วิเวียนแทบหมดลมหายใจหลังจากที่จูบเขาอย่างยาวนาน ในที่สุดเธอก็ปล่อยเขาและหายใจหอบ
แต่ฟินนิคกดริมฝีปากของเขาแนบชิดกับริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม
“คุณรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”
รอยยิ้มขี้เล่น โค้งอยู่ที่มุมปากของเขาขณะที่เขาถูริมฝีปากสีแดงอิ่มเอิบของเธอ
วิเวียนหลบเลี่ยงและเอามือออกจากเขา
“คุณติดค้างคำแก้ตัวกับฉัน”
เธอหวังว่าจะได้คำตอบที่พอใจจากฟินนิค ในคำถามทั้งหมดที่ทำให้เธอไม่สบายใจ
”ผมไม่ได้กลับมาเร็วกว่านี้ เพราะผมอยากรอจนกว่าผมจะมีสิ่งที่ทำให้คุณได้มีชีวิตอย่างที่คุณต้องการ ตอนแต่งงานกันเราก็เจอกันแบบนี้ คุณจำไม่ได้เหรอ?"
ไม่มีร่องรอยสายตาขี้เล่นก่อนนี้ในแววตาลงเหลือให้เห็นแล้ว
วิเวียนพบกับสายตาที่แน่วแน่ของเขาและมองตาเขาอย่างจริงจัง ในที่สุดเธอก็เดินไปกอดเขา
เธอรอช่วงเวลานี้มาสองปีแล้ว การรอคอยของเธอไม่ได้ไร้ประโยชน์
เธอพยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แต่ห้วงเวลาที่ความฝันได้เป็นจริงนี้ก็ปลุกเร้าอารมณ์ในหัวใจของเธอจนต้องร้องไห้อีก
การมีเขาอยู่เคียงข้างเธอเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
ฟินนิคโอบแขนกอดเธอไว้แน่น วินาทีนั้นเขารู้สึกว่าเขาสามารถหลุดพ้นจากภาระทั้งหมดที่ต้องแบกรับในช่วงสองปีที่ผ่านมา
“ผมอยู่นี่แล้วคนดี ไม่ต้องร้องไห้นะ” เขาปลอบโยน
เมื่อเห็นสายตาภักดีที่เธอมีต่อขาอย่างหมดใจ ฟินนิครู้สึกว่าสิ่งที่เขาเผชิญมามันคุ้มค่าเหลือเกิน
สองปีที่ผ่านมาเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ รู้ว่าเธอใช้ชีวิตอย่างไร รู้สึกอย่างไร
ฟินนิครู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขาส่งคนไปปกป้องเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว
“คุณหายวับไปดื้อๆ แบบนั้น ทำให้ฉันต้องเฝ้ารอคุณอยู่หลายปี คุณทำอย่างนั้นได้ยังไง?”
วิเวียนเชิดหัวขึ้นและจ้องมองเขาด้วยสายตาตำหนิ
เธอดูคล้ายเหมือนอยากจะต่อยอกชกตีเขา แต่เธอก็รู้สึกว่าเธอทำไม่ได้
รอยยิ้มขี้เล่นบนริมฝีปากฟินนิคปรากฎขึ้น เมื่อเขาเห็นเด็กน้อยที่กำลังตกใจจ้องมองมาเขาก็แทบพูดไม่ออก “เป็นอะไรไปครับ? ลูกลืมพ่อไปหรือยัง?”
เสียงของเขาปลุกให้แลร์รี่กลับสู่ความเป็นจริง เจ้าเด็กน้อยกระโดดจากเก้าอี้วิ่งไปหาเขาทันที “พ่อฮะ!” เขาร้องตะโกนพร้อมพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดฟินนิค
ฟินนิคลูบผมของเขาด้วยความรักใคร่ เขารู้สึกใจหายเมื่อรับรู้ว่าลูกชายได้เติบโตขึ้นจนถึงระดับเอวของเขาในช่วงที่เขาจากไป
“ลูกดูแลแม่ดีไหม แลร์รี่?” ฟินนิคก้มลงมองเด็กชายคนนี้ พอโตขึ้นเด็กคนนี้ก็ชักจะละม้ายคล้ายเขาเข้าไปทุกวัน
“ใช่แล้วฮะ ผมดูแลแม่อย่างดีเลย” เด็กชายพยักหน้ายืนยันอย่างไม่ใจโดยที่ไม่ละสายตาจากพ่อของเขา
“ต้องอย่างนี้สิลูกพ่อ ลูกรู้วิธีปกป้องแม่แล้วสินะ”
ฟินนิครู้ว่าแลร์รี่ไม่ใช่เด็กขี้เล่นและคอยตามติดผู้ใหญ่อย่างที่เขาเคยเป็นอีกต่อไป เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจมากขึ้น
แต่สิ่งที่ฟินนิคไม่รู้ก็คือจิตใจของแลร์รี่ยังเป็นเด็กอยู่ เขาเชื่อฟังและเงียบไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ชอบได้รับความสนใจจากวิเวียน แต่เพราะเขาเห็นเธอเหนื่อยมากแค่ไหนในแต่ละวัน
วิเวียนดูเหนื่อยมากจนแลร์รี่รับรู้ว่าเขาจะเพิ่มภาระให้แม่ถ้าเขาไม่ดูแลตัวเอง
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงบอกตัวเองให้เป็นเด็กดีและปกป้องแม่ของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...