มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 445

สวีเอ้าเสวี่ยมองจูจวินด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น นี่เธอถูกผู้หญิงแบบนี้ตบงั้นเหรอ

เป็นแค่ผู้อำนวยการสาขาแต่กล้ามาตบหน้าเธองั้นเหรอ!

“ตอนนี้เธอดูไร้หนทางมาก เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะให้ทางเลือกเธอสองทาง”

“ทางแรก คุกเข่าลงและเลียฝุ่นออกจากรองเท้าของฉันให้สะอาด แล้วฉันจะปล่อยเธอไป”

“ทางที่สองคือจ่ายเงินมาซะ ไม่อย่างนั้นจุดจบของเธอคงน่าสมเพชไม่เบา!”

จูจวินจ้องหน้าสวีเอ้าเสวี่ยอย่างเอาเรื่อง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ ความรู้สึกของการเหยียบคนใหญ่คนโตที่อยู่สูงเกินเอื้อมไว้ใต้เท้ามันสดชื่นแบบนี้นี่เอง!

สวีเอ้าเสวี่ยลูบแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “เธอเคยคิดไหมว่านกฟีนิกซ์ที่กำลังตกต่ำมันคงสู้ไก่ไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือฟีนิกซ์”

จูจวินหัวเราะลั่นหลังจากได้ฟัง “เธอน่ะเหรอนกฟีนิกซ์! ฉันว่าแค่ไก่บ้านๆ เธอยังสู้ไม่ได้เลย! ถ้ากล้ามาจู้จี้กับฉันอีก วันนี้ฉันจะทำให้เธอตายเลยคอยดู!”

สวีเอ้าเสวี่ยพูดว่า “เธอพูดถูก ตอนนี้ฉันกำลังตกต่ำมาก ถึงขั้นต้องขายตัวเองเพื่อใช้หนี้ แต่เธอช่วยใช้สมองโง่ๆ ของเธอคิดให้ดีๆ หน่อยเถอะว่าผู้ชายที่สวีเอ้าเสวี่ยคนนี้ขายตัวให้ ใช่คนที่เธอควรหาเรื่องรึเปล่า”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ความสับสนก็ปรากฏบนใบหน้าของจูจวิน จากนั้นเธอก็หัวเราะเยาะ “นี่จะใช้บารมีคนอื่นมารังแกกันเหรอ คุณตัวอย่างเธอคิดจะมาขู่ฉันเหรอ”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ เธอก็ตบหน้าของสวีเอ้าเสวี่ยอีกด้าน

สวีเอ้าเสวี่ยเอียงศีรษะและหันหน้ากลับมาอย่างไร้ความรู้สึก “เธอตบฉันสองครั้ง งั้นฉันก็จะคืนให้เธอสิบเท่า นั่นเท่ากับยี่สิบครั้ง”

“เอาคืนฉันเหรอ ฉันอยากจะรู้ว่าเธอมีสิทธิ์อะไรมาเอาคืนฉัน! ถ้าเธอยังไม่ตัดสินใจระหว่างทางเลือกสองทางที่ฉันให้ ฉันก็จะให้คนลากเธอไปขายที่ไนต์คลับ!” จูจวินพูดพลางแสยะยิ้ม

สวีเอ้าเสวี่ยสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปพูดกับฉีเติ่งเสียน “ได้โปรดช่วยฉันด้วย!”

ฉีเติ่งเสียนยกเปลือกตาขึ้น ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องเปิดปากแล้วสินะ

เขาเมินเฉยต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพียงเพื่อให้สวีเอ้าเสวี่ยก้มหัวขอร้องเขา

“ได้สิ แต่ว่าคุณก็รู้ดีว่าถ้าจะให้ผมช่วยก็ต้องมีดอกเบี้ย!” ฉีเติ่งเสียนยืนขึ้นและพูดอย่างใจเย็น

สวีเอ้าเสวี่ยไม่ได้ตอบอะไร เธอแค่พูดว่า “ฉันอยากให้ผู้หญิงคนนี้คุกเข่าลงและยอมให้ฉันตบยี่สิบครั้งแต่โดยดี!”

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ได้”

จูจวินมองฉีเติ่งเสียนก่อนจะมองสวีเอ้าเสวี่ยอีกครั้ง เธอชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะอย่างเหยียดหยาม “เป็นบ้าอะไรกัน พวกเธอบอกอะไรแล้วฉันต้องทำเหรอ จะให้ฉันคุกเข่าให้แต่ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง!”

ในตอนนั้นเองที่ผู้จัดการร้านของชาแนลออกมา เมื่อเห็นว่าจูจวินกำลังทะเลาะกับคนอื่นอยู่ เขาก็รีบเข้ามาสอบถาม

หลังจากเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้จัดการร้านก็เตือนฉีเติ่งเสียน “รีบคุกเข่าให้ผู้อำนวยการจูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฆ่านาย!”

ฉีเติ่งเสียนยักไหล่และพูดว่า “นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร คิดว่าตัวเองเปิดร้านแบรนด์เนมแล้วเจ๋งมากเหรอ”

ผู้จัดการร้านพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันเจ๋งมากที่เปิดร้านชาแนล นายจะทำไม!”

ฉีเติ่งเสียนพูด “ก็ไม่ทำไม ก็แค่จะทำให้นายเปิดร้านไม่ได้ต่อไปเท่านั้น”

พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรออกและพูดนิ่งๆ “ฉันอยู่ที่ศูนย์การค้าเฟยหม่า ส่งคนมาจัดการที่นี่หน่อย”

“แสดงเก่งจริงนะไอ้บ้านี่ นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร”

จูจวินหัวเราะเยาะเย้ยฉีเติ่งเสียนด้วยสีหน้าดูแคลน

ผู้จัดการร้านกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ฉีเติ่งเสียนจึงเตะเขาจนกระเด็นออกไป เขานอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดจนไม่สามารถลุกขึ้นได้อยู่พักใหญ่

เขาขี้เกียจเกินกว่าจะตอบโต้กับคนประจบประแจงผู้มีอิทธิพลพรรค์นี้ เขาจึงจะจัดการจูจวินก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ทันทีที่วางสาย เขาก็กดหมายเลขของจูจวินทันที

เมื่อจูจวินที่กำลังจะพูดเหน็บแนมต่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เธอหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นซุนซิงจัง หัวหน้าของเธอ!

เธอมองฉีเติ่งเสียนด้วยความตกใจ ในใจก็สงสัยว่าชายคนนี้มีเงินฝากในธนาคารจงไห่เท่าไรถึงทำให้ผู้อำนวยการซุนตื่นกลัวหลังจากโอนเงินออกไปได้!

“จูจวิน คุณโง่รึเปล่า คุณกล้าทำให้ประธานฉีแห่งเทียนไล่แคปปิตอลไม่พอใจเหรอ”

“ตอนนี้เขาต้องการโอนเงินหมื่นล้านจากธนาคารของเรา คุณรับผิดชอบได้ไหม”

“ผมไม่สนว่าคุณทำอะไรโง่ๆ ลงไปหรอกนะ ตอนนี้รีบขอโทษประธานฉีเดี๋ยวนี้และรักษาเงินหมื่นล้านไว้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องทำแล้ว!”

ซุนซิงจังคำรามใส่จูจวินด้วยความโกรธจนทำให้จูจวินชะงัก

ผ่านไปครู่หนึ่ง จูจวินก็แค่นหัวเราะและพูดว่า “ผู้อำนวยการซุน จะให้ฉันขอโทษเหรอ ไม่มีทาง!”

ซุนซิงจังตะลึง “คุณไม่อยากทำแล้วเหรอ”

“ไม่ทำก็ไม่ทำ! ถ้าแน่จริงก็ไล่ฉันออกสิ!” จูจวินพูดเสียงแข็ง

ท่าทางของเธอทำให้สวีเอ้าเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ฉีเติ่งเสียนล้วงมือลงในกระเป๋าและมองฉากนี้อย่างเฉยชา ราวกับว่าเขาเดาอะไรบางอย่างได้

จูจวินวางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็วและมองฉีเติ่งเสียนด้วยสายตาเย่อหยิ่ง “นายมีปัญญาแค่นี้เองเหรอ น่าผิดหวังจริงๆ!”

ใจเธอยังรู้สึกตกใจอยู่เล็กน้อย ไม่คิดว่าชายที่อยู่กับสวีเอ้าเสวี่ยจะเป็นฉีเติ่งเสียน

แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ขัดขวางเธอจากการหยิ่งผยองต่อไป!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง