องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 609

ในคืนนั้น

ซือหม่าเหย่เรียกทุกคนเข้ามาหารือ จากนั้นก็ออกจากแคว้นเฟิงเฉวี่ยนไปทันที

ในเมื่อฮูเถี่ยถูบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งกองทัพเฟิงเฉวี่ยนก็บาดเจ็บล้มตายกันไปเกินครึ่ง เช่นนั้นแล้วกองทัพเจิ้นเป่ยต้องไม่พลาดโอกาสครั้งนี้อย่างแน่นอน พวกเขาต้องรีบรุดไปถึงก่อนอีกฝ่ายและยึดกองกำลังของฮูเถี่ยถูเสีย

ทัพเยียนกว่าหกหมื่นนาย รีบเร่งเดินทางไปที่เมืองหลวงของแคว้นเฟิงเฉวี่ยนทันที !

ในเวลานี้เอง

จงจื่อหนิงก็ควบม้าขาวนำทหารฝีมือดีห้าพันนายไปเอาชนะพวกกองโจรทีละกลุ่ม จนสุดท้ายก็จู่โจมมาจนถึงเขาผิงชิว

บนเขาผิงชิวนั้นมีโจรอยู่สองพันคน พอเห็นกองทัพนับห้าพันนายเข้ามาล้อมก็พากันงงงัน หัวหน้ากองโจรอย่างจู่เหล่าซานตกใจจนยอมเดินออกมาแสดงเจตจำนงยกธงขาวด้วยตนเอง

ช่วงสองวันมานี้ จูเหล่าซานนอนไม่ค่อยหลับสักเท่าไร เขาได้ยินมาว่ากองทัพเจิ้นเป่ยนับแสนนายเผาเขาเฟิงโหยวไปจนหมด จากนั้นยังไล่ต้อนกวาดล้างกองโจรขี่ม้าอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขากลัวมากจนไม่กล้าออกไปไหน

แต่ในที่สุดก็มาถึงตาเขาอยู่ดี เขาได้ยินเสียงคนท้าสู้อยู่ข้างนอกตอนกลางดึก เมื่อเดินออกไปก็เห็นว่าข้างนอกมีคบไฟสว่างไสว ธงโบกสะบัด พลังอำนาจที่แข็งแกร่งอยู่รวมกัน นั่นก็คือกองทัพเจิ้นเป่ย !

ซ้ำยังมีแต่ผู้คนแน่นหนาเต็มไปหมด !

บัดนั้น จูเหล่าซานไม่เพียงแต่ไม่ต่อต้าน แต่ยังยอมแพ้แต่โดยดี

“นายท่าน โปรดยั้งมือด้วย ๆ”

จูเหล่าซานตะโกนร้อง พลางพาบรรดาลูกน้องของตนเดินตามมาอย่างว่าง่าย พร้อมปลดอาวุธและถอดชุดเกราะออก

หากต่อต้านคงไม่รอด แต่ถ้ายอมแพ้อาจรอดได้

ได้ยินว่าพวกกองโจรที่เขาเฟิงโหยวนั้นโดนสังหารไปเกินครึ่งเพราะต่อต้าน ต่อมาเพราะยอมจำนนจึงได้รอดมาได้

“อืม นับว่าพวกเจ้าอยู่เป็น !”

จงจื่อหนิงที่อยู่บนหลังม้านั้นดูน่าเกรงขาม เมื่อรูปร่างที่กำยำของจูเหล่าซานแล้วก็คิดทันทีว่าน่าจะเป็นคนมีฝีมือ จึงถามด้วยรอยยิ้ม

“บอกมาซิว่าเจ้าอยากตายหรืออยากรอด”

จูเหล่าซานจึงรีบตอบทันที “อยากรอดขอรับ อยากรอด ท่านแม่ทัพ พวกข้าไม่อยากตาย !”

เพื่อเอาชีวิตรอด จูเหล่าซานถึงกับเปลี่ยนไปเรียกอีกฝ่ายว่า “แม่ทัพ” เลยทีเดียว

จงจื่อหนิงได้ยินดังนั้นก็พอใจเป็นอย่างยิ่ง รีบหยิบรูปวาดของเสิ่นจิงหงแล้วยื่นออกไปถามอีกฝ่าย

“เคยเห็นสตรีผู้นี้หรือไม่ ? ตอบมาตามตรง มิเช่นนั้นข้าจะแทงเจ้าซะ !”

จูเหล่าซานรีบพยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นมือไปรับภาพวาดนั้นมามองด้วยความรวดเร็ว แต่เพียงได้มองเขาก็ตกตะลึงทันที

ช่างเป็นสตรีที่งดงามยิ่งนัก !

เดี๋ยวสิ ทำไมผู้หญิงคนนี้จึงอยู่ในรูปวาดได้เล่า ?

จูเหล่าซานนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อพิจารณาดูถี่ถ้วนแล้วจึงค่อยรู้ว่านี่เป็นเพียงภาพวาด เล่นเอาเขาตกใจเสียยิ่งกว่าอะไร

จงจื่อหนิงชักทวนกลับมา คิ้วขมวดเข้าหากัน

รังโจรในทางเหนือถูกเขากำจัดเสียจนหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอตัวเสิ่นจิงหงอยู่ดี

เมื่อเขาลองนึกตรองดูแล้ว ก็รีบออกคำสั่งทันที “ทหาร เข้าไปค้นซะ หากว่าพบร่องรอยของแม่นางเสิ่น ให้รีบกลับมารายงานข้า !”

“ขอรับ !”

เหล่าทหารที่อยู่เบื้องหลังพากันขานรับจากรอบด้านอย่างแข็งขัน แล้วพากันบุกค้นรังโจรแห่งนี้ทันที

ทว่า อย่าว่าแต่หญิงงามอย่างเสิ่นจิงหงเลย แม้แต่คนที่อายุน้อยหน่อยก็ยังไม่พบ ในค่ายมีแต่หญิงวัยกลางคนที่นั่งขดตัวอยู่ริมเตียงด้วยความกลัว

ล้วนแต่เป็นผู้หญิงในวัยที่สามารถเป็นแม่ของตนได้ ยังมีอีกสองสามคนที่สามารถเป็นยายได้เลยทีเดียว...

ทันใด เหล่าทหารเจิ้นเป่ยก็พากันถอยออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรายงานให้จงจื่อหนิงทราบ เขาเองก็มีสีหน้าแปลกใจเช่นกัน

คิดไม่ถึงว่า เจ้าโจรนี่จะมีรสนิยมเช่นนี้ !

“ท่าน... ท่านแม่ทัพ... นี่... นี่ท่านก็เห็นแล้ว พวกเราไม่เคยเจอสาวงามผู้นี้จริง ๆ...” จูเหล่าซานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหวั่นเกรง

จงจื่อหนิงสบถออกมาคำหนึ่งแล้วก็เอ่ยถามขึ้น “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าในแดนเหนือนี้ยังมีโจรที่ไหนอีก ? บอกชื่อที่ข้ายังไม่ไปปราบมาสักแห่งซิ !”

จูเหล่าซานนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นมา

“เรื่องนี้... ท่านแม่ทัพ หากพวกท่านจะตามหาผู้หญิงในภาพนี้ บางทีอาจต้องลองเสี่ยงตามหาในทัพเฟิงเฉวี่ยนดู มีพวกนายพลในกองทัพที่มักพาตัวผู้หญิงไปอย่างลับ ๆ ไม่แน่ว่าผู้หญิงในภาพนี้อาจจะ..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน