องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 516

เมืองหลวง

ในห้องทรงพระอักษร

เสิ่นคั่วปรากฏตัวอีกครั้ง เขานำข่าวสารจากทางเหนือมา

“อะไรนะ เจ้าเด็กนั่นโจมตีเมืองหลวงแคว้นเฟิงเฉวี่ยนอีกแล้วหรือ!”

พอหลี่เจิ้งได้ยินว่าหลี่จุ่นเตรียมจะบุกเมืองหลวงแคว้นเฟิงเฉวี่ยนก็นั่งไม่ติดทันที ลุกขึ้นยืนพรวด ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เจ้าเด็กนั่นอยู่เป็นสุขไม่ได้หรือ

เพิ่งจะผ่านมานานแค่ไหนเอง จะตีเมืองหลวงแคว้นเฟิงเฉวี่ยนอีกแล้ว!

บ้าไปแล้วหรือ!

เสิ่นคั่วพิจารณาก่อนจะเอ่ย “ฝ่าบาท ทัพใหญ่ของฮูเถี่ยถูน่าจะจวนถึงเหนือแล้ว ถึงตอนนั้นเกรงว่าแคว้นเฟิงเฉวี่ยนจะร่วมมือกับซือหม่าชิงอวิ๋นโจมตีเมืองเฟิงหั่ว จิ่งอ๋องจะต้องมองเห็นจุดนี้จึงชิงลงมือก่อน ถ้าโจมตีให้ทัพรักษาเมืองหลวงของแคว้นเฟิงเฉวี่ยนกระเจิดกระเจิงได้ ถึงตอนนั้นน่าจะบรรเทาแรงกดดันได้ไม่น้อยพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เจิ้งพยักหน้าอย่างพลันกระจ่าง

เป็นเช่นนั้นจริง!

สงครามทางเหนือเพิ่งจะเริ่มต้นเอง

โจวชิงทางซีเป่ยไม่รู้ว่าจะขึ้นเหนือด้วยหรือเปล่า ถ้าตามขึ้นเหนือด้วย เช่นนั้นทางเหนือจะต้องเผชิญกับวิกฤตอย่างที่ไม่เจอมาก่อน เหตุนี้จึงฉวยโอกาสนี้บุกโจมตีเมืองหลวงของแคว้นเฟิงเฉวี่ยน เรื่องนี้มีสาเหตุให้อภัยได้

แต่หลี่เจิ้งยังรู้สึกว่าหลี่จุ่นเหน็ดเหนื่อยเกินไป

สองสามวันนี้ เขายังไม่ทันได้สงบสติอารมณ์เลย หลี่จุ่นก็เริ่มออกศึกอีกแล้ว

หลี่เจิ้งกล่าวช้า ๆ “ข่าวที่มาจากทางเหนือ เร็วที่สุดต้องใช้เวลาหนึ่งวันกับอีกครึ่งคืน เช่นนั้นตอนนี้พวกเขากำลังโจมตีแคว้นเฟิงเฉวี่ยนอยู่หรือ”

น้ำเสียงหลี่เจิ้งเปลี่ยนเป็นกังวลเล็กน้อย

เพราะชายแดนทางเหนือมีกำลังพลอยู่แค่แสนนาย ถ้าเกิดเหตุอะไร ผลพวงยากจะคาดคิด

เสิ่นคั่วพยักหน้าตอบ “ทูลฝ่าบาท ประมาณการว่าเวลานี้น่าจะบุกเมืองอยู่พ่ะย่ะค่ะ หรือไม่ก็สิ้นสุดแล้ว...หาทราบไม่”

หลี่เจิ้งพยักหน้า “ชายแดนเหนือราชวงศ์อู่เรามีกำลังพลอยู่แค่แสนนาย ต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ล่อแหลมยิ่งนัก ต้องวางแผนให้เร็วที่สุด ไท่ฟู่ ข้าอยากโยกย้ายทหารจากชายแดนตะวันตกขึ้นเหนือสักห้าหมื่น เจ้าเห็นว่าอย่างไร”

เสิ่นคั่วตรึกตรองก่อนจะตอบ “กำลังพบหนึ่งแสนแปดหมื่นนายของเยียนอ๋องที่ชายแดนตะวันตกเราประจำอยู่ที่ด่านเป่ยเฟิงเป็นเวลานานสามหมื่น เวลานี้แคว้นหลางหลุดจากการโอบล้อมแล้ว แม้กำลังพลของแคว้นหลางจะเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วน แต่ยามนี้ดังกิ่งไม้เชื่อมต่อร่วมหายใจ น่าจะร่วมมือกันต่อต้านทัพใหญ่ของโจวชิงได้...ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยที่จะโยกย้ายทหารขึ้นเหนือไปช่วยจิ่งอ๋องกับอัครมหาเสนาบดีจี้พ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่เจิ้งยินดี ถามขึ้นทันที

“เช่นนั้นไท่ฟู่คิดว่าจะให้ใครนำทหารห้าหมื่นขึ้นเหนือดี”

ขณะเดียวกัน

ด่านเหิงกู่

“อะไรนะ จี้จงชิงส่งทหารไปโจมตีเมืองหลวงแคว้นเฟิงเฉวี่ยนอีกแล้วหรือ”

พอเจิ้นเป่ยอ๋องได้ยินการรายงานจากกุนซือก็ประหลาดใจฉับพลัน โพล่งปากออกมา

กุนซือผู้โพกผ้าคลุมศีรษะท่วงทำนองไร้ขีดจำกัดพยักหน้าน้อย ๆ ด้วยใบหน้าเลื่อมใส ก่อนจะเอ่ย

“สมกับที่เป็นอัครมหาเสนาบดีจี้แท้ ๆ การวางแผนเช่นนี้ช่างทำให้คนตกใจนัก ทัพใหญ่ของฮูเถี่ยถูจะกลับถึงทางเหนือแล้ว โจมตีเมืองหลวงแคว้นเฟิงเฉวี่ยนยามนี้ เป็นโอกาสดีเยี่ยมที่จะบั่นทอนกำลังแคว้นเฟิงเฉวี่ยนพอดี!”

เจิ้นเป่ยอ๋องนิ่งเงียบอยู่นาน สุดท้ายก็ถอนหายใจเอ่ย

“อัครมหาเสนาบดีจี้สมกับที่เป็นอัครมหาเสนาบดีผู้เลื่องชื่อทุกแว่นแคว้นจริง ๆ มีเขาอยู่ที่ชายแดนทางเหนือ ข้าก็วางใจได้มากแล้ว”

กุนซือพลันตอบ “แต่ จอมทัพ ครั้นฮูเถี่ยถูกลับถึงเหนือ บวกกับทัพใหญ่ของซือหม่าชิงอวิ๋น ชายแดนเหนือจะต้องเผชิญกับการรวมตัวของทัพใหญ่สองแสนกว่าคน เวลานี้ชายแดนเหนือมีกองกำลังอยู่เพียงแสนคน จะต้านทานได้นานเท่าไร น่ากังวลใจจริง ๆ”

เจิ้นเป่ยอ๋องดวงตาลุ่มลึกเอ่ย

“บัดนี้อัครมหาเสนาบดีจี้พิสูจน์แล้วความเป็นอัจฉริยะในเรื่องการทำศึกของเขา สถานการณ์จะไม่ย่ำแย่อย่างที่พวกเราคิดหรอก มีอัครมหาเสนาบดีจี้ดูแลอยู่ที่นั่น อาจรักษาได้ถึงวันที่ข้ากลับเหนือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน