มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 406

แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนย่อมพยายามช่วยเรื่องของตระกูลหวงอย่างเต็มที่

ถึงอย่างไรเขากับหวงฉีปินก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เรียกว่าเป็นเพื่อนกันก็ยังได้

ยิ่งไปกว่านั้นหวงเหวินหลั่งยังเป็นนายกของเมืองจงไห่ การช่วยเหลือเขาย่อมทำให้เขาทำธุระต่างๆ ในเมืองจงไห่ได้สะดวกกว่า

หวงเหวินเทามีปัญหาก็มาบอกหวงฉิงเกอ หวงเหวินหลั่งมีปัญหาก็มาหาหวงฉิงเกอ ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างตลก

ดูเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นคราวก่อนจะยังทำให้สองพี่น้องไม่กล้ามาเจอหน้าเขา

เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของฉีเติ่งเสียน หวงฉิงเกอก็รีบเอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า “ไม่ใช่ว่าพ่อให้ฉันมาคุยกับนายหรอกนะ แต่เป็นเพราะฉันกังวล ก็เลยมาหานาย”

ฉีเติ่งเสียนอุทานอย่างอดประหลาดใจไม่ได้ เขากล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะเขาให้มาหาฉัน งั้นมีเรื่องอะไร”

“คืออย่างนี้ ตอนที่พ่อฉันยังไม่ได้เป็นผู้นำตลาดหุ้น เขาเคยทำคุณงามความดีที่สำคัญอย่างหนึ่ง”

“เขาไขคดีเกี่ยวกับการขโมยทรัพยากรไปขายต่อ ซึ่งมันพัวพันกับบุคคลที่มีอำนาจมากคนหนึ่ง”

“คนมีอำนาจผู้นี้หลบหนีจากประเทศหัวไปอยู่ไกลถึงต่างประเทศก่อนที่เรื่องนี้จะแดงออกมา”

“นอกจากนี้คดีนี้ยังถูกจัดให้อยู่ในลิสต์คดีลับสุดยอดและถูกปิดผนึกเอาไว้ แต่ไม่นานมานี้ คดีนี้กลับรั่วไหลออกมา...”

หวงฉิงเกอเล่าเรื่องนี้ให้ฉีเติ่งเสียนอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่หวงเหวินหลั่งจะเป็นผู้นำในตลาดหุ้น

ฉีเติ่งเสียนไม่แปลกใจที่คดีลับสุดยอดอย่างคดีนี้จะรั่วไหลออกไป หวงเหวินหลั่งอยู่ในฐานะที่สำคัญ ดังนั้นย่อมต้องมีศัตรูบ้างอยู่แล้ว

เพื่อจัดการกับเขา ศัตรูของเขาจึงปล่อยข่าวเรื่องเมื่อตอนนั้นออกมา ยืมมือคนอื่นโจมตีเขาโดยที่ตัวเองไม่ต้องออกแรงใดๆ เลย เรียกว่าสะดวกสบายมาก

หวงฉิงเกอกล่าวว่า “พอคนมีอำนาจคนนั้นรู้เรื่อง เขาก็ปล่อยข่าวออกไป บอกว่าต้องการหาทางแก้แค้น”

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยว่า “มันก็ง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ พ่อของเธอเป็นถึงนายก ไปขอความคุ้มครองจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติหรือไม่ก็กรมยุทธการก็ได้นี่”

หวงฉิงเกอยิ้มอย่างขมขื่นและบอกว่า “ถ้าเรื่องมันง่ายขนาดนั้นก็ดีสิ... ในตอนนั้นพวกเขาไม่กล้าสืบคดีนี้ต่อจนจบเพราะมันไปพัวพันกับผู้มีอำนาจมากเกินไป”

“นอกจากนี้ยังถือเป็นเรื่องที่อื้อฉาว จนเบื้องบนปิดตายคดีนี้ไว้เพื่อไม่ให้เรื่องลุกลามใหญ่โต”

“ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พ่อฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากทางนั้น พ่อทำได้แค่คิดหาวิธีแก้ปัญหาอย่างลับๆ”

“แม้ว่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติจะส่งคนฝีมือดีมาคุ้มครองพ่อฉัน แต่ฉันก็ยังกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น”

ฉีเติ่งเสียนฟังดังนั้นก็พยักหน้าตามอย่างอดไม่ได้ เขาเกิดในตระกูลที่มีอิทธิพลสูง ดังนั้นเขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรมองแค่เพียงผิวเผิน เพราะภายในนั้นซ่อนสิ่งสกปรกโสมมไว้มากมาย

อย่างเช่นนโยบายพิเศษบางเรื่อง ดูเผินๆ อาจจะสร้างประโยชน์ให้ประชาชน แต่ในความเป็นจริงนโยบายเหล่านี้เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้กลุ่มเอกสิทธิ์ชนบางกลุ่มฟอกเงินได้อย่างเปิดเผย

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยว่า “แล้วผู้มีอำนาจคนนั้นเป็นใครล่ะ”

หวงฉิงเกอเม้มปากและกระซิบว่า “ฉันเองก็แอบได้ยินพ่อกับลุงพูดเรื่องนี้ ก็เลยรู้ นายอย่าไปบอกใครนะ”

ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ ซึ่งหมายความว่าจะพูดหรือไม่พูดก็เรื่องของเธอ

หวงฉิงเกอเห็นท่าทางของฉีเติ่งเสียนแล้วก็อดโกรธไม่ได้ หมอนี่เวลาทำให้คนเกลียด ก็เกลียดจนอยากจะคว้ามีดมาสับเสียให้เละ!

“คนคนนี้ชื่อหงเทียนตู นายน่าจะเคยได้ยินชื่อมาก่อน” หวงฉิงเกอบอก

พอได้ยินชื่อนี้ ฉีเติ่งเสียนก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาเอ่ยว่า “คนสำคัญในเหตุการณ์ขายชาติตอนนั้น หัวหน้าใหญ่ผู้มีชื่อเสียงของหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ หงเทียนตูที่รู้จักกันในนามอรหันต์ประจำชาติน่ะนะ?”

หวงฉิงเกอยิ้มอย่างจนปัญญาและบอกว่า “ช่างเถอะ เลิกพูดเรื่องพวกนี้ดีกว่า วันนี้เรามาสนุกกันเถอะ มาสิ ฉันชวนนายมายิงธนู ถ้านายเก่งกว่าฉัน วันนี้ฉันจะรับผิดชอบมื้อเย็นให้เอง!"

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะฮึๆ และบอกว่า “ฝีมือฉันแย่มาก วันนี้คงไม่ได้กินอาหารเย็นที่เธอเชิญแน่”

คำพูดของเขาฟังดูเหมือนกับตอนที่เขาบอกหยางกวนกวนว่าเขาตีแบดมินตันไม่เป็น แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดแบบนี้เพราะจะชื่นชมอีกฝ่ายเหมือนเมื่อก่อน แต่เขาพูดเพื่อเว้นระยะห่างจากหวงฉิงเกอออกมาเล็กน้อย จะได้ไม่เป็นการยากที่ต้องปฏิเสธเมื่อถึงเวลา

เมื่อมาถึงสนามยิงธนูก็เห็นว่าหลู่หนานกำลังตั้งธนูขึ้นมา มีเสียงผึ่งดังขึ้นที่สายธนู เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปยี่สิบก้าวก็ถูกลูกธนูปักเข้าไปตรงใจกลาง!

“คุณชายหลู่สุดยอดมาก ทักษะการยิงธนูไร้ที่ติจริงๆ!”

“ผมว่าถ้าคุณชายหลู่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาสมัครเล่น จะคว้าแชมป์สักสองรายการคงไม่ใช่เรื่องยาก”

“ใช่ๆ คุณชายหลู่เก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋น เป็นอัยการอาวุโสที่อายุน้อยที่สุดในเมืองจงไห่ แถมทักษะการยิงธนูก็ยังดีเลิศ!”

เห็นได้ชัดว่าหลู่หนานเป็นศูนย์กลางของคนกลุ่มนี้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนหนุ่มที่มีภูมิหลังดีทั้งยังมีอำนาจ ควรค่าที่จะประจบประแจง

หลู่หนานมีสีหน้าพึงพอใจ เขาบังเอิญหันไปเห็นหวงฉิงเกอกับฉีเติ่งเสียนเดินมาพอดี จึงเอ่ยว่า “ฉิงเกอ บอกเพื่อนของเธอให้มาร่วมแข่งกับเราวันนี้ด้วยสิ”

เขาคิดจะใช้โอกาสนี้ทำให้คู่ต่อสู้ของเขาอับอายขายหน้า

ฉีเติ่งเสียนเพียงแค่ส่ายหน้าและบอกว่า “ต้องขออภัยด้วย ผมก็แค่คนบ้านนอกคอกนา เล่นกีฬาของผู้ดีอย่างการยิงธนูไม่เป็นหรอกครับ ผมไม่คู่ควร”

ทุกคนอดชะงักไม่ได้ ในขณะที่หวงฉิงเกอรู้สึกขบขันกับการล้อเล่นของเขาและกลอกตาใส่เขาแรงๆ

“ทำไมถึงได้พูดทุกประโยคที่เราจะเหน็บแนมเขาเลยล่ะ?”

ผู้ติดตามหลายคนของหลู่หนานอดพึมพำในใจไม่ได้ คำพูดเหน็บแนมนี่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องพูดเสียหน่อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง