“มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?” วิเวียนถามเมื่อรับสายแล้ว ทันใดนั้นเสียงวิตกกังวลของฟินนิคก็ดังขึ้น ซึ่งมันทำให้หัวใจของเธอตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม “วิเวียน พวกเขาพบร่างของแลร์รี่แล้ว เราจำเป็นต้องไประบุตัวตนของเขา”
“รออยู่ที่โรงพยาบาลนะครับ” เขาบอกเธอ “ผมจะไปรับคุณที่นั่นเองนะ” วินาทีนั้นวิเวียนตะลึงจนพูดไม่ออก
ร่างของฟักทองน้อยงั้นเหรอ? ราวกับว่าเราไม่ได้มีวาสนาที่จะได้เกิดมาเป็นแม่ลูกกัน เขาได้ทิ้งฉันไปเสียแล้ว ฉันไม่สมควรที่จะเป็นแม่คนเลยจริงๆ
วิเวียนหัวเราะสมเพชตัวเองขณะที่ร่างกายของเธอก็เลื่อนไถลลงมาจากผนังอย่างช้าๆ เธอกุมศีรษะของเธอเอาไว้แล้วเริ่มร้องไห้
ฉันคิดมาตลอดว่าอีฟเวลินโกหกเรื่องที่ฟักทองน้อยของฉันตายแล้ว แต่ปรากฏว่าเธอได้ทำสิ่งนั้นจริงๆ
เมื่อคิดเช่นนั้นวิเวียนก็สั่นหัวอย่างแรง แล้วบอกกับตัวเองว่า “ไม่ มันเป็นไปไม่ได้”
เมื่อแหงนหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็เห็นฟินนิคกำลังเดินเข้ามาหา เธอจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วตรงเข้าไปหาเขาทันที
เธอเขย่าตัวเขาด้วยความสิ้นหวังแล้วเธอก็ถามเขาว่า “ทำไแลร์รี่ตายได้ยังไง? เขาไม่ควรจะต้องตายฉันพูดถูกมั้ยคะฟินนิค?” น้ำตาของเธอไหลกลบจนทำให้ตาของเธอพร่ามัว
ฟินนิคมาแล้ว ตราบใดที่เขาอยู่ที่นี่ ฉันก็จะต้องหาทางออกได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็เริ่มถามเขาอีก
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นก็เพราะฟินนิค
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาตำหนิเขาในตอนนี้ เธอจะต้องรีบไประบุตัวตนของศพก่อน แล้วดูว่าเป็นแลร์รี่จริงรึเปล่า อาจจะเป็นไปได้ที่ตำรวจจะเข้าใจผิด
ด้วยความหวังสุดท้ายวิเวียนจึงยอมให้ฟินนิคพาเธอออกจากโรงพยาบาลไปขึันรถ ขณะเดียวกันฟินนิคก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าวิเวียนดูทรุดโทรมเพียงใด
ก่อนหน้านี้เขายังกังวลว่าเขาควรจะบอกให้วิเวียนรู้ดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจบอกเธอทุกอย่าง แลร์รี่เป็นลูกชายของเธอด้วย ดังนั้นเธอจึงมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้
ถึงกระนั้น เขาก็ยังอดที่จะเสียใจกับการตัดสินใจของเขาไม่ได้ เมื่อเห็นว่าวิเวียนนั้นโศกเศร้าแค่ไหน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิเวียนสติแตกแล้วเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้น? แต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว ได้แต่หวังว่าตำรวจจะเข้าใจผิด
สภาพของศพถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงจนดำเป็นตอตะโก นอกจากนี้ก็ยังมีกรดกำมะถันอยู่ทั่วไปหมด จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องศพ
สัญชาตญาณของฟินนิคบอกเขาว่านี่ไม่ใช่แลร์รี่ เขาจึงต้องการที่จะตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาล แต่ร่างกายที่ชุ่มไปด้วยกรดกำมะถันนั้นอาจจะนำปัญหามาให้แพทย์ได้หากว่าพวกเขาประมาท
หลังจากที่ได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ตรวจดีเอ็นเอ
พวกนักสืบเอกชนอ้างว่าเคยเห็นแลร์รี่เมื่อก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่ร่างนี้จะเป็นศพลูกชายของเขา เขาจะคอยฟังข่าวจากคนพวกนั้นต่อไป
ฟินนิคได้ตัดสินใจแล้ว เขายังคงมีสติดีอยู่แต่ทว่าวิเวียนนั้นกำลังตื่นตระหนกจนกระทั่งทรุดลงกับพื้นแล้วหลั่งน้ำตา
ฟินนิครู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นว่าวิเวียนที่กำลังใจสลาย เขารีบบอกกับวิเวียนว่านี่ไม่ใช่แลร์รี่ แต่เธอก็คิดว่าเขาโกหกเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...