เมืองเฟิงหั่ว
ประตูเมือง
ภายใต้การนำทัพของจงจื่อหนิง เขารีบเปลี่ยนเส้นทางทันที และมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารชายแดนทางตอนเหนือซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก หลี่จุ่นพร้อมพรรคพวกลงจากรถม้า
เพราะมีคนรอต้อนรับอยู่ที่ประตูมานานแล้ว
“คาราวะ ท่านอัครมหาเสนาบดี!”
พวกเขาเป็นชายสามคน สองคนมีใบหน้าดุร้าย หนวดเคราหยิกเต็มหน้า รูปร่างสูงใหญ่ดูน่าเกรงขาม เมื่อมองแวบแรก พวกเขาดูเหมือนพวกนายพลอันธพาลในราชสำนัก
ทว่าก็ยังมีจิตวิญญาณของนายพลผู้กล้าหาญ สายตาเฉียบคมมาก!
ส่วนคนที่สาม มีใบหน้าอันขาวใสยากที่จะได้เห็น ดูเกลี้ยงเกลาสดชื่นระรื่นตา แถมยังสวมชุดสีขาวเรียบ ๆ ด้วย
มีรอยยิ้มอ่อน ๆ ปรากฏที่ริมฝีปาก
ดูคล้าย ๆ กับพวกคุณชาย
ทั้งสามคนนี้แน่นอนว่าเป็นคนสนิทของเจิ้นเป่ยอ๋องที่ทิ้งเอาไว้ ชายชาตรีท่าทีดุร้ายทั้งสองนี้เป็นรองแม่ทัพ หลิวเซิ่ง กับจางฟ่าง!
ส่วนชายหนุ่มในชุดขาว เขาคือหลินชิง ลูกฉีหลินครอบครัวนักกวีกรมกลาโหม!
ชายผู้นี้เป็นคนฉลาด เขาศึกษาพิชัยสงครามมาตั้งแต่เด็กและเชี่ยวชาญด้านการจัดกองทหาร ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าไปเป็นผู้เรียบเรียงตำราพิชัยสงครามที่สำนักราชบัณฑิต ต่อมาเจิ้นเป่ยอ๋องก็ชอบใจเขาเข้าให้ เลยถูกย้ายไปยังเมืองเฟิงหั่วโดยตรงในฐานะผู้ช่วยของเขา เพื่อช่วยจัดการภารกิจที่สำคัญต่าง ๆ ทางทหาร
สรุปง่าย ๆ สองคำ เขาเป็นกุนซือ!
อายุยังน้อยแต่กลับมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
“ลำบากทั้งสามท่านแล้ว!” จี้จงชิงยิ้มพลางก้มหัวเล็กน้อย
“ไม่ลำบากเลย นี่เป็นสิ่งที่พวกข้าน้อยทั้งสามควรทำ! เมื่อแม่ทัพไปจากชายแดนให้พวกเราทั้งสามอยู่ในความดูแลของท่านอัครมหาเสนาบดี พวกเรารอการมาถึงของท่านอัครมหาเสนาบดีอยู่ตลอด!!”
จางฟ่างรองแม่ทัพเจิ้นเป่ยอ๋องที่หน้าตาดุร้ายทำหน้าที่เป็นผู้พูด แม้ว่าเขาจะมีท่าทีดุร้าย แต่ทว่าคำพูดของเขาก็ตรงไปตรงมาอย่างมีไหวพริบ
จี้จงชิงยิ้มและพูดว่า “มิกล้า ข้าไม่มีความรู้เรื่องการทำสงครามของทหาร มิกล้าละลาบละล้วง การเดินทางไปทางเหนือครั้งนี้เป็นเพียงการคุ้มกันเสบียงทหารเท่านั้น สำหรับการต่อต้านชายแดนต้องพึ่งพาพวกเจ้าทั้งสามคน!”
ทั้งสามคนมองหน้ากันทันที
จางฟ่างยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีเดินทางมาคงรู้สึกเหนื่อย เราได้เตรียมสุราอาหารชั้นดีไว้ให้ในเมืองแล้ว เชิญท่านอัครมหาเสนาบดีไปพักผ่อนก่อนเถิด"
สามคนนี้ล้วนเป็นคนมีไหวพริบ
หลี่จุ่นที่อยู่ข้างหลังแอบคิดทันที
“ไม่รีบ”
จี้จงชิงส่ายหน้าแล้วมองไปยังหลี่จุ่นและอาหยวนที่อยู่ข้างหลังเขาแล้วพูดว่า “นี่คือท่านอ๋องจิ่งคราวนี้เขามีความผิดติดตัวจึงถูกเนรเทศมาชายแดน รบกวนใต้เท้าทั้งสามช่วยจัดการให้หน่อย”
หลี่จุ่นขมวดคิ้ว
อะไรนะ
ตาแก่คนนี้ใจคอจะไม่ยอมให้เขาไปกินข้าวด้วยสักมื้อเลยหรือ
“ท่านอ๋องโปรดอย่าตำหนิข้าน้อยเลย ผู้กระทำผิดทุกคนที่ถูกส่งมาทางชายแดนทางตอนเหนือจะต้องถูกล่ามโซ่ตรวนและจะไม่ปลดจนกว่าสงครามจะเริ่มขึ้นหรือเมื่อจำเป็นต้องทำงาน ข้าน้อยล่วงเกินท่านอ๋องแล้ว” หลินชิงเอ่ยเสียงเรียบ และไม่มีคำพูดใด ๆ บกพร่องแม้แต่น้อย
หน้าที่ก็คือหน้าที่จริง ๆ!
"สมควรแล้ว ๆ"
หลี่จุ่นพูดด้วยรอยยิ้มทันที
หลินชิงสั่งทันที “พวกเจ้า พาตัวท่านอ๋องไป”
“รับทราบ!” องครักษ์พกดาบที่อยู่ข้างหลังเขาพาหลี่จุ่นไปทันที
อาหยวนโกรธจนเลือดขึ้นหน้า!
แต่ก็ไม่สามารถระบายโทสะออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเดินตามไปข้างหลังด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“กุนซือหลินประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย อายุยังน้อยก็ได้เป็นกุนซือแล้วแถมแม่ทัพยังให้ความสนใจอีก เรียกได้ว่าอนาคตสดใสเลยทีเดียว”
หลี่จุ่นชมหลินชิงด้วยรอยยิ้มทันที
หลินชิงกำลังเดินนำหน้าเอามือไพล่หลัง เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่จุ่นถึงกับผงะเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มและพูดว่า
“มิกล้า ๆ เทียบกับท่านอ๋องจิ่งมิได้ ท่านอ๋องสิถึงจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยจริง ๆ ด้วยพรสวรรค์ด้านบทกวีที่มิเคยมีมาก่อน แม้แต่ใต้เท้าเจียงของราชวงศ์อู่เราก็ยังสู้มิได้”
หลี่จุ่นยิ้มทันทีและกล่าวว่า “บังเอิญจริง พอกุนซือหลินพูดถึงพรสวรรค์ด้านบทกวีของข้าขึ้นมา ข้าก็เห็นว่าท่านนั้นช่างหล่อเหลาและสง่างามมาก ก็เลยนึกบทกวีขึ้นมาได้ทันที ให้ข้าแต่งบทกวีมอบให้ท่านสักบทเถอะนะ”
หลินชิงสะดุ้งขึ้นมาอย่างไม่สามารถเก็บอาการตกตะลึงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...