มู่หวั่นโจวถอนหายใจ มีแค่ท่านหญิงอยู่ข้างเธอก็พอ
"ท่านหญิงคะ นี่ก็ดึกแล้ว รีบพักผ่อนเถอะค่ะ ครั้งก่อนที่หนูให้ธูปหอมไปดีไหมคะ? ได้ยินว่าช่วยเรื่องการนอนดีมาก ดีต่อสุขภาพด้วยนะคะ"
ใบหน้าของหลิวจิงซูเต็มไปด้วยความพอใจ "หวั่นโจว หนูช่างเอื้อเฟื้อจริงๆ มีอันนั้นฉันถึงค่อยนอนหลับสบายหน่อย เอาล่ะ หนูรีบไปนอนเถอะ ฟังจากเสียงหนูเหมือนจะเหนื่อยแล้วด้วย"
หลังจากที่มู่หวั่นโจววางสาย ดวงตาก็แดงก่ำจนไม่กล้ามองตัวเองในกระจก
ต้องมีรอยเยอะมากแน่ๆ เป็นรอยที่ทำให้เธออยากอาเจียน
เธอแช่น้ำจนผิวย่นแล้วลุกขึ้นจากอ่าง ความแค้นในใจเหมือนปีศาจที่กัดกินหัวใจเธอไปทีละนิด
แต่เธอไม่ได้แค้นกงมู่ป๋าย แต่ทั้งหมดเป็นเพราะสือฮว่า หากสือฮว่าไม่โผล่มา เธอกับกงมู่ป๋ายจะมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง
ทั้งหมดเป็นเพราะสือฮว่านังบ้านั่น!
สือฮว่าที่ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร ตอนนี้นอนหลับสบาย ทันทีที่เธอตื่นขึ้นมาก็เห็นฮ่อฉวนสือกำลังนั่งจัดการเรื่องธุรกิจอยู่หัวเตียง
"อ้อ คุณสามี คุณรู้ไหมฉันเจอคนที่ผลักท่านหญิงแล้วนะ เป็นสือหยวน"
ฮ่อฉวนสือหยุดปลายนิ้วของเขาก่อนพยักหน้าช้าๆ "ฉันให้หนานสือไปจัดการกับบริษัทตระกูลสือแล้ว"
ฉื่อฮัวลุกจากเตียง "งั้นก็ดี งั้นฉันไปเจียหัวก่อนนะ ทางนั้นมีหลายเรื่องเลย"
สือฮว่าที่ไม่รอคำตอบก็กลับไปที่ห้องนอนตัวเอง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกเดินทางไปยังเจียหัวทันทีโดยไม่ได้มีเวลาทานอาหารเช้าด้วยซ้ำ
ฮ่อฉวนสือนั่งคนเดียวบนโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าดูไม่ดี ตั้งแต่สือฮว่าเข้าไปในเจียหัวก็แทบไม่ได้กินอาหารเช้ากับเขาเลย มันทำให้เขาอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่พอนึกถึงตอนกลางคืนจะมีผู้หญิงตัวหอมๆในอ้อมแขน ริมฝีปากที่เม้มก็คลายออก ใบหน้าก็ฉายแววถึงความสุข
สือฮว่าที่เพิ่งเข้าเจียหัวก็เหลือบไปเห็นหลี่เคอหร่าน
หลี่เคอหร่านคงอารมณ์ไม่ค่อยดี คนรอบข้างเอาแต่กระซิบกระซาบอยู่ตลอด
ดวงตาของหลี่เคอหร่านบวม นึกถึงท่าทีของหลินเฟิงเหมียนที่มีต่อเธอ ก็รู้สึกถึงลูกศรนับพันแทงทะลุหัวใจ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรผิดอย่างน้อยเธอก็รักหลินเฟิงเหมียนจริงๆ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงให้อภัยเธอไม่ได้
ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสือฮว่าก็โกรธขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะสือฮว่าโผล่ออกมา เธอกับหลินเฟิงเหมียนคงหนีไปด้วยกันนานแล้ว คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้!
"นังบ้า!"
เธอก่นด่าก่อนยกมือขึ้นจะตบหน้าสือฮว่า
แต่ทันทีที่เธอยกมือขึ้นก็โดนสือฮว่าบีบไว้แน่น
ใบหน้าสือฮว่าเย็นชา "ถงเหยียน"
ทันทีที่เธอเรียก ถงเหยียนก็ลุกขึ้นยืนทันทีด้วยใบหน้าที่ความเคารพ
"จดหมายทนายความที่จะให้คุณหลี่ล่ะ?"
