องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 331

การตายกะทันหันขององค์ชายเจ็ดหลี่จิ้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจราวกับสายฟ้าฟาด มิต่างจากการโยนกินลงบนทะเลสาบที่เงียบสงบ ทำให้ทั้งวังหลวงเกิดการแตกตื่น

องค์ชายเจ็ดตายได้อย่างไรกัน

สำนักหมอหลวงให้ข้อสรุปว่าเป็นการถูกพิษ

ใช่แล้ว

เป็นการถูกพิษ !

ขณะที่อาการขององค์ชายสี่เองก็มีลักษณะเดียวกัน ผลการวินิจฉัยจึงยังคงเป็นการถูกพิษ

ซ้ำยังเป็นพิษชนิดเดียวกัน

เมื่อวานนี้สองพี่น้องกลับมาจากจวนจิ่งอ๋องแล้วก็เกิดอาการอาเจียนและท้องเสีย เล่นเอาดหวกเหวกเสียงดังอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นจวนองค์ชายสี่หรือตำหนักอิ้งเหนียนต่างก็รีบไปเชิญหมอหลวงมารักษาทันที

แต่องค์ชายเจ็ดที่ยังคงเยาว์วัย ผ่านไปได้เพียงคืนเดียวก็ไม่อาจฝืนทนต่อไปได้อีก ส่วนองค์ชายสี่นั้นได้ยินว่านอนซมอยู่กับเตียง ไร้เรี่ยวแรงจนไม่อาจลงจากเตียงได้

เมื่อหลี่เจิ้งได้รู้ย่อมต้องโกรธเสียยิ่งกว่าอะไรดี

ทหารรักษาพระองค์หนึ่งพันนายถูกโยกย้าย โดยมีเย่หงเป็นผู้นำทัพ มุ่งหน้าไปยังจวนจิ่งอ๋อง

เมื่อจี้จงชิง เสิ่นคั่วและอวี่เหวินจิ้งพากันออกจากตำหนักเหนียนอิ้งแล้ว เห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืด ต่างก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังฝันไป

“เสิ่นไท่ฟู่ ท่านไม่อยากทำลายวันแต่งงานของลูกสาวท่าน แต่ก็คงนึกไม่ถึงละสิว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้”

สีหน้าของจี้จงชิงดูเย้ยหยันอยู่ไม่น้อย มองดูฟากฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็หัวเราะขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ ถึงอย่างไรก็ต้องจัดการจวนจิ่งอ๋องนี้อยู่ดี เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเราก็เท่านั้น”

เสิ่นคั่วสีหน้าไม่สู้ดีนัก แววตายากที่จะคาดเดาได้

อวี่เหวินจิ้งที่อยู่ข้าง ๆ นั้นไม่พูดไม่จา สองมือประสานกันอยู่ใต้ชายเสื้อ แววตาอันขุ่มหมองนั้นไร้ซึ่งความมีชีวิตชีวา

เขามองขุนนางชั้นสูงอีกสองคนแล้วก็ได้แต่เอ่ยปากขึ้นมา

“ทั้งสองท่านคิดหาวิธีเอาเถิด ตอนนี้ฝ่าบาทยังทรงกริ้ว หากสืบแล้วพบว่าเป็นฝีมือของจวนจิ่งอ๋องจริง เช่นนั้นสิ่งที่พวกเราพยายามกันมาตลอดหลายปีนี้ก็สูญเปล่า”

จี้จงชิงกัดฟันกรอด มิเอ่ยอันใด หากแต่นิ่งคิดขึ้นมาทันที

ฝ่ายเสิ่นคั่วกลับเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ “ต่อให้จิ่งอ๋องเป็นคนวางยาฆ่าพี่น้องของตัวเองแล้วจะเป็นอย่างไรเล่า ฝ่าบาทของเราคนนี้เลือกเขาไว้นานแล้ว ไม่มีทางให้ถอยหลังกลับได้อีก ข้าว่านะ พวกเราก็ไม่ต้องคิดแล้วละ รอดูสถานการณ์เอาเถิด”

จงจี้ชงและอวี่เหวินจิ้งหันกลับไปมองเสิ่นคั่วพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างก็ขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ

จี้จงชิงเอ่ยถามขึ้นทันที “เสิ่นคั่ว ท่านบอกพวกเรามาตามตรงเถอะ คนพวกนั้นที่นอกเมืองมาจากไหนกันแน่ ใครกันที่กำลังฉวยโอกาสลงมือ”

เสิ่นคั่วส่ายหัวปฏิเสธ “อัครมหาเสนาบดีจี้ประเมินฝีมือข้าสูงเกินไปแล้ว หน่วยข่าวลับของข้าก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกสิ่ง มือสังหารพวกนั้นมาปักหลักซุ่มโจมตีอยู่ภายในเขตผู้ลี้ภัยที่นอกเมืองตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว หากคิดจะสืบหาละก็ เหอะ ๆ ท่านคิดว่าง่ายนักหรือ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของจี้จงชิงและอวี่เหวินจิ้งก็ดูไม่ค่อยดีนัก

“อวี่เหวินจิ้งเอ่ยด้วยเสียงขรึม ”อีกฝ่ายเพิ่งปรากฏตัวเมื่อคืนนี้ ขณะที่จวนจิ่งอ๋องจัดงานวิวาห์ในวันนี้ สองเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน !”

จี้จงชิงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสูงทันที “เสิ่นคั่ว ท่านอย่าลืมเชียวล่ะ ว่าองค์ชายหกเป็นเขยของท่าน หากว่าทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันจริง ท่านจะทนมองดูเขาตายได้เชียวหรือ แล้วถ้าท่านจะยอมดูเขาตาย แล้วลูกสาวท่านจะยอมหรือ”

น้องเล็กสนิทสนมกับเขายิ่งนัก เขารักน้องชายคนนี้ของเขาเสียยิ่งกว่าอะไร

เสียงดังสนั่นดุจสายฟ้าฟาด

องค์ชายรัชทายาทคำรามขึ้นมาเสียงดังลั่นโดยฉับพลัน กวาดข้าวของเครื่องใช้ในตำหนักร่วงหล่นจนหมดสิ้น ร้องตะโกนด้วยความแค้นเคืองอย่างสุดแรงอยู่ชั่วครู่ สีหน้าของชายหนุ่มดูดุร้ายยิ่งนัก เขาเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา

“ในฐานะที่ข้าเป็นรัชทายาท ข้ามีหน้าที่ต้องล้างแค้นแทนน้องชายข้า หัวหน้าขันทีหลอน เรียกทหารองครักษ์ของข้าทุกคนให้มารวมตัวกัน ออกเดินทางไปพร้อมกับผู้บัญชาการเย่เพื่อจับตัวและฆ่าฆาตกรผู้ที่สังหารน้องชายข้า !”

หลินกงกงยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงรีบเอ่ยขึ้นด้วยเสียงตะกุกตะกัก “ขอรับ ขอรับ... องค์ชาย !”

จับฆาตกรหรือ ?

องค์ชายรัชทายาทจะลงมือด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ ?

แล้วฆาตกรที่องค์ชายพูดถึงนี่หมายถึงจิ่งอ๋องใช่หรือไม่ ?

องค์ชายรัชทายาทตวัดมือขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าตึงเครียด พลางสั่งการด้วยเสียงอันดัง “สวมเกราะให้ข้าเดี๋ยวนี้ ข้า... จะไปเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของคนผู้นี้เอง !

หึ

พวกก่อการกบฏ ต้องสังหารให้สิ้นซาก

เขาเป็นถึงรัชทายาท เขามีสิทธิ์และความรับผิดชอบที่จะต้องลงมือทำการนี้ !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน