องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 379

แม่นางเมี่ยวอวี้รีบพยักหน้า พลันอารมณ์ดีขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“เจ้าอ้วน ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ห้องสินนี่สนุกยิ่งนัก เป็นเรื่องของช่วงแรกในการก่อตั้งราชวงศ์อู่ พวกพี่สาวที่หอชุนฮวาหลายคนชอบหนังสือนิยายเล่มนี้มากๆ เจ้ารู้จักไซอิ๋วใช่หรือไม่ ไซอิ๋วที่หลู่ซู่เหรินเป็นคนเขียนน่ะ!”

หลิวซานพลันยิ่งหัวเราะอย่างเริงร่ามากขึ้น ก่อนจะเอ่ยว่า “ฮ่าๆ ข้าย่อมชอบอยู่แล้ว และข้าอ่านเล่มต่อของห้องสินจบแล้วด้วย!”

เมื่อได้ยินว่าเจ้าอ้วนเริ่มคุยโม้แล้ว แม่นางเมี่ยวอวี้ก็รีบกลอกตาขึ้นมาในทันใด ย่อมไม่มีทางเชื่ออยู่แล้ว

หลิวซานไม่พูดไร้สาระ เขาหยิบต้นฉบับเล่มต่อของห้องสินออกมาจากในห่อผ้าที่นำติดตัวมาเลย นี่เขาจะถือโอกาสไปจวนอัครมหาเสนาบดีหวังด้วย นำไปให้หวังเยียนหรัน

แต่ว่า พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย

“แสนดีเมี่ยวอวี้ เจ้าดูสินี่อะไร?” ใบหน้าของเจ้าอ้วนเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา วางต้นฉบับในมือลงบนโต๊ะ

“อะไร?”

ใบหน้าของเมี่ยวอวี้สงสัยขึ้นมาในโดยพลัน รีบหยิบขึ้นมาอ่าน จากนั้นก็เห็นบนหน้าปกเขียนคำว่า ห้องสินเล่มต่อ! ตัวโตๆ

นัยน์ตาอันงดงามของเมี่ยวอวี้จ้องมอง เผยอปากเล็กสีแดงอย่างผลอิงเถา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง รีบเปิดไปเปิดมา หลังผ่านไปครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงว่า

“นี่เอามาจากไหน? เจ้า ทำไมเจ้าถึงมีเล่มต่อได้? ช่วงก่อนเพิ่งออกเล่มแรกมา ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเล่มที่สองจะออกมาเมื่อไร!”

หลิวซานยิ้มด้วยใบหน้าที่พอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “แน่นอนว่าย่อมต้องได้มาจากหลู่ซู่เหรินอยู่แล้ว”

“เป็นไปไม่ได้” เมี่ยวอวี้ไม่กล้าเชื่อ “เจ้าจะรู้จักหลู่ซู่เหรินได้อย่างไร?!”

หลู่ซู่เหรินเป็นใคร นี่เป็นปัญหาที่นักอ่านมากมายให้ความสนใจ แต่ว่าไม่เคยมีใครรู้ ตัวตนของหลู่ซู่เหรินเป็นปริศนา!

นอกจากยอดหญิงหวังเยียนหรันแล้ว เดิมทีไม่มีใครรู้

ทว่าตอนนี้ ไม่นึกเลยว่าหลิวซานจะหยิบต้นฉบับเล่มต่อของห้องสินมา จะไม่ให้แม่นางเมี่ยวอวี้ไม่รู้สึกตกตะลึงได้อย่างไร?

หลิวซานหัวเราะฮ่าๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “แสนดีเมี่ยวอวี้ของข้า เจ้าเอ่ยคำที่น่ารื่นหูก่อนสิ แล้วข้าจะบอกเจ้า! ฮ่าๆ!”

เมี่ยวอวี้รีบมองเขาด้วยความโกรธ แต่ความสงสัยในใจทำให้นางยอมจำนน นางกัดฟันเงิน แล้วรีบเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อน

“พี่ชายที่แสนดีของข้า ท่านบอกข้าน้อยหน่อยนะจ้าคะ”

น้ำเสียงนุ่มนิ่ม บิดามันเถอะ เจ้าอ้วนฟังแล้วราวกับวิญญาณจะขึ้นสวรรค์ นั่นเรียกว่าความสุขอย่างหนึ่ง

หลังเมี่ยวอวี้เรียกเสร็จ ทั้งตัวคนก็หน้าดำหน้าแดง เขินอายเป็นอย่างมาก หลิวซานรีบคว้ามือที่อ่อนนุ่มของนางเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้ารับปากข้าก่อนว่าจะไม่บอกคนอื่น!”

“วางใจเถิด ข้าจะไม่บอกคนอื่นแน่นอน!”

เมี่ยวอวี้รีบเอ่ยขึ้น

ทันใดนั้นเขาก็กอดเมี่ยวอวี้เอาไว้ในอ้อมอก เอ่ยขึ้นอย่างสนิทสนมบนไหล่หอมๆ ของนาง “วันนี้เจ้าสวยจัง พรุ่งนี้ข้าจะไปส่งให้ยอดหญิงหวังแล้ว แต่ต้องรับรองก่อนว่า จะไม่บอกใครทั้งนั้น”

“ได้!” เมี่ยวอวี้มองต้นฉบับที่อยู่ในมือ ก่อนจะอ่านอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้ว

ช่วงเวลาที่คลอเคลียกับเมี่ยวอวี้ เจ้าอ้วนเอ่ยขึ้นว่า “แสนดีเมี่ยวอวี้ ข้าจะไปเดินเล่นที่หอเล่าเรื่องนะ”

“ไปเถอะๆ!”

เมี่ยวอวี้รีบโบกไม้โบกมือ ตอนนี้จมดิ่งลงไปในนิทานอันแสนสนุกสนาน ไม่มีเวลาว่างไปสนใจเขา

หลิวซานหัวเราะอย่างพอใจ รีบจัดการเสื้อผ้าอาภรณ์ ออกไปจากห้องแล้วเดินไปยังหอเล่าเรื่องที่อยู่ข้างๆ

หลี่จุ่นมอบหมายภารกิจให้เขาหนึ่งอย่าง

เขาต้องทำให้แล้วเสร็จก่อน

หลิวซานมายังหอเล่าเรื่อง คนที่มาฟังเรื่องเล่าข้างในย่อมมีมากมายก่ายกอง เขาเบียดเข้าไปอย่างยากลำบาก มองปราดเดียวก็เห็นนักเล่าเรื่องแซ่หลิวผู้นั้นกำลังเล่าเรื่องอยู่ เขาแอบไถลตัวเข้าไปยังโถงด้านหลัง

ฟางต้าจงเล่าอยู่สองสามรอบ ก็เกิดปากแห้ง ในตอนนี้จึงให้เพื่อนร่วมงานมาแทนที่ ขณะกำลังดื่มชาอึกๆ ทันใดนั้นด้านหน้าก็ปรากฏเงาร่างที่ดูกำยำขึ้นสายหนึ่ง

ฟางต้าจงอยู่ดีๆ ก็ถูกทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างมาก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน