ทุกคนยืนชูคอมองอ่างทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่ง
ส่วนฮองเฮานั้นถึงกับบีบมือเข้าหากัน แลดูค่อนข้างกังวล
ทว่าหลังจากที่ทดสอบนางกำนัลและขันทีไปกลุ่มหนึ่ง ก็ไม่มีมือของใครเปลี่ยนสีเลย
บุรุษชุดสีชมพูที่อยู่ในความมืดขมวดคิ้วพลางพูดว่า “เฮ้อ วิธีการของนางไม่ได้ผล!”
บุรุษชุดสีทองแค่นเสียงเบา ๆ “ข้าคิดว่านางจะฉลาดหลักแหลมเสียอีก ไม่เพียงนางทำลายแผนของศิษย์พี่แล้วล่ะ เพราะตอนนี้นางได้เอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย”
เป็นดังที่คาดไว้ ทันทีที่ทางนี้เอ่ยจบ
ฮองเฮาที่อยู่ทางนั้นก็เริ่มโจมตีเยี่ยนเว่ยฉือ
“เจ้าช่างบังอาจที่กล้าหลอกใช้ฝ่าบาทกับข้า เจ้าลองใช้สองตามองดูสิ มีฝ่ามือของใครเปลี่ยนสีหรือไม่ พูดจาเหลวไหลยิ่งนัก! ใครก็ได้มาลากนาง…”
ก่อนที่ฮองเฮาจะพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็แคะหูแล้วพูดด้วยความรำคาญ “ฮองเฮาเพคะ พวกเรายืนใกล้กันมากเช่นนี้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนหูหนวก”
หลังจากพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ให้โอกาสให้ฮองเฮาได้ตำหนิตนต่อ พลางชี้ไปยังเฟินเอ๋อร์ที่ยืนหลบมุมอยู่ในกลุ่มคนรับใช้แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท นางคือฆาตกรเพคะ”
อะไรนะ?!
เฟินเอ๋อร์เบิกตากว้างมองเยี่ยนเว่ยฉือ จากนั้นก็รีบคุกเข่าและพูดว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่นะเพคะ ฝ่าบาทเองก็ทรงเห็น ฝ่าบาททรงเห็นอย่างชัดเจนว่ามือของหม่อมฉันไม่ได้เปลี่ยนสีเพคะ!”
เฟินเอ๋อร์ยื่นมือออกมา พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างร้อนรน
ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างก็พูดอย่างร้อนใจ “นั่นสิ มือของนางไม่ได้เปลี่ยนสีเลย เจ้าพูดจาไร้สาระอะไรของเจ้า?”
เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปหาเฟินเอ๋อร์พร้อมกับจับข้อมือซ้ายของนางพลิกฝ่ามือขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท