แน่นอนว่าฟางต้าจงเล่าจนคอแห้งจะเป็นผุยผงแล้ว หนึ่งวันเล่าแปดรอบเหนื่อยเจียนตาย โชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานสับเปลี่ยน สองคนรวมกันเล่าไปแล้วสิบเจ็ดรอบ น่าเหลือเชื่อโดยแท้
ฟางต้าจงดื่มน้ำชาร้อนประโลมเส้นเสียงบ่อย ๆ จึงจะรู้สึกดีขึ้น
“เหล่าหลิ่ว กลับแล้วนะ คืนนี้ คอข้า ต้องทรมานแล้ว”
จบหนึ่งวัน ทั้งสองนั่งพักอยู่ด้านหลัง ดื่มน้ำชาหลายกา ลำคอจึงรู้สึกดีขึ้น
เพื่อนร่วมงานแซ่หลิ่วไม่พูดแล้ว แค่พยักหน้า
ฟางต้าจงจึงลุกขึ้นเก็บของ เตรียมตัวจะกลับ
ทว่า...
จู่ ๆ แม่เล้าก็เดินโยกย้ายส่ายสะโพกมาพร้อมกับใบหน้าเครื่องประทินโฉมหนาเตอะ วิ่งมาแบบร้อนรน สีหน้าตื่นตระหนก พอเห็นทั้งสองแล้วจึงรีบพูดขึ้นว่า
“ไอ้หยา พวกเจ้า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว พวกเจ้ารีบเก็บของเถอะ มีแขกใหญ่เชิญพวกเจ้าไปเล่าเรื่อง!”
“อะไรนะ!”
ทั้งสองคนอึ้ง ขยาดเดี๋ยวนั้น
ฟางต้าจงรีบพูดด้วยความลำบากใจ “มามา เราสองคนเสียงแหบกันหมดแล้ว จะเล่าอย่างไรได้อีก ท่านปัดไปเถอะ”
แม่เล้าพูด “ไอ้หยา ถ้าปัดได้ขาก็ปัดไปนานแล้ว ข้าก็รู้ว่าพวกเจ้าเหนื่อย แต่แขกใหญ่ท่านนี้คือตระกูลหลี่เชียวนะ ล่วงเกินไม่ได้...”
ว่าแล้วแม่เล้าก็ตบหน้าอกอวบอั๋น สีหน้าซีดเผือด พูดแบบจะร้องไห้ “พวกเจ้าก็ช่วยชีวิตด้วยเถอะ ข้าน่ะ เดือนนี้จะให้พวกเจ้ามากหน่อย ช่วยกันหน่อยนะ”
ตระกูลหลี่หรือ
ราชนิกุล!
พวกฟางต้าจงสองคนหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน ในใจตื่นตระหนก
จะล่วงเกินไม่ได้เชียวนะ
ทั้งสองก็รู้จักประโยชน์ส่วนรวมเหมือนกัน รีบพูดว่า “เช่นนั้นก็รีบไปเถอะ!”
แม่เล้ารีบพาทั้งสองออกจากหอ เพิ่งถึงถนนข้างนอกก็มีองครักษ์สวมชุดเกราะ สวมหมวกเกราะทอง ห้อยกระบี่ตรงเอวรออยู่ข้างรถม้าแล้ว
ผู้ที่อยู่ด้านหน้าคือแม่ทัพเคราผสานจอนผม หน้าตาดุดัน เมื่อเห็นแม่เล้าพาพวกฟางต้าจงสองคนออกมาก็พูดขึ้นทันที
“รบกวนพวกท่านแล้ว เชิญ!”
พูดพลางเลิกผ้าม่านรถม้า ให้พวกเขาเข้าไป
พวกฟางต้าจงสองคนรู้จักมองสถานการณ์ประมาณหนึ่ง ไม่กล้าร่ำไร
เป็นคนของราชนิกุลดังคาด รถไม้ล้วนประกอบขึ้น!
ทั้งสองถูกพาตัวไปแบบหวาด ๆ กระวนกระวายตลอดทาง ไม่รู้ว่ารถม้าหยุดลงเมื่อใด
แม่ทัพหนวดผสานจอนผมเลิกผ้าม่านและกล่าวว่า “ท่านทั้งสอง ถึงแล้ว เชิญลงรถม้าเถอะ!”
ทั้งสองลงมาแบบกริ่งเกรงทันที เงยหน้ามองป้ายเหนือประตูที่เขียนเด่นชัดว่า
“จวนเหยียนอ๋อง!”
จวนเหยียนอ๋องไหนเนี่ย
ก็ต้องเป็นจวนเหยียนอ๋องใหม่นั้น!
เหยียนอ๋องแซ่หลี่ ไม่ใช่เหยียนอ๋องแซ่จ้าว!
องค์ชายสี่ลุกขึ้นยืน ประสานมือกับบรรดาพี่น้องตัวเอง
“พี่สี่ ดีไปเลย!” องค์ชายเจ็ดหลี่จิ้น หรือก็คือรุ่นอ๋องวัยเยาว์ร้องว่าดีทันที
องค์ชายห้าหลี่จงหรือหมิงอ๋องในรัชกาลปัจจุบันหัวเราะเย็นชืดเล็กน้อย แต่ก็พูดเหมือนกันว่า
“พี่สี่มีใจแล้ว”
องค์ชายสามไม่พูด เพียงแต่ขมวดคิ้ว
น้องสี่จงใจเรียกพวกเราพี่น้องมา นี่ต้องมีเลศนัยแน่
เจ้านี่คิดจะทำอะไรกันแน่นะ
รัชทายาทมององค์ชายสี่ ขมวดคิ้วมุ่น หรือว่าน้องสี่รู้เรื่องที่เขาไปฟังเรื่องเล่าที่หอชุนฮวาแล้ว
คราวก่อนไปฟังเรื่องเล่าที่หอชุนฮวาถูกเสด็จพ่อจับได้ โดนเสด็จพ่อตำหนิไม่น้อย เพียงแต่คราวนี้เขาไม่ได้ไป
น้องสี่มีจุดประสงค์อะไร
“ท่านทั้งสอง เชิญ!”
องค์ชายสี่ยิ้ม พวกฟางต้าจงสองคนที่อยู่บนเวทีพยักหน้า
“ขอรับ!”
ทั้งสองไม่กล้าชักช้า หลังจากหารือกันนิดหน่อย ฟางต้าจงก็เริ่มก่อน
การเล่าเรื่องคืนนี้เกรงว่าพวกเราสองคนจำได้เท่าไรก็ต้องเล่าออกมาเท่านั้นแล้ว
ตายแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...