุขมาก ๆ !
หลังจากเอ่ยประโยคนั้น หลี่โม่ก็ปล่อยให้ทุกคนอิจฉาและแสดงความชื่นชมยินดี
เหมยลี่คนก่อนรีบไปหาโจวซินอี๋ ทันทีที่หลี่โม่จากไป และกล่าวว่า “ซินอี๋ พาพี่ไปด้วย พี่อยากดูว่าผู้หญิงของคุณชายหลี่เป็นยังไง ถึงกับซื้อสร้อยเส้นนี้ให้เธอ ลองคิดดูสิ เธอน่าจะสวยดั่งนางฟ้านางสวรรค์แน่ ว่าไหม”
โจวซินอี๋ยิ้มและพูดว่า “ฉันเองก็อยากให้พี่เหมยลี่ไปกับฉันพอดี”
พอพูดจบ ทั้งสองก็ไปด้วยกัน
บริษัทหยุนเซิงเภสัชกรรมของตระกูลกู้ ตอนนี้พนักงานทุกคนในบริษัทกำลังพูดถึงวิดีโอดังนั้น
เนื้อหาของวิดีโอเป็นฉากที่หลี่โม่ถูกพนักงานขายที่ร้านสาขาสวารอฟสกี้ดุด่า หลี่โม่ในวิดีโอดูกระจอกมากทีเดียว
“กระจอก! สามีของผู้อำนวยการกู้ไม่เอาไหนเลยจริง ๆ”
“น่าขำจริง ๆ คนกระจอกอุตส่าห์ไปดูสร้อยเพชรที่สวารอฟสกี้”
“ใช่น่ะสิ อายแทนผู้อำนวยการกู้จริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับคนไร้ประโยชน์แบบนี้ ช่างโชคร้ายและน่าผิดหวังเสียจริง”
เสียงดังกล่าวโต้ตอบกันไปมา เพียงชั่วพริบตาชื่อเสียงของหลี่โม่ในบริษัทของตระกูลกู้เริ่มแย่ลง
บังเอิญกู้หยุนหลานเดินเข้ามาจากประตูหน้า เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นเรื่องยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้น
เธอโน้มตัวไปด้านข้างของพนักงาน เหลือบมองไปยังโทรศัพท์มือถือในมือ เธอเห็นวิดีโอนั่น ทันใดนั้น เธอก็ก้มหน้าลงและเกิดความอับอายมาก
“ผะ... ผู้อำนวยการกู้”
มีคนเห็นกู้หยุนหลาน ก็ส่งเสียงตะโกน ทำให้ทุกคนรีบแยกย้ายกลับไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง
ใบหน้าของกู้หยุนหลานแดงก่ำไปด้วยความอับอาย แทบจะมุดหาที่ซ่อนแล้ว
หลี่โม่นะ หลี่โม่ ก่อเรื่องอีกแล้ว!
ทำไมเขาถึงทำให้ตัวเองขายหน้าตลอดแบบนี้นะ!
กู้หยุนหลานกระทืบเท้า โยกร่างกายที่สง่างามของเธอ และเดินไปที่ห้องทำงานของเธอ
อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น ก็มีผู้หญิงสองคนสวมชุดสูทมาที่แผนกต้อนรับและตะโกนว่า “ขอโทษนะคะ คุณกู้หยุนหลานอยู่ไหมคะ เรามีของมาส่งค่ะ”
ตอนนี้เองที่โจวซินอี๋และคนอื่น ๆ ตระหนักว่าการส่งมอบเป็นของกู้หยุนหลานจากตระกูลกู้
ชายที่ซื้อสร้อยเพชรเส้นนี้คือคุณหลี่ เขาไม่ใช้ไอ้ขยะชื่อดัง หลี่โม่ ในเมืองฮั่นหรอกเหรอ?
แต่คนที่ซื้อสร้อยเพชรเส้นนี้ได้จะเป็นขยะได้อย่างไร?
ขณะนี้เอง พนักงานทุกคนมองไปที่กล่องอันหรูหราที่พวกเขาถืออยู่และตะโกนด้วยความประหลาดใจ
นี่คือพนักงานของสวารอฟสกี้ไม่ใช่หรือ?
ยิ่งกว่านั้น กล่องที่พวกเขาถืออยู่ในมือยังมีขอบทองคำและเพชรเม็ดเล็ก ๆ ที่ส่องประกายอีกด้วย
“พระเจ้า กล่องนี้ล้ำค่ามากจริง ๆ ขอบทองและทำจากเพชรเม็ดงามด้วย”
“ผู้อำนวยการกู้ ใครส่งของมาให้คุณกันนะคะ มันดูแพงมากเลย!”
“ใช่ค่ะ ผู้อำนวยการกู้ เปิดดูเลยสิคะ พนักงานของสวารอฟสกี้ส่งด้วยตัวเอง มันต้องมีค่ามากแน่ ๆ เลยค่ะ!”
ทุกคนต่างตื่นเต้นกันครู่หนึ่ง และบางคนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเริ่มบันทึกวิดีโอ
กูห้ยุนหลานมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนในบริษัท ดังนั้นทุกคนจึงปฏิบัติต่อเธอเหมือนเพื่อน
กู้หยุนหลานเองก็กำลังสงสัยว่า ใครจะมาส่งของมาให้เธอกันนะ?
ยิ่งกว่านั้น มองดูแล้ว ไม่น่าจะเป็นของถูกเลย
เธอก้าวไปข้างหน้า เพื่อยืนยันว่าเป็นของเธอ แล้วเปิดกล่องออกต่อหน้าทุกคนอย่างระมัดระวัง
ขณะที่เปิดกล่อง พื้นที่สำนักงานทั้งหมดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยแสงเพชรระยิบระยับ!
ในขณะนั้นทุกคนเบิกตากว้าง ปากกว้าง ใบหน้าตกตะลึงและอิจฉา!
ไม่รู้ว่าเงียบไปนานแค่ไหน ก่อนที่จะมีการพูดคุยกันอย่างดุเดือดในสำนักงาน!
“นี่… นี่คือสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรไม่ใช่เหรอ?!”
“โอ้พระเจ้า! สร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน มูลค่ามากกว่า 300 ล้าน! แล้วมีเงินอย่างเดียวก็ไม่สามารถซื้อได้! น่าจะเป็นเส้นแรกในเมืองฮั่นเลยล่ะ…”
“หรูหราอลังการมาก เป็นเพชรหมดเลยเหรอเนี่ย! ผู้อำนวยการกู้ คุณโชคดีจังเลย… ใครกันนะที่ส่งสร้อยเพชรนี้มาให้คุณ?”
พื้นที่สำนักงานทั้งหมดดังสะท้านทีเดียว ผู้หญิงนับไม่ถ้วนต่างอิจฉาเธอ ผู้ชายนับไม่ถ้วนต่างก้มหัวและถอนหายใจ
หรูหรามาก!
ใครส่งมากันนะ?
เมื่อมองไปที่สร้อยคอตรงหน้าเธอตอนนี้ ใบหน้าสวยก็สั่นไหว เธอเคยเห็นสร้อยเพชรอันนี้แล้วตอนที่ไปดูของที่ร้านคราวก่อน แต่เนื่องจากความสามารถทางการเงินของครอบครัว เธอจึงไม่ได้คิดที่จะซื้อ และทำได้เพียงแค่เหลือบมองในร้าน
“รบกวนถามหน่อยนะคะ ใครเป็นคนส่งสร้อยนี่มาเหรอคะ?” กู้หยุนหลานตอบสนองทันทีและรีบถามทันที
ราคาแพงเกินไป เธอรับไว้ไม่ได้!
อย่างไรก็ตาม โจวซินอี๋โค้งคำนับเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “คุณผู้หญิงกู้คะ เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้ส่งได้ค่ะ แต่ผู้ส่งขอให้ฉันส่งข้อความถึงคุณ เขาบอกว่า เขาจะทำให้คุณมีชีวิตที่สุขสบายและจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเลย”
หลังจากพูดแล้ว โจวซินอี๋และเหมยลี่ก็หันหลังกลับออกไป
ในบริเวณสำนักงาน ทุกคนเงียบ เหล่าพนักงานหญิงต่างก็อิจฉาเธอ
“ผู้อำนวยการกู้ คุณโชคดีมาก! หรือว่าจะมีคุณชายเศรษฐีแอบปิ๊งคุณอยู่หรือเปล่าคะ?”
กู้ชิงหลินนั่งลง เหลือบมองกู้หยุนหลานอย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็ตะไบเล็บของเธอต่อไป
กู้ซิ่งเหว่ยยืนขึ้นเดินไปหากู้หยุนหลาน แตะไหล่ที่บอบบางของเธอแล้วพูดว่า “กู้หยุนหลาน ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันลาออกไปนานแล้ว ฝ่ายการตลาดของเธอผลงานย่ำแย่ขนาดนี้ เธอยังจะกล้าเป็นผู้นำของบริษัทอยู่อีกเหรอ? เธออยากให้บริษัทของเราล้มละลายหรือไง?”
กู้ซิ่งเหว่ยทำทุกวิถีทางเพื่อให้กู้หยุนหลานกดดัน และกลายเป็นคนโง่ในวันงานเลี้ยงของตระกูลกู้!
“คุณปู่คะ!”
กู้หยุนหลานกังวลและต้องการอธิบายว่า “ผลที่ตกต่ำของฝ่ายการตลาดเมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดจาก...”
มันจะเป็นอะไรได้อีก?
ฝ่ายการตลาดทำผลงานได้ไม่ดี ลูกค้าเก่าหลายคนหนีไปหมด
กู้หยุนหลานแอบไปสืบเรื่องนี้มาแล้ว เธอพบว่าทั้งหมดนี้เป็นมาจากการจัดการเบื้องหลังของกู้ซิ่งเหว่ย!
ด้วยเหตุนี้ ชายชรากู้ยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะคำพูดของกู้หยุนหลานและพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “หยุนหลาน แกไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทั้งสิ้น ถ้าแกอยากจะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่อไป ก็ทำให้เห็นสิ พิสูจน์สิว่า แกมีความสามารถ แทนที่จะหลบเลี่ยงความผิด!”
กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มและพูดว่า “คุณปู่พูดถูก ตอนนี้ในเมืองฮั่น มีบริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ นั่นคือ หรงคังกรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าเราสามารถร่วมมือกับพวกเขาได้ นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะได้คำสั่งซื้อห้าร้อยล้านเหรอครับ?”
“อย่างนั้นเหรอ?” คุณกู้ก็ตื่นเต้นเช่นกัน!
คำสั่งซื้อ 500 ล้าน ก็เพียงพอแล้วที่จะดูแลธุรกิจของครอบครัวเป็นเวลาหนึ่งปีได้
กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มและพูดว่า “คุณปู่ครับ ที่จริงแล้ว หรงคังกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ผมเพิ่งได้รับข้อมูลมา ตอนนี้พวกเขากำลังมองหาบริษัทยาที่มีความสามารถในเมืองฮั่น เพื่อขอความร่วมมือกัน ให้กู้หยุนหลานลองดูดีไหมครับ ถ้าเธอชนะความร่วมมือหรงคังกรุ๊ป เธอก็สามารถชดเชยความผิดพลาดในอดีตของเธอได้ แต่ถ้าเธอล้มเหลว ผมก็ไม่คิดว่าเธอควรจะเป็นผู้อำนวยการต่อไป เธอควรจะลาออกดีกว่า”
คุณท่านกู้พยักหน้า เขามองกู้หยุนหลาน และพูดว่า “หยุนหลาน แกคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
กู้หยุนหลานกัดริมฝีปากด้วยความวิตกกังวล
ตระกูลกู้เป็นเพียงตระกูลอันดับสองในเมืองฮั่น และในการจัดอันดับบริษัทเภสัชกรรมของเมืองฮั่น พวกเขาแทบจะไม่อยู่ในยี่สิบอันดับแรกเลยด้วยซ้ำ พวกเขาไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างหรงกังกรุ๊ป
กู้หยุนหลานเคยสังเกตและสืบเกี่ยวกับหรงคังกรุ๊ปมาก่อนแล้ว ไม่มีโอกาสที่จะได้ร่วมมือกันอย่างแน่นอน!
เพราะพวกเขาได้เลือกบริษัทยาชั้นนำสามแห่งในเมืองฮั่นแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจา
“กู้หยุนหลาน เป็นอะไรไป? เธอกลัวเหรอ? ไม่เป็นไรก็ได้นะ เธอก็ประกาศลาออกซะตอนนี้เลยสิ” กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะเยาะและดูถูกเหยียดหยาม
กู้ชิงหลิงก็ตามมาด้วย “กู้หยุนหลาน ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันคงไม่นั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปหรอก ถ้าฉันไม่มีความสามารถพอ”
กู้หยุนหลานกำมือแน่น เธอรู้ว่าสิ่งนี้เธอไม่สามารถทำได้ และเป็นวิธีการของกู้ซิ่งเหว่ยในการกลั่นแกล้งเธอเอง
เธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “คุณปู่คะ ฉันตัดสินใจแล้ว…”
แต่ทันใดนั้นเอง!
ขณะที่กู้หยุนหลานถูกทุกคนจ้องมองอย่างเย็นชา เสียงที่ไม่ลงรอยกันก็ดังขึ้น "หยุนหลาน ตอบตกลงสิ!"
ทุกคนมองไปตามเสียงและเห็นหลี่โม่ ด้วยท่าทางสงบที่ยืนอยู่ที่ประตูห้องประชุม
“หลี่โม่?!” กู้หยุนหลานมองหลี่โม่ที่เดินมาหาเธอด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...