องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 332

ค่ำคืนแห่งรัตติกาลมาเยือน

ความครึกครื้นในจวนจิ่งอ๋องนั้นหายไปจนหมดสิ้นแล้ว บัดนี้จึงสัมผัสได้ถึงความเงียบเหงา ตอนนี้เองที่หลี่จุ่นเพิ่งนึกถึงโหลวฮวนฮวนขึ้นมาได้ เขาจึงรีบรุดไปหาหญิงสาว ทว่า ห้องของนางนั้นกลับเหลือเพียงความว่างเปล่า

“หายไปไหนของเขาน่ะ” หลี่จุ่นเอ่ยพลางขมวดคิ้ว

หากว่ากันตามเหตุผล ในเมื่อผู้หญิงคนนี้รับปากกับตนเองแล้วว่าจะไม่ไป ก็ไม่ควรจะหายตัวไปโดยไม่ร่ำลาเช่นนี้ถึงจะถูก

หรือเพราะเขาทิ้งนางไว้ให้เดียวดาย นางจึงโกรธและหนีไปกันแน่

มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว

หลี่จุ่นส่ายหน้า

พวกนางยังขอร้องตนเอง ฉะนั้นจึงไม่น่าจะออกไปเช่นนี้ หรือต่อให้ไปก็น่าจะกลับมาหาตน ถึงตอนนั้นค่อยออดอ้อนเสียหน่อยก็ได้แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนี้หลี่จุ่นก็วางใจได้ลง แล้วจึงรีบกลับไปหาเสิ่นจิงหงทันที

ถึงแม้ว่าก่อนนี้ทั้งสองคนจะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อแต่งงานกันแล้ว หลี่จุ่นกลับรู้สึกว่าผูกพันกับเสิ่นจิ่งหงได้มากอย่างประหลาด

ด้วยเหตุนี้เอง คนทั้งสองจึงสนิทสนมกันรวมดเร็วได้ในเวลาเพียงไม่ถึงวัน

ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งคู่ยังได้จุมพิตกันแล้ว ตอนนี้ควรจะต้องรีบตีเหล็กในตอนที่ยังร้อน หากว่าผ่านไปได้ด้วยดี ไม่แน่ว่าครั้งแรกของตนเองก็อาจจะเกิดขึ้นและทำสำเร็จได้ในคืนนี้

เมื่อคิดถึงเรียวขาทั้งสองคนของเสิ่นจิงหงแล้ว หลี่จุ่นก็รู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาทันที

หลี่ตจุ่นเดินไปที่ตำหนักหลักด้วยท่าทีสบายใจ

ทว่า

หยางจงกลับรีบวิ่งมาอย่างร้อนรนแล้วเอ่ยตะโกนด้วยเสียงอันดัง

“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ !”

“เกิดอะไรขึ้น” หลี่จุ่นถามออกไปด้วยความงงงันพลางรีบช่วยประคองผู้อาวุโสที่ลนลานจนพูดไม่เป็นภาษา “พ่อบ้าน เกิดเรื่องอันใดขึ้น เจ้าค่อย ๆ พูดเถิด”

“ท่านอ๋อง เย่หงนำทหารรักษาพระองค์มาล้อมจวนอ๋องเอาไว้ บอก... บอกว่าท่านอ๋อง... ท่านอ๋องวางยาพิษสังหารองค์ชายเจ็ด...” สีหน้าหยางจงในตอนนี้นั้นดูไม่น่ามองเอาเสียเลย ราวกับว่าโลกกำลังจะแตกก็มิปาน

เพียงได้ยิน หลี่จุ่นก็ตะลึงงันไปในทันที คล้ายกับว่าเกิดสายฟ้าฟาดในวันฟ้าใส ชายหนุ่มเอ่ยถามทั้งที่ตัวสั่นไปทั้งตัว

“พ่อบ้าน เจ้าว่าอะไรนะ น้องเจ็ดเป็นอะไรไป วางยาพิษสังหารอะไรกัน ข้าน่ะหรือวางยาพิษสังหารน้องเจ็ด ?”

“ท่านอ๋อง เมื่อวานหลังจากที่องค์ชายสี่และองค์ชายเจ็ดกลับออกไปจากจวนก็ถูกพิษเสียแล้ว วันนี้เมื่อยามอู่... องค์ชายเจ็ดตาย... ตายแล้วขอรับ...”

หยางจงหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อเอ่ยจบ

“ถูกพิษหรือ ?”

หลี่จุ่นแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยิน หวนคิดไปถึงเมื่อวัยเด็กที่หลี่จิ้นยังคงไร้เดียงสาเดินเข้ามา เมื่อตอนบ่ายเขายังนึกผิดหวังว่าเหตุใดหลี่จิ้นจึงไม่มาร่วมพิธีวิวาห์ของตนเอง คิดไม่ถึงว่าที่แท้เขา...

หลี่จุ่นรู้สึกปวดใจขึ้นมาในทันที แม้ว่าตนเองจะไม่สนิทสนมกับน้องชายคนนี้สักเท่าไรนัก แต่วันหน้าย่อมสนิทกันได้ และถึงอย่างไรก็เป็นพี่น้องของตนเอง

เหตุใดจึงจากไปเช่นนี้กันเล่า

อีกทั้ง... เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน

เย่หงมองดูรองแม่ทัพในสังกัดของตนแล้วจึงจ้องมองไปยังหลี่จุ่น

“จิ่งอ๋อง ท่านอย่าทำให้ข้าต้องลำบากใจเลย ไม่ว่าองค์ชายเจ็ดจะถูกพิษจากจวนของท่านหรือไม่ ข้าคงต้องขอเชิญท่านไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท ทุกอย่างล้วนมีบทสรุปได้เป็นแน่ เชิญเถิดท่านอ๋อง !”

เสิ่นจิงหงเปลี่ยนสีหน้าในทันทีแล้วเอ่ยขึ้น “ผู้บัญชาการ ข้าน้อยสามารถเป็นพยานได้ว่าองค์ชายสี่กับองค์ชายเจ็ดมิได้ถูกิษจากจวนแห่งนี้แน่นอน !”ฃ

ทว่า

เย่หงกลับส่ายหัวแล้วตอบนาง “ข้ารับคำสั่งจากฝ่าบาทให้พาตัวจิ่งอ๋องและคนในจวนของจิ่งอ๋องกลับไปสืบสวน จิ่งหง เจ้าถอยไปเถิด ช้าไม่อยากทำให้เจ้าต้องวางตัวลำบาก”

“แต่ว่าท่านผู้บัญชาการ...”

สีหน้าของเสิ่นจิงหงไม่สู้ดีนัก ครั้นเมื่อคิดจะพูดอะไรขึ้นอีกครั้งกฌถูกหลี่จุ่นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รั้งตัวไว้

หลี่จุ่นก้าวออกไปด้านหน้าด้วยท่าทีเคร่งขรึมแล้วเอ่ยขึ้น

“ผู้บัญชาการเย่ ข้าเข้าใจได้ว่าท่านได้รับคำสั่งจากเสด็จพ่อมา ข้าจะไปกับท่านก็ได้ แต่ขออย่าได้ทำให้คนในจวนของข้าต้องเดือดร้อนไปด้วย พวกเขาเป็นเพียงคนรับใช้ ไม่รู้เรื่องอันใดทั้งนั้น”

คนในจวนส่วนใหญ่นั้นเป็นคนของสมาคมเทียนตี้ หากว่าไปที่วังหลวง ไม่แน่ว่าอาจต้องเข้าคุกหลวงก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นต่อให้คิดอยากจะออกมาก็คงออกมาไม่ได้เสียแล้ว

“ท่านอ๋อง...” หยางจงในตอนนี้ร้องไห้คร่ำครวญจนน้ำตานองหน้า

เย่หงขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อย มองดูเหล่าคนรับใช้และองครักษ์ที่ถูกควบคุมตัวภายในจวนอ๋องเหล่านั้น นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วจุงค่อยพยักหน้าช้า ๆ

“ได้ เชิญท่านอ๋องเถิด !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน