หลี่อวิ๋นหว่านตกตะลึง นี่หลี่เทียนลั่วตกอยู่ในเงื้อมมือของฉีเติ่งเสียนตั้งแต่เมื่อไร
เหตุการณ์ที่รีสอร์ทตงซานเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้มาก แม้ว่าหยางหลิงกวงจะลงมือดำเนินการ แต่เขาก็ต้องพะว้าพะวังและพิจารณาซ้ำๆ เพื่อไม่ให้ไปพัวพันกับคนใหญ่คนโตมากเกินไป
ดังนั้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ เรื่องนี้ก็ถูกปกปิดไว้และไม่มีสื่อเปิดเผย จนเมื่อเรื่องราวใกล้จะจบลง เรื่องนี้ก็เป็นข่าว
“อีกไม่นานเดี๋ยวคุณก็รู้จากข่าว” ฉีเติ่งเสียนยิ้มให้หลี่อวิ๋นหว่านโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่ม
ฉีเติ่งเสียนเอาของทุกอย่างไปเก็บไว้ที่รถ จากนั้นก็กลับไปที่บริษัทพร้อมหลี่อวิ๋นหว่าน
พวกเขาทั้งสองนั่งทานมื้อกลางวันที่โรงอาหารด้วยกัน
หยางกวนกวนเดินถือจานอาหารเข้ามา เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียน เธอก็รีบออกห่างและนั่งลงในมุมไกลๆ
หลี่อวิ๋นหว่านถามอย่างอดไม่ได้ “นายแกล้งอะไรกวนกวนอีกแล้วเหรอ ดูเหมือนว่าเธอไม่ค่อยอยากจะเจอหน้านายนะ”
ฉีเติ่งเสียนพูด “งั้นเหรอ ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆ หยุดมองตาคู่นั้นไม่ได้ มันขนาดนั้นเลยเหรอ”
หลี่อวิ๋นหว่านไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดี มีแค่ผู้ชายอย่างฉีเติ่งเสียนเท่านั้นที่กล้าพูดเรื่องบ้ากามแบบนี้ต่อหน้าแฟนสาว
ดูเหมือนว่าหยางกวนกวนจะสังเกตเห็นว่าฉีเติ่งเสียนกำลังพูดถึงเธอ เธอจึงหันมาจ้องหน้าเขาอย่างดุๆ ซึ่งมันก็ดูดุร้ายจริงๆ
“ไม่ค่อยเห็นกวนกวนดุขนาดนี้” หลี่อวิ๋นหว่านหลุดขำและส่ายหน้าเบาๆ
“ใช่ เธอดุมาก!” ฉีเติ่งเสียนพูด
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จ ฉีเติ่งเสียนก็โทรหาเซี่ยงตงฉิงและถามว่าเธออยู่ที่ไหน
เซี่ยงตงฉิงพูดอย่างสบายใจ “ฉันพักอยู่ที่บ้าน”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างพึงพอใจ “โอเค เดี๋ยวผมเข้าไปหา ให้ลุงฝูเปิดประตูให้ผมด้วย”
เซี่ยงตงฉิงพอจะรู้ว่าฉีเติ่งเสียนจะมาทำอะไร หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็วางสาย
เมื่อฉีเติ่งเสียนมาถึงประตูบ้านของเซี่ยงตงฉิง อาฝูก็รออยู่แล้ว
หลังจากอาฝูเห็นฉีเติ่งเสียน รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา แต่ท่าทางของเขากลับดูโศกเศร้าและกลัดกลุ้มไม่น้อย
เขามองถุงผ้าในมือฉีเติ่งเสียนและรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น แล้วน้ำตาที่เอ่ออยู่ในเบ้าตาก็ค่อยๆ ไหลออกมา
“ลำบากหน่อยนะครับประธานฉี” อาฝูพูดพลางถอนหายใจ
“เรื่องเล็กน้อยครับ” ฉีเติ่งเสียนยิ้ม “ลุงฝู ลุงอย่าเศร้าไปเลย เรื่องสุขภาพต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ประธานเซี่ยงมีคุณเป็นญาติคนเดียวแล้วนะครับ”
อาฝูยกมือเช็ดน้ำตาที่หางตาและพูดอย่างขมขื่น “ผมเฝ้าดูคุณชายเติบใหญ่มาตลอด เขามีความสามารถมาก แต่ความสามารถเหล่านี้ก็ทำร้ายเขาด้วย...ผมผิดเองที่ตอนนั้นไม่ได้สอนเขาให้ดี”
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ทางเลือกของใคร คนนั้นก็เลือกเอง โทษคนอื่นไม่ได้หรอกครับ ลุงฝู อย่าโทษตัวเองเลย ลุงอุทิศทุกอย่างให้ตระกูลเซี่ยงแล้ว”
อาฝูพูดต่อ “นายท่านมีบุญคุณกับผมมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำเพื่อตระกูลเซี่ยงคุ้มค่าแล้ว ประธานฉี เข้าข้างในกันเถอะครับ คุณหนูรอคุณอยู่...”
ฉีเติ่งเสียนตามอาฝูเข้าไปในคฤหาสน์ที่หรูหราเกินเหตุ แม้ว่าคฤหาสน์จะหรูหราโอ่อ่า แต่มันก็ทำให้รู้สึกว่ามีความโศกเศร้าอบอวลอยู่ทั่วทุกแห่ง
เซี่ยงตงฉิงที่รู้ว่าฉีเติ่งเสียนนำอะไรมาก็เปลี่ยนเป็นชุดดำแล้ว
เธอพยายามซ่อนความเศร้าบนใบหน้าไว้อย่างสุดความสามารถซึ่งนั่นทำให้หน้าสวยของเธอดูแปลกไปเล็กน้อย
“เถ้ากระดูกของพี่ชายคุณ” ฉีเติ่งเสียนถือโกศด้วยมือทั้งสองข้างแล้วยื่นไปตรงหน้าเซี่ยงตงฉิงด้วยท่าทางสุขุม
เซี่ยงตงฉิงไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ เธอเม้มปากแน่น “วางไว้ตรงนั้นแหละ”
ฉีเติ่งเสียนไม่มีทางเลือกจึงต้องวางโกศลงบนโต๊ะ
หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยงตงฉิงก็ยิ้มด้วยความเศร้าโศกและพูดว่า “ตอนนี้ฉันไม่เหลือแม้แต่คนที่ฉันจะเกลียดได้แล้วใช่ไหม”
“แต่ถ้าทำแบบนั้นอาจจะต้องสูญเสียหลายร้อยล้าน”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเซี่ยงตงฉิง ฉีเติ่งเสียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เรามีห้าหมื่นล้านนะ แถมยังเป็นทองคำด้วย”
เซี่ยงตงฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นรอยยิ้มจางๆ ที่ไม่มีให้เห็นบ่อยๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอและในทรวงอกก็รู้สึกหายใจได้โล่งคอหลังจากอัดอั้นมาเป็นเวลานาน
“พรุ่งนี้ฉันจะเอาเถ้ากระดูกของเซี่ยงตงเหลยไปฝังไว้ข้างหลุมศพของพ่อแม่” เซี่ยงตงฉิงพูดกับฉีเติ่งเสียน
“เอาสิ เดี๋ยวผมไปกับคุณด้วย” ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า
เซี่ยงตงฉิงพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดกับอาฝูว่า “ลุงฝู รบกวนลุงไปเอาไวน์ที่พ่อสะสมไว้ทั้งหมดออกมาที แล้วให้สาวใช้ทำอาหารที่เหมาะกับการดื่มให้ฉันหน่อย แล้วก็ช่วยปฏิเสธโทรศัพท์ทุกสายที่โทรหาฉันด้วย”
อาฝูรู้สึกดีใจอย่างสุดซึ้ง เขารู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเซี่ยงตงฉิงจะทำให้เสียเงินหลายร้อยล้าน
แต่เซี่ยงตงฉิงก็ไม่สนใจ
ในฐานะนักลงทุน ฉีเติ่งเสียนเองก็ไม่สนใจด้วยซ้ำ
บางทีวันนี้สวี่เอ้าเสวี่ยอาจจะพอใจมาก
แต่แล้วยังไง มันสำคัญตรงไหนล่ะ
ขอแค่เซี่ยงตงฉิงมีความสุขขึ้นสักนิดก็พอ
ฉีเติ่งเสียนเอื้อมมือไปหยิบดินสอออกจากด้านหลังศีรษะของเซี่ยงตงฉิงและรีบพูดก่อนที่เซี่ยงตงฉิงจะโกรธ “ผมคิดว่าเวลาผมยาวๆ ของคุณประบ่าคุณดูดีมาก ได้ดื่มกับคุณที่สวยขนาดนี้ ไม่แน่ว่าผมอาจจะดื่มได้มากกว่าเดิมสักแก้วสองแก้ว”
เซี่ยงตงฉิงรู้สึกว่าจู่ๆ ไฟที่กำลังลุกโชนในทรวงอกของเธอก็ถูกลมพัดจนปลิวไป
เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหยิบดินสอกลับไป แต่ก็ไม่ได้เสียบเข้าไปใหม่
“ครั้งหน้าอย่าแตะต้องมันถ้าฉันไม่ได้อนุญาต”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...