มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 377

“ไปกันเถอะ”

ฉีเติ่งเสียนเอามือล้วงกระเป๋าแล้วพูดอย่างใจเย็น

หลังจากที่ผู้บัญชาการหวังได้รับอนุญาต เขาก็โบกมือและนำคนออกไปทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!

หยางหยวนซานร้องด้วยความตกใจ “ผู้บัญชาการหวัง คุณจะไปแบบนี้เลยเหรอ แล้วผมจะทำยังไง!”

ผู้บัญชาการหวังหันหน้ากลับมาและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณชายหยาง ผมจัดการเรื่องนี้ไม่ได้หรอก คุณหาวิธีจัดการเองเถอะ”

หยางหยวนซานโมโหจนแทบเป็นลม นี่คุณเป็นถึงผู้บัญชาการของหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาตินะ แล้วคุณก็ได้ประโยชน์จากตระกูลหยางอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้กลับมาบอกว่าคุณจัดการเรื่องนี้ไม่ได้เนี่ยนะ!

“ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจัดการ แต่เขาจัดการไม่ได้ต่างหาก” ฉีเติ่งเสียนพูดกับหยางหยวนซานช้าๆ

ใบหน้าของหยางหยวนซานซีดเซียวเพราะเสียเลือดมาก หลังจากได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน เขาก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนแทบจะเป็นลม

เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ เห็นๆ กันอยู่ว่าฉีเติ่งเสียนใช้ปืน การทำร้ายผู้อื่นด้วยปืนกับทำร้ายด้วยวิธีอื่นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนะ!

หยางกวนกวนเองก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน ตอนแรกเธอคิดว่าคงยากที่ฉีเติ่งเสียนจะจัดการเรื่องนี้ได้ ใครจะไปคิดว่าแค่เขาโชว์บัตรประจำตัวแล้วผู้บัญชาการหวังจะตกใจขนาดนี้!

เธอสงสัยมากว่าบัตรนี้คืออะไร ทำไมถึงทำให้คนอย่างผู้อำนวยการหวังหวาดกลัวได้

“สามนัดนี้ถือเป็นการเตือน”

ฉีเติ่งเสียนหรี่ตามองหยางหยวนซานและแสยะยิ้ม

หยางหยวนซานใช้ผ้าพันแผลพันแผลทั้งหมดไว้แล้วและการยิงทั้งสามนัดก็หลีกเลี่ยงจุดสำคัญไว้เพื่อไม่ให้เขาตายคาที่

ปากของหยางหยวนซานสั่นเทาจนพูดอะไรไม่ออก

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตะโกนอย่างไม่เต็มใจ “เพราะที่นี่คือจงไห่ต่างหากล่ะ!”

ฉีเติ่งเสียนตอบรับ “หืม?”

หยางหยวนซานกัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “ถ้าที่นี่เป็นโมตู!”

“ถ้าที่นี่เป็นโมตู นายจะกล้าอวดดีขนาดนี้ไหม นายจะมีปัญญาอวดเก่งแบบนี้รึเปล่า”

“ถ้าที่นี่เป็นโมตู ฉันฆ่านายได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีแน่!”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ฉีเติ่งเสียนก็ยิ้มเยาะก่อนจะพูดว่า “ถ้าที่นี่เป็นโมตูเหรอ ถ้าที่นี่เป็นโมตู ฉันก็ทำให้นายตายได้ถ้าฉันต้องการเหมือนเดิม”

หยางเฟยเฟยพูดขึ้นบ้าง “นายนี่มันขี้โม้จริงๆ ถ้านายกล้านักก็ไปโมตูกับเราสิ ฉันจะคอยดูว่านายจะตายไหม!”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มอย่างจนปัญญาก่อนจะส่ายหน้า “เธอบ้ารึไง จะให้ฉันไปโมตูกับพวกเธอตอนนี้เนี่ยนะ”

“ก็ได้ สักวันฉันจะไปยังสถานที่ที่เรียกว่าโมตู”

“เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะบอกพวกนายเอง หวังว่าพวกนายจะฆ่าฉันได้แล้วกัน!”

หยางหยวนซานพูดด้วยความโกรธ “ตอนนี้ทำตัวอวดดีไปเถอะ ตราบใดที่นายก้าวเท้าเข้าสู่โมตู ฉันจะทำให้นายตายโดยไม่มีหลุมฝังศพแน่!”

ฉีเติ่งเสียนกลอกตา “ขี้โม้แบบนี้ใครๆ ก็พูดได้”

“อีกอย่างนะ...ท่าทางของพวกนายคือท่าทางของคนแพ้ใช่ไหม”

“พูดจาอวดดีให้ฉันฟังอีกสิ”

หลังจากพูดประโยคนี้ ฉีเติ่งเสียนก็หยิบปืน P1911 ที่ใช้ในกองทัพออกจากเอวก่อนจะยกมือขึ้นแล้วจ่อไปที่ศีรษะของหยางหยวนซาน

เขาแยกเขี้ยวยิงฟันอย่างดุร้ายราวกับแบทแมนผู้หัวเราะในการ์ตูน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยแรงอาฆาตอันร้ายกาจ

หยางหยวนซานที่ถูกยิงไปแล้วสามครั้งไม่กล้าเดิมพันว่าฉีเติ่งเสียนจะไม่ยิงเขาตาย ในสายตาของเขาชายคนนี้เป็นคนบ้า!

หยางเฟยเฟยตกใจมากจนรีบปิดปากตัวเองด้วยมือทั้งสองข้าง

“จริงสินะ คนแพ้ก็ต้องมีท่าทางอย่างคนแพ้สิ”

“มา คุกเข่าลงแล้วขอโทษเลขาของฉันซะ”

ฉีเติ่งเสียนหันปากกระบอกปืนไปพูดกับหยางเฟยเฟย

ฉีเติ่งเสียนเอื้อมมือออกไปตบบ่าหยางกวนกวนก่อนจะพูดว่า “ไปเถอะ เลิกเถียงกับคนสมองพิการสองคนนี้ดีกว่า เดี๋ยวผมจะให้สไนเปอร์คุณไว้ ถ้าพวกเขามากวนคุณ คุณก็ฆ่าพวกเขาเลย”

"..."

ทั้งหยางเฟยเฟยและหยางกวนกวนรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ หากคนอื่นพูดแบบนี้ พวกเขาก็คงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นบ้า แต่เมื่อฉีเติ่งเสียนพูดออกมากก็เป็นไปได้สูงที่เขาจะทำเช่นนั้น

ไลฟ์สตรีมช่วงนี้ของหยางกวนกวนไม่ใช่เกมผู้เล่นคนเดียว แต่เป็นเกมยิงปืนแบบที่ผู้เล่นมีมุมมองเหมือนคนยิงปืนเอง มีชื่อว่า CSGO และคำพูดประจำตัวของเธอคือ “ขอให้สไนเปอร์ให้ฉันหน่อย”

เมื่อได้ยินคำพูดล้อเลียนของฉีเติ่งเสียน หยางกวนกวนก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีก เธอถูกรังแกขนาดนี้ เขายังมีอารมณ์มาพูดล้อเล่นอีกเหรอ...

เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนเดินออกไป หยางกวนกวนก็ไม่กล้าอยู่ต่อและรีบตามเขาไป

ทันทีที่พวกเขาเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ฉีเติ่งเสียนก็เอื้อมมือมาจับมือเธอไว้

วีรบุรุษช่วยสาวงามไว้แล้ว ถ้าเขาไม่ใช้โอกาสนี้พัฒนาความสัมพันธ์ แล้วจะรอเมื่อไรล่ะ

หยางกวนกวนตะลึง เธอถือโอกาสจับมือฉีเติ่งเสียนไว้แน่นและเดินตามเขาออกจากวิลล่า

หลังจากทั้งสองออกไป หยางหยวนซานก็คำรามด้วยความโมโห “ฉันจะไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันกับหมอนั่น ถ้าเขากล้าเหยียบโมตู ฉันจะสับเขาให้เป็นชิ้นๆ!”

หยางเฟยเฟยเองก็กัดฟันกรอด “กล้ามาบังคับให้ฉันคุกเข่าให้คนต่ำต้อยอย่างหยางกวนกวน ฉันจะฉีกเขาทั้งเป็นแน่!”

ทันทีที่ทั้งสองพูดจบ ฉีเติ่งเสียนก็โผล่หน้าเข้ามาจากทางประตู “ฉันได้ยินหมดแล้ว”

“...”

ทันใดนั้นสองพี่น้องชายหญิงก็ตัวสั่นและหน้าซีดไปตามๆ กัน

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า “ฉันจะไปโมตูแน่ถ้ามีโอกาส หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นพวกนายจะทำให้ดีที่สุด!”

“สู้ๆ ล่ะ พยายามอีกสักร้อยล้านเท่าก็ฆ่าฉันได้แล้ว!”

หลังจากพูดประโยคนี้จบ เขาก็พาหยางกวนกวนออกไป

หยางกวนกวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คาดว่าคืนนี้สองพี่น้องคงได้ฝันถึงฉีเติ่งเสียนและได้กลัวจนตกใจตื่นกลางดึกแน่