ถงเหยียนรีบอธิบาย "ขอโทษค่ะ คุณสือ เมื่อวานล่าช้าไป วันนี้ได้ส่งที่โต๊ะทำงานของเธอแล้วค่ะ"
สือฮว่าพยักหน้าและหันมาสบตากับหลี่เคอหร่าน "คุณหลี่ เชิญฉันชนะคดีนี้กับฉันก่อน ฉันลืมบอกคุณว่ามหาลัยฉันเรียนกฎหมาย ถ้าคุณจ้างทนายความก็หวังว่าคุณจะจ้างคนที่เป็นมืออาชีพมาหน่อยนะคะ"
หลี่เคอหร่านโกรธจนหน้าซีดและทั้งตัวก็เริ่มสั่นสะท้าน
ทะนงตัว ครั้งนี้สือฮว่าทะนงตัวเกินไป
สือฮว่าเดินผ่านเธอไปก่อนขึ้นไปชั้นบนสุด
หลี่เคอหร่านไม่พอใจก่อนจะรีบไปหาเฉินถังทันที
เธอไม่ค่อยเข้าหาเฉินถังเท่าไร ตั้งแต่ได้เจอกับหลินเฟิงเหมียนเธอก็มีความสุขดี
เฉินถังบังคับเธอมาตลอดทั้งปี ต้องการกฎที่ไม่เคยพูดอยู่เสมอ แต่เพื่อให้ดูน่าสงสารต่อหน้าหลินเฟิงเหมียน ในปีนี้เธอเลยไม่ค่อยไว้หน้าเฉินถัง ดังนั้นการพัฒนาทางภาพยนตร์เลยจืดชืด
เฉินถังเห็นเธอมา ดวงตาก็สว่างไสวแล้วรีบปิดประตูห้องทำงาน "เคอหร่าน ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ?"
ใบหน้าของหลี่เคอหร่านดูไม่ดี ลูบคอเขาก่อนนั่งในอ้อมแขน "ประธานเฉินคะ ก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ไม่มีตาเอง คนอื่นต่างกูรู้ชัดว่าอยู่กับเฉินถังแล้วมีประโยชน์มากมาย ไม่รู้ว่าประธานเฉินจะเปลี่ยนใจไปแล้วหรือเปล่า"
ใบหน้าของหลี่เคอหร่านนั้นดูบริสุทธิ์ สิ่งที่พูดกระแทกเข้าหัวใจจังๆ เฉินถังยังไม่สามารถเอาอยู่
"เคอหร่าน เธอกำลังพูดถึงอะไร ฉันอยากได้เธอมาเป็นปีแล้ว ฉันจะเปลี่ยนใจง่ายๆได้ยังไงล่ะ"
หลี่เคอหร่านเคยทำสายงานนี้มาก่อน ก็ยื่นมือออกไปคลึงหน้าอกอย่างชำนาญ "งั้นถ้าฉันอยู่กับประธานเฉินแล้ว สือฮว่าคงจะไม่กล้ามาหาเรื่องฉันแล้วใช่ไหมคะ?"
เมื่อพูดถึงสือฮว่า เฉินถึงก็รู้สึกได้ทันทีว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่น่าดึงดูด
หลี่เคอหร่านเป็นคนหน้าตาดี แต่ความดูดีแบบนี้มันไว้เทียบกับคนธรรมดาเท่านั้น สิ่งที่น่าดึงดูดที่สุดสำหรับผู้ชายคือรูปลักษณ์ที่น่าสงสารในสายตาของเธอ
แต่สือฮว่าต่างออกไป ความงามของสือฮว่าทำให้ผู้ชายมีความทะเยอทะยานที่อยากจะพิชิต และอยากได้ความหยิ่งนั่น
เขาเคยถามผู้อำนวยการยวี๋ไปแล้ว แต่เขาไม่ได้บอกตัวตนของสือฮว่า ดูเหมือนว่าสือฮว่าจะเป็นอย่างที่เขาคิด เป็นแค่ของเล่น แค่ของเล่นที่รู้เยอะ
หลี่เคอหร่านสังเกตเห็นความลังเลของเขาก็กัดฟันและจูบที่ริมฝีปากของเขา "ประธานเฉินคะ ตอนนี้คุณไม่ชอบฉันแล้วเหรอคะ?"
ยวี๋เหว่ยครอบงำมาหลายปี ใครจะไม่กลัวเขา?
เพราะงั้นคนรอบข้างเลยไม่กล้าพูดอะไร ถึงแม้ว่าพวกเขาหวังให้สือฮว่าชนะ แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงท่าทีที่ดูเกินไป
ทุกคนกลัวจะโดนกดขี่ ใช้ชีวิตแบบเหนื่อยๆ ใช้แรงงานอย่างหนักหนาแถมโดนคนอื่นชักใยอีก พวกเขาไม่ได้อยากมีชีวิตแบบนี้ การมาของสือฮว่าคือความหวังของพวกเขา!
ใบหน้าของยวี๋เหว่ยเรียบเฉย "คุณสือ คุณเป็นแค่ผู้หญิง ดังนั้นอย่าเข้ามาสอดเรื่องพวกนี้เลย กลับบ้านไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานดูแลสามีเถอะ"
สือฮว่าลดสายตาลง รู้ว่าถึงยังอยู่ที่นี่ก็ไม่เป็นผล สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้คือจุดที่เธอจะกุมได้ของยวี๋เหว่ย สงสัยต้องให้ถงหางไปตรวจสอบซะแล้ว
เธอหันหลังกลับและเดินจากไป
เมื่อศิลปินรอบข้างเห็นเธอจากไป แววตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง สุดท้ายก็ทำไม่ได้นี่นะ พวกเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะช่วยพวกเขาได้...
ยวี๋เหว่ยแค่นเสียงอย่างเย็นชาแล้วมองไปรอบๆ "เก็บความคิดของพวกเธอไว้ซะ อย่านึกว่าฉันไม่รู้ว่าพวกเธอกำลังคิดอะไร สือฮว่าก็แค่ของเล่น คิดจะให้ของเล่นมาช่วยพวกเธอเหรอ ฝันไปเถอะ!!!"
ทุกคนก้มหน้าไม่กล้าตอบโต้
พวกเขาไม่พอใจ แต่จะทำอะไรได้ พวกเขาเซ็นสัญญาไว้ 10 ปี ไม่ถึงสัญญาทางบริษัทก็จะไม่ปล่อย เว้นแต่พวกเขาจะตกลงเงื่อนไขที่ยวี๋เหว่ยกำหนด
สือฮว่ารีบกลับไปที่ห้องทำงานชั่วคราวแล้วเรียกถงหางให้เข้ามา "ไปตรวจสอบยวี๋เหว่ย ดูซิมีจุดอ่อนอะไรไหม"
ถงหางพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วไปดำเนินการ
สือฮว่ารออยู่ในห้องทำงานสักพัก สายตาเห็นเวลาอาหารกลางวันก็ลุกขึ้นและไปร้านอาหารแถวๆเจียหัว
ทันทีที่เธอนั่งลงก็รู้สึกมีผู้ชายที่โต๊ะถัดไปกำลังมองมาที่เธอด้วยดวงตาแพรวพราว
ชายคนนั้นถือดอกกุหลาบไว้ในมือ จัดสูทนิดหน่อยแล้วเดินเข้ามา "คุณผู้หญิงครับ ขอเบอร์ได้ไหมครับ?"
สือฮว่าหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนพิงพนักเก้าอี้งีบหลับโดยไม่สนใจเขา
"อาเฉียง คุณไม่ได้จะให้ดอกไม้นี้กับฉันเหรอ? ทำไมถึงไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ?"
เสียงแหลมของหญิงสาวดังขึ้นและชายที่ชื่ออาเฉียงก็ร้อนรน ไม่คิดว่าเธอจะมาเร็วขนาดนี้
"ฉันรู้แล้ว เป็นผู้หญิงที่เข้าหาแล้วอ่อยคุณก่อนใช่ไหม? นังบ้านี่!!"
หลังจากก่นด่า เธอก็ยกแก้วกาแฟจากบนโต๊ะจะสาดสือฮว่ากลับโดนถงเหยียนห้ามไว้
ตอนนี้ชายคนนั้นก็ได้สติ "ใช่ เธออ่อยฉัน ฉันเพิ่งนั่งเธอก็มาขอเบอร์แถมยังถามว่าคืนนี้ฉันพอมีเวลาด้วยหรือเปล่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้