บนเขาเฟิงโหยวในเวลานี้ แม้คนจะถูกปล่อยตัวกลับมาแล้ว แต่บรรยากาศนั้นกลับเต็มไปด้วยความกดดัน
บนเขานั้นมีศพอยู่ทุกหนทุกแห่ง ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเหล่าสหายบนเขา มีเพียงจำนวนเล็กน้อยที่เป็นคนจากกองทัพเจิ้นเป่ย
ศพทหารของกองทัพเจิ้นเป่ย ถูกกองทัพเจิ้นเป่ยขนย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้แต่ศพของโจรขี่ม้าที่ระเกะระกะเต็มภูเขา
อารมณ์ของนายท่านทั้งหลายนั้นไม่สู้ดีนัก เรียกให้คนมายกศพของเหล่าพี่น้องไปเผา แลเห็นไฟลุกโชนศพกองแล้วกองเล่า
ควันไฟจากเปลวเพลิงนั้นลอยอยู่ตลอดทั้งคืน
“บาดเจ็บล้มตายไปเท่าใดกันหรือ”
ขาที่หักไปของผู้นำใหญ่นั้นได้รับการรักษาแล้ว ตอนนี้จึงใช้ไม้เท้าพยุง เขานั่งลงบนเก้าอี้ผู้นำด้วยสีหน้าเคร่งขรึมพลางเอ่ยถามสถานการณ์กับหัวหน้ากลุ่มระดับรองลงไป
หัวหน้ากลุ่มคนนี้ก็คือพี่หู่ เพราะพี่หู่ถูกฟันในระหว่างการต่อสู้ครั้งก่อน ตอนนี้เขาจึงไม่สามารถใช้แขนซ้ายได้ชั่วคราว แขนข้างนั้นถูกมัดและคล้องไว้กับลำคอ ส่งผลให้ชายหนุ่มไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย
พี่หู่จึงตอบกลับ “รายงานผู้นำใหญ่ ตาย... ตายไปสามพันห้าร้อยกว่าคน บาดเจ็บไปหนึ่งพันกว่าคนขอรับ...”
บัดซบยิ่งนัก !
บนภูเขาแห่งนี้มีคนอยู่เพียงราว ๆ ห้าพันคน เมื่อรวมกับสตรีและเด็กก็มีจำนวนเพียงหกพันกว่าคนเท่านั้น ตอนนี้กลับโดนกำจัดรวดเดียวถึงสามพันห้าร้อยกว่าคน แล้วยังบาดเจ็บมากกว่าหนึ่งพันคน เท่ากับว่าบนเขาแห่งนี้เหลือเพียงไม่ถึงหนึ่งพันคนเท่านั้นที่สามารถต่อสู้ได้
อนาถ...
อนาถเหลือเกิน... !
เพียงกองทัพเจิ้นเป่ยบุกมา ก็ทำให้การบริหารนับสิบกว่าปีแทบจะสูญเปล่าในทันที...
ผู้นำใหญ่ถึงกับเอามือกุมหน้าพลางทอดถอนใจในทันที
หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรก คงยอมยกธงขาวไปแล้ว...
ผู้นำใหญ่ในยามนี้เริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้าง เขามองดูเหล่าพี่น้องแต่ละคนที่มีสีหน้าเสร้าหมองอย่างเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากพูดอย่างไรดี
ในทางกลับกัน ผู้นำสี่กลับจ้องให้พี่หู่ถอยออกไป ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่ผู้นำสามกะทันหัน และเอ่ยถามด้วยท่าทีการสอบสวน
“พี่สาม พี่บอกมาตามตรงดีกว่า พี่เป็นคนหักหลังพวกเราใช่ไหม ! พี่เอาความลับของเราไปบอกไอ้หนุ่มหน้าขาวนั่นหมดใช่หรือไม่ ?”
เมื่อเอ่ยขึ้นเช่นนี้
ทั้งผู้นำรองและผู้นำสามต่างก็หันมามองผู้นำสามที่เสียงดังในทันที แม้แต่ผู้นำห้าก็แอบเงยหน้ามองเช่นกัน
นับได้ว่าผู้นำสามนั้นโชคดีที่สุดในบรรดาผู้นำทั้งห้า
แม้ว่านางจะตีขาตัวเองจนหัก แต่เป็นเพราะนางแอบใช้วิชาเฉพาะอัน ทำให้นางพักรักษาตัวเพียงสิบกว่าวันก็สามารถเดิน กระทั่งวิ่งได้ตามปกติ
นางจำได้แจ่มชัดว่าอีกฝ่ายเรียกพี่ใหญ่เข้าไปพูดไม่พี่คำ ก็ตีจนขาหัก แล้วยังตีขาพวกเขาจนหักเสียอีก
ในยามนี้ ทั้งผู้นำใหญ่และผู้นำรองต่างก้หันไปมองผู้นำห้า
ผู้นำใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ
“น้องห้า เจ้าอย่าได้พูดซี้ซั้วเชียวนะ อย่าได้คิดใส่ร้ายพี่สามของเจ้าเชียว”
แม้จะพูดไปเช่นนั้น แต่ทุกคนต่างก็เข้าใจในเจตนาที่ผู้นำใหญ่ต้องการสื่อดี
ความหมายก็คือ ผู้นำห้าต้องพูดความจริงว่าผู้นำสามได้นำข้อมูลของผู้นำใหญ่ไปเปิดโปงให้อีกฝ่ายฟังหรือไม่ เหตุใดเพียงผู้นำใหญ่พยักหน้าก็ถูกตีจนขาหักเสียแล้ว
ในใจของผู้นำใหญ่ย่อมมีข้อสงสัย เพราะการที่ถูกตีจนขาหักทั้ง ๆ ที่ทำเพียงพยักหน้านั้น ดูแปลกมากเกินไปเสียหน่อย
ตามวิถีโจรแล้ว ยามผลประโยชน์อยู่ตรงหน้าย่อมต้องเห็นแก่คุณธรรม แต่หากความเป็นตายอยู่ตรงหน้า เช่นนั้นก็ต้องเห็นชีวิตมาก่อนเสมอ
ผู้นำสามหันมองน้องห้าทันที ก่อนจะใช้ภาษาราชวงศ์อู่พูดกับอีกฝ่าย
“น้องห้า เจ้าอย่าลืมเสียเล่า ครั้งก่อนตอนที่เจ้าแอบมองพี่สี่ของเจ้าอาบน้ำ ข้าเป็นคนแก้ปัญหาให้เจ้า... ครั้งนี้หากเจ้าช่วยพี่ปิดบัง วันหน้าเจ้ามาที่ห้องพี่ได้เสมอ !”
พูดพลางก็เอามือตบอกที่แน่นปึกของตัวเองพลาง !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...