องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 524

มิหนำซ้ำยังจัดการทัพใหญ่หนึ่งหมื่นนายของซือหม่าชิงอวิ๋นได้อีก?

หลี่เจิ้งตกตะลึงจนพูดไม่ออก

เจ้าเด็กคนนี้จัดการเรื่องเก่งจริง ๆ!

นี่เพิ่งจะเท่าไรเอง ด้านหน้าด้านหลังก็ฝังกองทหารทัพศัตรูไปมากมายขนาดนี้แล้ว!

ช่างน่าตกตะลึงจริง ๆ!

“ไท่ฟู่ ที่เจ้าพูดถึงนั่น ใช่พันเซิ่งแม่ทัพแห่งทัพแคว้นเยียนที่ได้ยินมาว่าฝีมือสูสีกับแม่ทัพหวังเซิ่งแห่งราชวงศ์เราใช่หรือไม่?” หลี่เจิ้งเอ่ยถามขึ้น

พันเซิ่งแม่ทัพแห่งทัพแคว้นเยียนผู้นี้ เขาพอจะได้ยินมาบ้าง

เสิ่นคั่วพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ฝ่าบาท คือผู้นี้แหละพ่ะย่ะค่ะ! พันเซิ่งผู้นั้นบัญชาการกองกำลังแปดพันนายคิดจะซุ่มโจมตีกองกำลังสามหมื่นนายของอัครมหาเสนาบดีจี้ สุดท้ายกลับถูกจับกุมแทน”

หลี่เจิ้งอึ้งไป “พันเซิ่งผู้นั้นใจกล้าขนาดนี้เชียวหรือ? หรือว่ามีชื่อเสียงจอมปลอม? แปดพันจะขวางสามหมื่นได้อย่างไร?”

เสิ่นคั่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะทีหนึ่ง น้ำเสียงเหยียดหยามอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ไม่ใช่เพียงแค่พันเซิ่งไร้ความสามารถ แต่เป็นตาเฒ่าจี้จงชิงเล่นงาน ถึงได้วางกองกำลังให้เห็นแค่สามพันคน”

“ฮ่า ๆ ๆ”

หลี่เจิ้งหัวเราะร่าขึ้นมาในทันใด ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “อัครมหาเสนาบดีจี้สมแล้วที่เป็นอัครมหาเสนาบดีจี้! ฮ่า ๆ ๆ เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ พื้นที่ทางเหนือมีอัครมหาเสนาบดีจี้กับจิ่งอ๋อง ข้าก็วางใจแล้ว!”

เสิ่นคั่วพูดต่อว่า “จิ่งอ๋องให้ซือหม่าชิงอวิ๋นเอาม้าศึกห้าร้อยตัวมาแลกกับตัวเขา และยังให้ซือหม่าชิงอวิ๋นเอาม้าศึกหนึ่งพันตัวมาไถ่ตัวเชลยเหล่านี้ไป ฝ่าบาทพระองค์ว่านี่...”

หลี่เจิ้งขมวดคิ้วขึ้นมาในทันใด ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เชลยศึกก็ต้องส่งไปเข้าร่วมทัพทาส เอาม้าศึกเพียงหนึ่งพันตัวมาแลกจะมีประโยชน์อันใด? มีเพียงพันเซิ่งนั่น ซือหม่าชิงอวิ๋นนั่นกล้าใช้ม้าศึกห้าร้อนตัวมาแลกเปลี่ยน แลกไปแล้วอย่างไร?”

แม้พันเซิ่งจะแข็งแกร่ง แต่หลี่เจิ้งก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา

เอามาแลกกับม้าศึกห้าร้อยตัว ดีกว่าข้อดีที่ได้จากการฆ่าพันเซิ่งทิ้งและหักแขนทัพศัตรูอยู่ถมเถ

เสิ่นคั่วครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้า เขาเพียงแค่พูดไปอย่างนั้นเท่านั้นเอง หากหลี่จุ่นต้องการแลกเปลี่ยน แล้วหลี่เจิ้งจะว่าอะไรได้?

เดิมทีเจ้าเด็กคนนี้ก็ไม่เชื่อฟังเสด็จพ่อที่สงสัยว่าจะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ อยู่แล้ว หลี่เจิ้งเองก็ยุ่งไม่ได้

ในใจเสิ่นคั่วแขวะขึ้นมา จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอีกว่า

“จริงสิ ฝ่าบาท อ่านจากข้อความในจดหมายลับของท่านอัครมหาเสนาบดีจี้ จิ่งอ๋องยังจับไทเฮาที่ว่าราชการหลังม่านแห่งแคว้นเฟิงเฉวี่ยนผู้นั้นมาเป็นเชลยอีกด้วย จิ่งอ๋องให้ฮูเถี่ยถูเอาม้าศึกหนึ่งพันตัวมาแลกตัวนางกลับไป อัครมหาเสนายดีจี้กลัวว่าฮูเถี่ยถูจะตอบตกลง จึงให้กระหม่อมกับฝ่าบาทออกความคิด จะให้คนผู้นั้นกลับไปง่าย ๆ เช่นนั้นไม่ได้”

หลี่เจิ้งฟังแล้วก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอึ้งทึ่ง “เยี่ยมเลยเจ้าเด็กคนนี้ ไม่นึกเลยว่าจะจับผู้หญิงคนนั้นมาด้วย!”

ไทเฮาที่ว่าราชการหลังม่านแห่งแคว้นเฟิงเฉวี่ยนผู้นั้น เรียกได้ว่าเป็นความทุกข์ใจของหลี่เจิ้งอย่างหนึ่ง

ชวนให้คนปวดหัวอยู่เล็กน้อยจริง ๆ

หลี่เจิ้งเงียบไม่พูดไม่จาไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามว่า “เช่นนั้น...ไท่ฟู่เห็นว่าควรทำเช่นไรดี?”

เสิ่นคั่วพลันชำเลืองมองหวังเหลียนทีหนึ่ง ก่อนจะเข้าไปใกล้ข้างหูหลี่เจิ้ง แล้วกระซิบกระซาบอยู่ข้างหู

เมื่อหลี่เจิ้งได้ฟังก็มีสีหน้าประหลาดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะชำเลืองมองหวังเหลียนอีกทีหนึ่ง หวังเหลียนถูกมองจนอยู่ไม่สุขขึ้นมานิดหน่อย จากนั้นหลี่เจิ้งถึงจะพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง

“อืม ไท่ฟู่กับอัครมหาเสนาบดีจี้ตามสบายเถิด เรื่องนี้ข้าจะไม่ยุ่ง”

กลยุทธ์ทำร้ายอยู่ลับหลังเช่นนี้จะให้มาพัวหันถึงตัวเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหากแพร่ออกไป เขาที่ปเนฮ่องเต้ก็จะขายหน้าจนหมด

ฉะนั้น เขาจะยุ่งไม่ได้

เสิ่นคั่วลูบจมูก แอบเหยียดหยามในที่ลับ

ฝ่าบาทของตนช่างไร้ยางอายจริง ๆ หากมีเรื่องเลวร้ายก็จะออกมาให้พ้นตัว แต่เสิ่นคั่วเห็นจนเคยชินเลยรู้สึกเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จึงไม่เซ้าซี้ในเรื่องนี้

เขาครุ่นคิด เช่นนั้นก็ให้จี้จงชิงทำตามวิธีของตนเองละกัน

ถึงอย่างไร หลี่เจิ้งเองก็อนุญาตอย่างลับ ๆ แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน