เยี่ยนเว่ยฉือดึงขากางเกงของซ่างกวนซีพลางพูดอย่างจนใจ “องค์รัชทายาท ดูบาดแผลตามตัวของท่าน หากไม่รีบรักษา ท่านอาจตายได้เลยนะ”
ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ต้องยุ่ง!”
“ไม่ให้ข้ายุ่งแล้วจะให้ใครยุ่งเล่า? หากท่านตายไป ข้าจะใช้อำนาจของใครเล่า?” เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้ปิดบังความคิดของตัวเองแม้แต่น้อย
ซ่างกวนซีจนใจ การเสียเลือดจำนวนมาก อีกทั้งยังมีบาดแผลอักเสบทำให้เขาเริ่มมีไข้สูงขึ้นเรื่อย ๆ
เขาต้องการการรักษาบาดแผลโดยด่วน
แต่ไม่มีใครในวังที่สามารถไว้ใจได้ หมอในสำนักหมอหลวงยิ่งแล้วใหญ่
ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือ พลางคิดว่าสตรีผู้นี้รู้วิธีใช้พิษ หรือนางอาจมีทักษะทางการแพทย์จริง ๆ?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงพูดว่า “เจ้ารักษาแค่บาดแผลที่ร่างกายช่วงบนก็พอ ส่วนช่วงล่าง...เจ้าไม่ต้องยุ่ง”
เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “นี่พี่ชาย ให้ข้าหากระจกทองเหลืองให้ท่านไปส่องก้นดูไหมเล่า? ถูกตีจนเป็นแผลช้ำเลือดขนาดนั้น ไม่รู้ว่าท่านทนเจ็บได้อย่างไร ไหนจะดันทุรังนั่งรถม้ามาอีก ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลตรงร่างกายส่วนบนหรือส่วนล่างก็ต้องรักษาให้หมด ไม่เช่นนั้นหากปล่อยไว้แผลจะเน่าจนมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มตัว ถึงตอนนั้นคง…”
“หุบปาก!” ตอนนี้ซ่างกวนซีรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด เขาเป็นโรคกลัวความสกปรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งได้ฟังเยี่ยนเว่ยฉืออธิบาย เขาก็รู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าถูกฆ่าเสียอีก
เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเมื่อเห็นดังนั้นและพูดว่า “เอาล่ะ ๆ ข้าไม่แกล้งให้ท่านกลัวแล้วก็ได้ ตราบใดที่ยังมีข้าอยู่ ข้าไม่ยอมให้ร่างกายของท่านถูกพวกหนอนรุมทึ้งหรอก เพราะร่างกายของท่านเป็นของข้า!”
เยี่ยนเว่ยฉือยักคิ้วให้ซ่างกวนซี ท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยของนางทำให้ซ่างกวนซีรู้สึกเหมือนตนเป็นสาวน้อยที่ถูกหยอกล้อ
เมื่อเห็นว่าเขายังคงอึดอัดใจ เยี่ยนเว่ยฉือก็กลอกตาแล้วพูดว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะหันหลัง ส่วนท่านก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วนอนคว่ำบนตั่ง หากข้าทำแผลที่หลังกับก้นของท่านเสร็จแล้ว ข้าจะออกไป จากนั้นท่านค่อยใส่กางเกงให้เรียบร้อย”
ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างตกใจพลางตวาดด้วยความโมโห “เจ้า…เจ้าพูดจาไม่คิดเช่นนี้ได้อย่างไร!”
สตรีผู้นี้มาจากที่ใดกันแน่? นางเป็นคุณหนูจากจวนโหวไม่ใช่หรือ? เหตุใดนางถึงได้ปากไวนึกอยากจะพูดอะไรก็พูดเช่นนี้?!
เยี่ยนเว่ยฉือทำหน้าบูดบึ้งและพูดว่า “ท่านนี่ขี้โมโหเสียจริงนะ แต่พี่สาวคนนี้น่ะ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท