คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็สงสัยเช่นกัน
สาวน้อยที่เสื้อผ้าผมเผ้ารุงรังผู้นี้เป็นใครกันแน่?
เหตุใดถึงได้รู้มากเช่นนี้?
ฮองเฮาพูดเสียงแข็งว่า “เหลวไหล เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยจะไปรู้อะไร? อย่าคาดเดาอะไรเรื่อยเปื่อย!”
เยี่ยนเว่ยฉือเบะปากพูดว่า “การกล้าตั้งสมมติฐานและตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ใช่วิธีการพื้นฐานในการคลี่คลายคดีหรือเพคะ? อีกอย่าง สิ่งที่พวกท่านพบในร่างของสวีเหม่ยเหรินไม่มีใครเคยเห็นว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทนี่เพคะ!”
ทันทีที่พูดจบ บรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่อยู่ในเหตุการณ์ บ้างก็งุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกบ้างก็ก้มหน้าก้มตา
เยี่ยนเว่ยฉือผู้นี้ช่างพูดได้อย่างไม่อายปากเอาเสียเลย!
เมื่อเห็นจากสายตาของฮองเฮาเหมือนต้องการจะโต้เถียง เยี่ยนเว่ยฉือก็พูดต่อทันที “ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเพคะ ในเมื่อตอนนี้ก็ได้รู้สาเหตุการเสียชีวิตของสวีเหม่ยเหรินแล้ว หม่อมฉันแค่ต้องตามหาฆาตกรตัวจริงเท่านั้น ก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้องค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่าเพคะ!”
ฮ่องเต้คังอู่ตรัสถามอย่างตื่นเต้น “เจ้าสามารถตามหาฆาตกรตัวจริงได้หรือ?”
เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าและพูดต่อ “ทูลฝ่าบาท เพื่อทำให้คนคนหนึ่งเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง มิใช่เพียงแค่ดอกท้อไม่กี่ดอก ต้องใช้ดอกท้อเป็นจำนวนมาก หรือต้องใช้ของที่ทำจากดอกท้อที่มีความเข้มข้นสูง ตัวอย่างเช่น น้ำมันดอกท้อ เหล้าดอกท้อชั้นดี หรือขนมดอกท้อเป็นต้นเพคะ”
ฮ่องเต้คังอู่ทอดพระเนตรไปยังนางกำนัลที่เฝ้าศพอยู่ในห้อง และตรัสถามอย่างเคร่งขรึมว่า “ในตำหนักของพวกเจ้ามีสิ่งของที่ว่าหรือไม่?”
นางกำนัลชื่อเฟินเอ๋อร์รีบคุกเข่าลงแล้วตอบว่า “ทูลฝ่าบาท สวีเหม่ยเหรินไม่ชอบดอกท้อ ในห้องจึงไม่มีสิ่งของที่ทำจากดอกท้อเลย แม้แต่ต้นท้อที่เดิมถูกตั้งไว้ในห้องก็ถูกย้ายไปยังสวนไป่หยวนเพคะ”
“ได้ยินรึยัง ที่ตำหนักนี้ไม่มีดอกท้อ!” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาดุดัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท