บุรุษชุดสีชมพูในความมืดใช้ศอกผลักชายในชุดสีทองพลางเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นี่ เจ้าไม่ไปช่วยหน่อยหรือ? รัฐทายาท*แห่งอ๋องเซียวเหยา อย่างน้อยก็พูดสักหน่อยจะเป็นไรไป?”
ปรากฏว่าบุรุษในชุดสีทองไม่ใช่ใครอื่น เขาคือพระโอรสในอ๋องเซียวเหยา นามว่าอวี๋เฟยเหยียน
และคุณชายที่มีลักษณะคล้ายสตรีในชุดสีชมพูที่อยู่ข้าง ๆ ก็คือเย่เทียนซูศิษย์พี่รองของเขา
ทั้งสองเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของซ่างกวนซี
อวี๋เฟยเหยียนกอดอกพลางพูดอย่างเหยียดหยาม “ศิษย์พี่ให้พวกเรามาสังเกตการณ์ ไม่ได้สั่งให้ช่วยใคร แล้วเหตุใดต้องไปยุ่งเรื่องของนางด้วย”
เย่เทียนซูม้วนผมของตัวเอง แสร้งทำเป็นปวดใจและพูดว่า “เฮ้อ แต่นางน่าสนใจจริง ๆ อีกทั้ง... นางก็ดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย”
“ไม่เมื่อไม่ใช่คนอายุสั้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้าหรือเจ้าลงมือ เอาล่ะ ออกจากวังไปรายงานกันเถอะ!” อวี๋เฟยเหยียนเขย่งเท้าทะยานจากไป
เย่เทียนซูหันกลับไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ตามอวี๋เฟยเหยียนไป
ทว่าทันทีที่พวกเขาจากไป พวกเขาก็พลาดการแสดงที่น่ารับชม
เมื่อเห็นอันกั๋วกงเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับดาบสยบพยัคฆ์ในมือ เยี่ยนเว่ยฉือก็เท้าเอวตะโกนด้วยความโกรธ “บังอาจนักนะ!”
หืม?
ทุกคนมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ พลางคิดว่านางอาจหาญไม่เบา
ในราชสำนักใครจะกล้าพูดกับอันกั๋วกงเช่นนี้บ้าง?
เยี่ยนเว่ยฉือไม่สนใจสีหน้าของผู้อื่นและยังคงโกรธต่อไป “ในวังมีกฎเกณฑ์ ไม่ว่าใครก็ห้ามนำอาวุธเข้ามา ทว่าท่านกลับเดินถือดาบเข้ามาอย่างเปิดเผย ท่านคิดจะทำอะไร? ลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทรึ?”
ทันทีที่คำพูดถูกเอ่ยออกมา ฮ่องเต้คังอู่ก็ทรงถอนพระทัยอย่างเหนื่อยหน่าย
ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างยิ้มเยาะ “ไม่รู้ว่าแม่หนูนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้ไม่รู้จักดาบสยบพยัคฆ์”
องค์ชายรองซ่างกวนหลีเสริมว่า “ดาบสยบพยัคฆ์นี้เป็นสิ่งฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งแคว้นจิ่วหลีพระราชทานให้ตระกูลอัน ดาบสยบพยัคฆ์ปกป้องแผ่นดิน กษัตริย์ผู้ปราดเปรื่องควบคุมเหล่าขุนนาง ทุกคนต่างรู้ดีว่าดาบสยบพยัคฆ์สามารถนำเข้ามาในวังได้ เด็กน้อยเช่นเจ้าช่างไม่รู้เรื่องอะไรเสียเลย”
เยี่ยนเว่ยฉือตกใจเล็กน้อย ราวกับเพิ่งนึกออกว่ามีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ
คงต้องโทษบิดาของนางที่ทอดทิ้งนางไว้ที่หมู่บ้านห่างไกล ดังนั้นนางจึงจำเรื่องราวในเมืองหลวงได้ไม่มากนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท