หลินชิงถามขึ้นว่า “จอมทัพ ต่อจากนี้จะต้องทำอย่างไร?”
หลายวันมานี้ หลินชิงก็ได้เข้าใจสถานการณ์ของราชวงศ์อู่ในปัจจุบันมากขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าราชวงศ์อู่กำลังตกเป็นเป้าสายตาอันเกรี้ยวกราดของหลายๆแคว้น และชายแดนทางตอนเหนือก็เป็นพื้นที่อันตรายมากที่สุด!
ฉะนั้น เขาเข้าใจดีว่าทำไมหลี่จุ่นถึงได้รีบร้อนกุมอำนาจทหาร!
ถ้าไม่รีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน เกรงว่าอาจจะรับมือไม่ไหว
จำเป็นจะต้องมีคนนำกองทัพเจิ้นเป่ย มาต่อต้านการโจมตีที่มาจากกองทัพตอนเหนือ
และหลี่จุ่นก็ทำสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจ อีกทั้งยังทำได้อย่างดีเยี่ยม
ทำให้ทุกคนพากันเชื่นชมยกย่อง
หลี่จุ่นมองดูเขาแวบหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไหนๆท่านก็อยู่ที่นี่แล้ว งั้นก็ดีเลย เดี๋ยวท่านสั่งการไปว่าวันนี้หยุดพักหนึ่งวัน คืนพรุ่งนี้จะมุ่งหน้าโจมตีไปทางตอนเหนือเมืองหลวงของแคว้นเฟิงเฉวี่ยน!”
“เช่นนี้…”
ทันใดนั้นหลินชิงก็สั่นไปทั้งตัว สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด “เช่นนี้ จอมทัพ ไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อนขนาดนี้ก็ได้!”
หลี่จุ่นส่ายหน้าและพูดว่า “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเรา ครั้งนี้สามารถโจมตีกองทัพของซือหม่าชิงอวิ๋นจนบาดเจ็บสาหัส ในระยะนี้ซือหม่าชิงอวิ๋นคงจะยังไม่คิดนำกองทัพลงใต้ แต่ถ้าฮูเถี่ยถูได้กลับขึ้นเหนือไปแล้ว ก็อาจจะไม่แน่”
ถึงเวลานั้นถ้าทั้งสองร่วมมือกัน ยังคงสามารถรวบรวมทหารได้ถึงสองแสนนาย นึกถึงตัวเลขที่น่ากลัวนี้ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
ฉะนั้น หลี่จุ่นจึงคิดจะโจมตีกองทัพแคว้นเฟิงเฉวี่ยนให้สาหัสอีกรอบ เพราะถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ถึงเวลานั้นแม้ทั้งสองแคว้นจะร่วมมือกันโจมตีลงทางใต้ ก็คงไม่ต้องแบกรับความกดดันมากจนเกินไป
เขาได้วิเคราะห์เส้นทางขึ้นเหนืออย่างละเอียด จึงสังเกตเห็นว่ามีหลายพื้นที่ที่เหมาะแก่การซุ่มตัว
ถ้าอีกฝ่ายลงมาทางใต้ ก็จะต้องเสียเปรียบครั้งใหญ่
ทางด้านฮูเถี่ยถู ถึงแม้ว่าจะสั่งการให้จี้จงชิงไปรายงานเหยียนอ๋อง เพื่อร่วมมือกับแคว้นหลางไล่โจมตีฮูเถี่ยถู แต่ก็คิดว่าผลที่ออกมาคงจะไม่สมดั่งใจ
เพราะถึงอย่างไร ด้านข้างยังมีแม่ทัพโจวชิงแห่งแคว้นฉู่ที่เฝ้ารอโอกาสในการโจมตี
“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” หลินชิงกัดฟันพยักหน้า
หลี่จุ่นพยักหน้าพูดว่า “การโจมตีแคว้งเฟิงเฉวี่ยนครั้งนี้ คงจะไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อน อีกอย่างกองทัพสามหมื่นนายที่เทือกเขาเฟิงชิงก็ได้กลับเข้าเมืองหลวงแล้ว ฉะนั้นตอนนี้แคว้นเฟิงเฉวี่ยนมีทหารอยู่ไม่ต่ำกว่าเจ็ดหมื่นนาย ต้องการทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัส คงจะทำได้ไม่ง่าย กุนซือ ศึกครั้งนี้คงจะยากลำบากไม่น้อย”
หลินชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา และพยักหน้าอย่างหนักแน่น
สองวันนี้รบชนะกันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เขาเกือบลืมไปว่าการทำสงครามสามารถทำให้เสียชีวิตได้ และไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย ใช่ว่าทุกครั้งที่ออกรบจะสามารถได้ชัยชนะอย่างเหลือเชื่อ
“เรียบร้อยแล้ว กุนซือสั่งการออกไปได้เลย จากนั้นก็ไปพักผ่อนเถอะ” หลี่จุ่นพูดขึ้น
“ขอรับ จอมทัพ!”
หลินชิงรับคำสั่งแล้วกลับไป
……
เมืองหลวงราชวงศ์อู่
หอเหวินชวีได้จัดงานชุมนุมกลอนขึ้นมาอีกครั้ง หวังเยียนหรันในฐานะยอดหญิงอันงดงามและมีชื่อเสียงที่โด่งดังที่สุดในเมืองหลวง ก็ได้ถูกรับเชิญไปร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน
นอกจากนี้แล้ว ยังมีบรรดาบุตรของเจ้าขุนมูลนายต่างๆก็ได้รับเชิญไปงานนี้ด้วย
รวมถึงผู้ที่มากด้วยพรสวรรค์และความรู้ ก็ได้รับเชิญไปร่วมงานด้วยเช่นกัน
ได้ยินว่างานชุมนุมกลอนครั้งนี้จัดขึ้นโดยขุนนางใหญ่ของราชวงศ์อู่ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบทกวีนั่นก็คือเจียงเฟิง!
เจียงเฟิงเป็นผู้เชิญ ใครล่ะจะกล้าปฏิเสธ?
หลังจากที่หวังเยียนหรันรู้สึกกลุ้มใจเสร็จแล้ว ก็ได้พาเสี่ยวจูไปร่วมงานพร้อมกัน
ระหว่างทาง เสี่ยวจูก็รู้สึกกังวลจึงถามขึ้นว่า “คุณหนู ถ้าใต้เท้าเจียงพูดถึงท่านอ๋องในทางที่ไม่ดีขึ้นมา พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
สิ่งที่สาวน้อยกังวลที่สุดก็คือเรื่องนี้
ช่วงนี้ไม่รู้ว่าใต้เท้าเจียงเป็นอะไรขึ้นมา เอาแต่พูดว่าหลี่จุ่นจะไม่สามารถแต่งกลอนดีๆขึ้นมาได้อีกแล้ว ทำให้หวังเยียนหรันถึงขั้นต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...