พวกเขาจากไป? จากไปไหน? โจอันสงสัยแต่ไม่ขัดจังหวะ เธอนั่งเงียบฟังแลร์รี่เล่าต่อ
“เป้าหมายตั้งแต่เด็กของผมคือการได้เป็นทหาร ผมรักความตื่นเต้นที่ได้ต่อสู้ในสนามรบ และชอบความรู้สึกของการได้ออกแบบยุทธวิธีด้วย”
“ตอนนี้เราอยู่ในยุคสมัยที่สงบสุข แล้วลูกจะได้รับโอกาสแบบนั้นจากที่ไหน?” พ่อผมบอกว่าผมเกิดผิดเวลา ถ้าผมเกิดในยุคอดีตคงได้เป็นวีรบุรุษ ผมทำได้แค่รับมอบทรัพย์สินของครอบครัวและกลายเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล
“แต่ผมไม่ยินดียอมรับชะตากรรม ผมกระหายอยากเป็นทหารและไม่อยากมีชีวิตแบบน่าเบื่อ”
“วันหนึ่งผมได้รู้เรื่องกองกำลังพิเศษโดยบังเอิญ ในที่สุดผมก็พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งในโลกใบนี้ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ของความเป็นความตายอยู่แทบทุกวัน”
“ผมหมกมุ่นกับความรู้สึกของการได้ควบคุมชีวิตตัวเองและมีชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจ ความตกตะลึง และความคลั่งใคล้”
“วันหนึ่งผมจึงบอกพ่อของผมว่าอยากเข้าร่วมกับกองกำลังพิเศษ”
“พ่อบอกว่ามีกองกำลังพิเศษอยู่หลายแบบ และถามว่าผมอยากเข้าร่วมกับกองกำลังไหน”
“ผมตอบว่าผมอยากเป็นสมาชิกกองกำลังพิเศษที่ต้องสู้รบอย่างหนักหน่วงและลุยน้ำลุยไฟทุกวัน”
“เมื่อพ่อถามผมว่าทำไมอยากเป็นส่วนหนึ่งของคนพวกนั้น คำตอบของผมก็คือผมชอบ”
“เมื่อรู้ว่าผมมีเหตุผลแค่นั้น พ่อให้คำแนะนำที่บ่งบอกว่าไม่เห็นด้วย ทั้งยังบอกว่าผมไม่ให้เกียรติอาชีพที่สูงส่ง”
“ถึงพ่อจะไม่ยอม แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้และพยายามวิงวอนให้พ่อให้โอกาส ผมถึงกับพยายามคิดหาวิธีเจ๋งๆ ที่จะหว่านล้อมพ่อ สุดท้ายพ่อก็ขัดผมไม่ได้และยินยอม ผมยังจำได้ว่าพ่อดูหมดปัญญาและไม่พอใจ แต่ความเยาว์วัยและอวดดีของผมก็ทำให้ผมไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันหมายความว่าอะไร”
“พ่อพูดว่าผมจะกลับมาบ้านได้ก็ต่อเมื่อผมเข้าใจแล้วว่าความสำคัญของการได้เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพิเศษคืออะไร”
“ตอนนั้นผมตอบตกลงอย่างดีใจ แต่ไม่ได้ถือเป็นเรื่องจริงจัง”
“พ่อจัดการให้ผมได้เป็นนายทหารชั้นสามัญ ส่วนหลังจากนั้น ผมต้องกระเสือกกระสนให้ตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้เข้าร่วมกับกองกำลังพิเศษ”
“นับจากนั้น แทบทุกคนก็อยากเอาชนะผม แต่ผมไม่เคยเปิดช่องให้พวกเขาทำแบบนั้น”
“สุดท้ายพวกเราแปดคนก็สนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด แถมทีมของเราก็รอดจากความเป็นความตายหลายครั้งเพราะมีผมเป็นผู้นำพวกเขา ทุกคนจึงเต็มใจเรียกผมว่า ‘หัวหน้า’ แม้ว่าผมจะอายุน้อยที่สุด”
“ทุกอย่างดูวิเศษสุดสำหรับผม ผมได้ท้าทายขีดจำกัดของตัวเองและได้ชีวิตสุดเหวี่ยงทุกวัน แถมยังมีเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมหวังไว้ตอนเข้าร่วมกับกองกำลังพิเศษ”
“แม้ผมจะยังไม่เข้าใจคำพูดของพ่อ แต่ผมก็ไม่ฉุกคิด ผมรักการได้อยู่ที่นั่นและถึงกับวาดหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพิเศษไปตลอดชีวิต”
“ไม่ช้า ความสามารถอันโดดเด่นก็ทำให้ผู้กองอยากเลื่อนยศให้พวกเรา”
“แต่พวกเราทุกคนปฏิเสธข้อเสนอของเขา เพราะพวกเราคุ้นชินกับการใช้ชีวิตและสู้รบด้วยกัน จึงมองไม่เห็นเหตุผลว่าจะแยกจากกันทำไม”
“จากนั้นพวกเราก็เข้าปฏิบัติภารกิจทั้งเล็กใหญ่ด้วยกันอีกมากมาย บางภารกิจก็ง่าย แต่ที่เหลือล้วนเสี่ยงอันตราย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...