องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 330

ณ จวนจิ่งอ๋อง

เมื่อหลี่จุ่นและเสิ่นจิงหงจูงมือกันเดินกลับมายังเรือนหลัก ก็พบว่ามีแต่คนที่นอนหมดสภาพกันเป็นแถวโดยไม่ต้องแปลกใจ คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่เมามายจากฤทธิ์สุรา

เมื่อเห็นทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น เสิ่นเลี่ยก็รีบก้าวเข้ามาหาทันที “ท่านอ๋อง น้องพี่ ตอนนี้พี่เริ่มเมาบ้างแล้ว คงต้องขอตัวกลับก่อน”

เสิ่นเลี่ยเริ่มทรงตัวได้ไม่ดีนัก ต้องอาศัยบริวารเป็นผู้ช่วยประคองตนไว้ การที่ยังพูดจาได้รู้เรื่องชัดเจนนั้นแสดงให้เห็นว่าสมองยังคงใช้ไม่สูญสิ้นสติสัมปชัญญะไป

“ท่านพี่ หรือท่านจะพักที่นี่ดีหรือไม่เล่า” เสิ่นจิงหงเอ่ยกับพี่ชายด้วยเป็นกังวล

หลี่จุ่นพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ใช่ ในจวนก็มีห้องอยู่ไม่น้อย วันนี้ท่านก็พักที่นี่เถิด”

ทว่า

เสิ่นเลี่ยกลับส่ายหัวด้วยรอยยิ้มแล้วรีบหันไปเร่งให้ลูกน้องพาเขากลับไป “ไม่ละ น้องพี่ ท่านอ๋อง วันนี้เป็นวันมงคลของพวกเจ้า พี่คงไม่รบกวนพวกเจ้าแล้วละ”

เสิ่นจิงหงหน้าแดงขึ้นมาทันที หญิงสาวหันไปมองทางหลี่จุ่น พบว่าหลี่จุ่นเองก็เอามือคลำจมูกด้วยทำตัวไม่ถูก

เสิ่นเลี่ยจึงเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

นิสัยเช่นนี้ หลี่จุ่นชื่นชอบยิ่งนัก

เขาชอบพวกคนที่ดื่มสุราเก่ง แต่พอรู้ว่าเมาแล้วก็รีบกลับไปนอนที่บ้านทันที

นี่ต่างหากจึงจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง มิใช่พวกที่เมาแล้วก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบเป็นของตนจนเที่ยวเมาอาละวาดไปทั่ว

วันนี้แขกเหรื่อที่มาถึงต่างก็เมามายกันจนหมด จนรู้สึกว่าทางเดินตลอดทางของจวนจิ่งอ๋องนั้นไม่ราบเรียบนัก มีเหล่าขุนนางจำนวนไม่น้อยที่พอเมาก็บ่นพึมพำ แล้วค่อยถูกคนรับใช้ในจวนของตนพากลับไป

แขกเริ่มทยอยกลับกันแล้ว

จนมาถึงช่วงท้าย หวังฮูหยินและหวังเยียนหรันก็มาบอกลาเช่นกัน

ก่อนจะกลับออกไป หวังเยียนหรันหันกลับไปมองคู่บ่าวสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกัน คนทั้งคู่สมกันดั่งกิ่งทองใบหยก แววตาของนางยากที่จะอธิบายได้

แต่นางก็ถูกหวังฮูหยินลากตัวกลับออกไปในทันที

“น้องหก ข้าเห็นว่าตอนนี้ก็ได้เวลาอันควรที่จะกลับแล้ว วันหน้าค่อยมาเยี่ยมเยือนน้องหกกับน้องจิงหงใหม่” หลี่เหวินจวินเองก็เดินมาลาทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

“ได้สิพี่หญิง ไว้วันหน้าข้ากับจิงหงจะไปขอบคุณท่านถึงที่จวน” หลี่จุ่นพยักหน้า เป็นการส่งหลี่เหวินจวิน

เสิ่นจิงหงเองก็พยักหน้าเช่นกัน

หลี่เวินจวินพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงพานางกำนัลคนสนิทของตนเดินจากไป

ดวงตะวันยังไม่ทันตกดิน แขกในจวนก็พากันกลับไปจนหมดแล้ว ไม่มีใครอยู่พักที่จวนต่อ หยางจงเองก็กำลังสั่งการให้คนรับใช้ในจวนเก็บข้าวของ ยุ่งเสียจนหัวหมุน

“จิ่งอ๋องอยู่ที่ใด”

ขณะที่หลี่จุ่นกับเสิ่นจิงหงกำลังจ้องมองกันอย่างไม่รู้จักเบื่อ ด้วยความรักกำลังก่อตัวขึ้นนั้นเอง

เสียงแหลมเล็กก็ดังขึ้น เบื้องหลังมีองครักษ์ในตำหนักอีกเจ็ดถึงแปดนายอยู่ภายใต้การนำของขันที พวกเขาแบกหีบใหญ่หลายใบแล้วเดินก้าวเข้ามาในเรือน

หยางจงที่กำลังยุ่งวุ่นวายเหลือบหันมามอง ก็พบว่าเป็นขันทีคนเดียวกับที่มาประกาศพระราชโองการพระราชทานการสมรสในครั้งก่อน จึงรีบรุดเข้าไปทันที

“กงกง นี่คือ...”

ขันทีผู้นั้นหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น “เหล่าหยาง นี่คือของขวัญงานแต่งงานที่ฝ่าบาททรงพระราชทานให้แก่จิ่งอ๋อง พวกข้าคงไม่รบกวนจิ่งอ๋องแล้ว เจ้าก็เป็นผู้รับไว้แทนเถิด”

เหตุใดจู่ ๆ จึงให้ของที่ดีกับเขามากถึงขนาดนี้

นี่มันไร้เหตุผลชัด ๆ ตาแก่นั่นไม่เห็นเขาในสายตามาโดยตลอด ถึงได้ไม่เคยให้แม้แต่ที่ดินประจำตำแหน่ง แม้แต่เบี้ยหวัดก็ยังไม่ให้

เหตุใดจู่ ๆ จึงยอมให้เงินทองและของมากมายถึงเพียงนี้ได้

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วหรือ

เสิ่นจิงหงเองก็นึกประหลาดใจอยู่บ้าง

ของพระราชทานนี้นับว่าเยอะและมีค่ามากนัก นางจำได้ว่าตอนที่รองเจ้ากรมเจียงเฟิงแต่งงาน ฝ่าบาททรงพระราชทานของขวัญให้ก็จริง แต่มิได้มีทอง มีเพียงผ้าส่วนสิบผืน มิใช่ผ้าไหมเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกันแล้วนับว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว

หลี่จุ่นไม่อยู่ในสายตาของฮ่องเต้จริง ๆ หรือ

“ได้ ข้าเข้าใจแล้ว”

เมื่อหลี่จุ่นนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง เขาก็พยักหน้ารับแล้วกำชับกับหยางจง

“พรุ่งนี้นำผ้าสักหลายผืนไปที่ร้านตัดเย็บในตลาด ตัดเสื้อผ้าให้พระชายาสวมใส่สักหลายชุดเถิด”

หลี่จุ่นรู้ว่าเสิ่นจิงหงคงไม่ค่อยได้สวมใส่ชุดอย่างสตรีสักเท่าไรนัก แต่เขาก็ยังชอบตอนที่นางสวมชุดผู้หญิงอยู่ดี ฉะนั้นถึงอย่างไรก็ต้องตัดให้นางสักหลายชุด

“ขอรับท่านอ๋อง”

หยางจงเดินออกไปด้วยความสุข

เสิ่นจิงหงเกิดความเหนียมอายและประหลาดใจขึ้นเล็กน้อย ด้วยคิดไม่ถึงว่าหลี่จุ่นจะนึกถึงตัวเองได้ในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้ ใจของหญิงสาวในยามนี้ราวกับกินน้ำผึ้งเข้าไปก็มิปาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน