"คุณหนูใหญ่ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ชายที่เข้ามาสวมชุดเสื้อผ้ากางเกงสีดำ พอเขาเห็นมู่จิ่วซีก็คุกเข่าลงทันที
มู่จิ่วซีให้เขาลุกขึ้นและเอ่ยกล่าว : "ข้าไม่เป็นไร เย่ฮาน ท่านพ่อทราบเรื่องในวันนี้หรือเปล่า?"
"คุณท่านเพิ่งทราบขอรับ เขาโกรธจนทุบโต๊ะจนหัก เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนต้องการทำร้ายฆ่าคุณหนูใหญ่"
เย่ฮานคือหนึ่งในผู้พิทักษ์เงาข้างกายคนหนึ่งของแม่ทัพใหญ่มู่
"ท่านพ่อคาดเดาว่าเป็นใครที่ต้องการทำร้ายฆ่าข้า?" มู่จิ่วซีถาม
เย่ฮานครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย : "คุณท่านบอกว่ามีสองคนที่น่าสงสัยมาก หนึ่งคือสนมเอกสามเซียวหลิงเย่ว์ สองคือคุณหนูใหญ่ไป๋ชิงขอรับ"
มู่จิ่วซีเงียบไม่พูดอะไร นางเองก็สงสัยสนมเอกสามเหมือนกัน
แคว้นเกาอวิ๋นค่อนข้างพิเศษ จักรพรรดิเป็นเพียงเด็กอายุแค่สิบขวบ โม่จุนคือเสด็จลุงห้าของจักรพรรดิองค์น้อยนี้
จักรพรรดิองค์ก่อนได้ทรงนำทัพเป็นการส่วนพระองค์และสิ้นพระชนม์ลง ฮองเฮาที่มีพระชันษาเพียง 25 พรรษาก็กลายเป็นพระพันปีหลวง มกุฎราชกุมารที่อายุ 8 พรรษาก็ต้องสืบทอดราชบัลลังก์ แต่ก็ต้องมาประสบจากแรงกดดันของหลายฝ่าย
โม่จุนได้ใช้เวลาสามปีในการช่วยพระพันปีหลวงและจักรพรรดิองค์น้อยในการรักษาเสถียรภาพของราชสำนักและการสงครามจนได้รับความไว้วางใจอย่างลึกซึ้งจากพระพันปีหลวงและองค์จักรพรรดิ สมกับเกียรติในฐานะท่านผู้สำเร็จราชการแทน
ส่วนสนมเอกสามเซียวหลิงเย่ว์เป็นพระเชษฐนีของเสด็จพี่สามของโม่จุน (พระเชษฐนี หมายถึง พี่สะใภ้)
ตอนนั้นเซียวหลิงเย่ว์และโม่จุนได้มีใจชอบพอกัน แต่เนื่องจากท่านพ่อของเซียวหลิงเย่ว์ไม่ได้ยกย่องในจักรพรรดิองค์น้อยผู้นี้และเข้าข้างท่านอ๋องสามผู้ทะเยอทะยาน เซียวหลิงเย่ว์จึงถูกบังคับและกลายเป็นสนมเอกสาม
ผลลัพธ์คือโม่จุนใช้วิธีโหดร้ายคุกคามกดดันจัดการ ซึ่งตระกูลเซียวพ่ายแพ้ก็เท่ากับต้องมีการสูญเสีย ท่านอ๋องสามเลยขาขาดและกลายเป็นคนพิการ
พระพันปีหลวงเมื่อทรงเห็นว่าเซียวหลิงเย่ว์ได้คลอดบุตรสาวออกมาแล้วก็เลิกที่จะต่อความยาวสาวความยืดและทรงปฏิบัติต่อนางอย่างคนในราชวงศ์
และด้วยต้นเหตุเช่นนี้ เซียวหลิงเย่ว์จึงทั้งรักและเกลียดโม่จุน
มู่จิ่วซีเดาว่าเซียวหลิงเย่ว์อาจจะยังรักโม่จุนเลยไม่อยากให้เขาได้สู่ขออภิเษกแต่งงาน
ท้ายที่สุดแล้วความเป็นเจ้าของและความอิจฉาของผู้หญิงนั้นก็น่ากลัวอย่างมาก
ภายนอกต่างพูดกันว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนก็มีพระชันษาตั้ง 23 แล้วแต่ยังไม่ได้อภิเษกเพราะเนื่องจากลืมเซียวหลิงเย่ว์ไม่ได้
"สนมเอกสามก็น่าสงสัยจริงๆ ส่วนคุณหนูใหญ่ไป๋เหตุใดถึงต้องสงสัยว่าทำร้ายข้า?" มู่จิ่วซีขมวดคิ้ว
เย่ฮานรีบกล่าว : "คุณหนูใหญ่ไป๋บางทีอาจไม่ได้ต้องการทำร้ายคุณหนูใหญ่ แต่อาจต้องการโยนความผิดให้คุณหนูรองไป๋เฟิ่งหว่าน"
มู่จิ่วซีก็เข้าใจในฉับพลัน ตระกูลไป๋คือจวนอัครมหาเสนาบดี การต่อสู้ภายในของตระกูลชั้นสูงล้วนเป็นการสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะโดยที่มือไม่ต้องเปื้อนเลือด
ไป๋เฟิ่งหว่านเป็นลูกของอนุภรรยาคนรองแต่กลับได้รับความรักการโปรดปราณยิ่งกว่าไป๋ชิง ถึงอย่างไรอัครมหาเสนาบดีไป๋ก็รักและโปรดปราณอนุภรรยาคนรองอยู่คนเดียว
ถ้าไม่ใช่เพราะภรรยาหลวงป่วยหนักนอนติดเตียงตาไม่หลับมาโดยตลอด อนุภรรยาคนรองคงได้ขึ้นเป็นภรรยาหลวงไปนานแล้ว
พอคิดแบบนี้ ไป๋ชิงที่ต้องการฆ่าไป๋เฟิ่งหว่านก็จะสมเหตุสมผล นางเลยต้องใช้มู่จิ่วซีเป็นเครื่องมือ ซึ่งนางก็คงไม่เต็มใจ
"คุณหนูใหญ่ไป๋ชิงเองก็ชอบท่านผู้สำเร็จราชการแทนขอรับ" เย่ฮานกล่าวเพิ่มอีกประโยค
มู่จิ่วซีได้แต่ส่งเสียงยิ้มเหอะๆ : "หน้าอย่างกับโลงผุแบบนั้นทำไมถึงได้มีผู้หญิงมาชอบเยอะขนาดนี้ พวกนางไม่กลัวว่ากอดๆ นอนอยู่ก็แข็งตายหรอกหรือไง"
เย่ฮานตกใจถลึงตาอ้าปากค้าง จากนั้นมุมปากเขาก็กระตุกขึ้น สำหรับคำด่าหยาบคายของคุณหนูใหญ่แล้ว เขาหมดคำจะพูดจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน