องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 189

หลี่จุ่นไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ถึงทำให้ลูกจ้างคนหนึ่งพูดถึงเช่นนี้ แล้วยังบอกว่าคู่ควรกับตน แต่ในใจลึกๆ ก็มีความคาดหวังเล็กน้อย

หรือว่าจะเป็นหญิงสาวผู้งามหยดย้อยคนนั้นที่อยู่ในห้องส่วนตัวฝั่งตรงข้าม

จู่ๆ ในใจของหลี่จุ่นก็พลันเกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมา

แต่เขาก็ตัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ในสายตาของเขา ผู้หญิงคนนี้มีไว้เพียงชื่นชมอยู่ไกลๆ เท่านั้น สูงส่งเกินกว่าจะล่วงเกินได้ อีกอย่าง ผู้หญิงแบบนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาหาเขา

หลี่จุ่นระงับความคิดในหัวไว้ชั่วคราวแล้วเดินตามลูกจ้างไปตามทางเดิน หลี่จุ่นไม่รู้ว่าตนเดินไปถึงไหนแล้วเพราะทัศนวิสัยของทางเดินถูกบดบัง จากนั้นลูกจ้างคนนั้นก็หยุดเดินตรงหน้าประตูห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง แล้วหันหน้ามามองเขาแวบหนึ่ง

“คุณชาย ถึงแล้วขอรับ” ลูกจ้างพูด

หลี่จุ่นพยักหน้า

ลูกจ้างคนนั้นจึงเริ่มเคาะประตูห้อง แล้วอ้าปากพูดว่า “แม่นางทั้งสอง ข้าน้อยพาคุณชายผู้นั้นมาแล้วขอรับ”

“เข้ามา”

มีเสียงที่ค่อนข้างเย็นชาดังขึ้นจากข้างใน

เมื่อได้ยินเสียงนั้นหลี่จุ่นก็ขมวดคิ้วทันที เพราะเสียงนั้นฟังดูคุ้นหูมากราวกับว่าตนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี้ย

ลูกจ้างเปิดประตูห้องออกเบาๆ จากนั้นเชิญให้หลี่จุ่นเข้าไป

หลี่จุ่นขยับคอเสื้อ เมื่อตระหนักได้ว่าตนไม่มีอะไรไม่เหมาะสมจึงเดินเข้าไปอย่างมั่นใจ

ไม่ว่าผู้หญิงคนใดก็ตามในโลกนี้ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างหาที่เปรียบมิได้ของตนในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ไม่คู่ควรเลย ยกเว้นหญิงงามหยดย้อยคนนั้น

รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไม่มีอยู่ในโลก ถ้าเทพธิดามีจริง รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวผู้งามหยดย้อยคนนั้นก็ควรเป็นของเทพธิดา

ผู้หญิงคนนั้นสวยงามราวกับเทพธิดาเหมือนดังที่ลูกจ้างกล่าวมาทั้งหมดเมื่อครู่

หลี่จุ่นไม่ออกความเห็น

หลี่จุ่นเดินเข้าไป พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นร่างอันสวยงามในชุดสีครามและร่างนี้คุ้นตามาก จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าอันละเอียดลออที่เย็นชาและคุ้นเคย

รวมทั้งดาบเล่มนั้นในมือของนาง

หลี่จุ่นหน้าเปลี่ยนสีทันที ถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วถามด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “แม่นาง เจ้าจะทำอันใด ครั้งนี้ข้าไม่ได้ทำอันใดเลยนะ”

หลี่จุ่นตกตะลึง

หญิงสาวในชุดสีครามที่อยู่ตรงหน้านี้ แท้จริงแล้วนางก็คือคนที่พร้อมจะชักดาบออกมาทำร้ายคนได้ทุกเมื่อที่อยู่ข้างกายหญิงงามหยดย้อยคนนั้น

นี่มันเรื่องอะไรกัน

หมายความว่าพวกนางเชิญตนมาเหรอ

หลี่จุ่นตกตะลึง แต่หญิงสาวชุดสีครามประหลาดใจยิ่งกว่า

นางคาดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของหลี่จุ่นเมื่อเห็นตนจะตกใจมากปานนี้ จึงเกิดความรู้สึกโกรธเพราะความประหลาดใจ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าหญิงงามหยดย้อยผู้นั้นหรือหญิงสาวชุดสีครามที่หน้าบึ้งตึงต่างก็ไม่มีใครตั้งใจสังเกต

หญิงสาวกระโปรงดำนั่งลงพร้อมกับยิ้มจางๆ รอยยิ้มนั้นสวยงามหยาดเยิ้ม นางโค้งคำนับให้หลี่จุ่นเล็กน้อย จากนั้นหยิบแก้วชาเบาๆ แล้วรินชาให้หลี่จุ่นด้วยท่าทางอันสง่างามอย่างไร้ที่ติ ชวนทำให้ผู้คนชื่นตาชื่นใจ

นางกล่าวเสียงเบาและอ่อนโยนว่า

“ข้าน้อยนามเจียงเยว่ฉาน ขอเชิญคุณชายดื่มชาเจ้าค่ะ”

หลี่จุ่นพลั้งปากทันทีว่า “ข้าน้อยนามว่าจูเก๋อเลี่ยง”

นับตั้งแต่ที่ได้พบผู้หญิงคนนี้ครั้งแรก หลี่จุ่นก็ได้คิดชื่อปลอมของเขาไว้ในใจแล้ว แม้แต่ประวัติครอบครัวปลอมของเขา รวมถึงคนในครอบครัวทั้งหมดของเขาที่ตายไปแล้วเพราะเขา

เจียงเยว่ฉานอ้าปากค้าง ริมฝีปากงดงามราวกับต้องมนต์สะกด ดูเหมือนจะประหลาดใจชั่วครู่ แต่ก็รีบเก็บอาการอย่างรวดเร็วและพูดว่า

“คราวก่อนได้พบคุณชายโดยบังเอิญ ข้าน้อยค่อนข้างหยาบคาย ขอคุณชายโปรดอย่าถือสา”

หลี่จุ่นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ ข้าลืมเรื่องนั้นไปนานโขแล้ว แม่นางเย่ว์ฉานไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ”

ลืมไปแล้ว แต่เจ้ากลับสามารถรู้ได้ทันทีว่าคุณหนูของข้าพูดถึงเรื่องไหน

ทันใดนั้น หญิงสาวชุดสีครามที่อยู่ข้างๆ ก็จ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจ

หลี่จุ่นกลืนน้ำลายพร้อมกับชำเลืองมองหญิงสาวชุดสีครามด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย จากนั้นพูดกับเจียงเยว่ฉานว่า

“ไม่ทราบว่าแม่นางเย่ว์ฉานเรียกข้ามาด้วยเหตุอันใด...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน