องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 632

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม

บนใบหน้าของทัวทัวเต็มไปด้วยความพอใจ ทั่วทั้งใบหน้าขาวละมุนแดงระเรื่อ พาดตัวอยู่บนอกของหลี่จุ่นอย่างขี้เกียจ

ทั้งสองคนโอบกอดกันแน่นราวกับอยากจะสิงเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย

ไม่มีใครพูดอะไร เพลิดเพลินกับความอบอุ่นของกันและกันไปเงียบ ๆ ทั้งอย่างนี้

“ทัวทัว ท่านตามอาหยวนไปเมืองหลวงเถอะ” จู่ ๆ หลี่จุ่นก็พูดขึ้น

“หืม?!”

สีหน้าของทัวทัวเปลี่ยนไปในทันใด อาการขี้เกียจพลันหายไป ค้ำร่างกายที่ขาวดุจหิมะขึ้นมาครึ่งหนึ่ง นางมองไปที่หลี่จุ่น แล้วเอ่ยถามว่า

“หมายความว่าอะไร?”

หลี่จุ่นดึงนางไปบนหน้าอกของตัวเองอีกครั้ง มองดวงตาทั้งสองข้างของนาง เอาปีกจมูกไปแนบติดกับปีกจมูกของนางอย่างสนิทสนม ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ข้ากับอัครมหาเสนาบดีจี้เตรียมจะเปิดศึกครั้งสุดท้ายกับซือหม่าชิงอวิ๋น พยายามจบเรื่องสงครามของชายแดนเหนือภายในเวลาสิบวัน”

ทัวทัวรีบเอ่ยขึ้นว่า “เช่นนั้นข้าอยู่ที่นี่แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน? ข้าไม่อยากไป ข้าอยากอยู่กับท่าน”

หลี่จุ่นพลันยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ข้าเองก็อยากอยู่กับท่านเช่นกัน”

“จริงหรือ?” นัยน์ตาของทัวทัวเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว”

มุมปากของหลี่จุ่นเองก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เพราะฉะนั้น เพื่อให้ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นในวันข้างหน้า ท่านกับอาหยวนไปรอข้าอยู่ที่เมืองหลวงเถิด รอข้าเสร็จเรื่องทางนี้ ข้าจะกลับไปหาพวกท่านที่เมืองหลวง”

ความปลื้มปีติบนใบหน้าของทัวทัวค่อย ๆ หายไป นางมองดวงตาของหลี่จุ่น ถอนหายใจ ก่อนจะถามขึ้นอย่างเสียสติ

“ไม่ไม่ได้หรือ?”

หลี่จุ่นประคองใบหน้าของนางที่ตรงกับรสนิยมของตนพอดี แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า

“ข้ารับปากท่าน ว่าจะกลับไปเมืองหลวงอย่างแน่นอน”

ทัวทัวบุ้ยปาก ก่อนจะรีบจูบลงบนริมฝีปากของหลี่จุ่น แล้วขึ้นคร่อมอีกครั้ง

ในเมื่อต้องพรากจากกัน ครั้งนี้จึงเร่าร้อนเป็นพิเศษ

ไม่นานก็ตกเข้าสู่ห้วงลึกแห่งความสุขดังเดิมอีกครั้ง

วันรุ่งขึ้น

ทัวทัวกับอาหยวนก็ออกไปจากเมืองโดยตามคาราวานพ่อค้าลงใต้ไป

หลี่จุ่นยืนมองส่งทั้งสองสาวจากไปอยู่ที่ประตูเมือง อาหยวนอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างยิ่ง เบ้าตาอดไม่ได้ที่จะแดงระเรื่อ ทัวทัวเองก็เงียบผิกปกติอย่างเห็นได้ชัด

ว่ากันตามเหตุผลแล้วทางด่านเหิงกู่ถึงจะเป็นเรื่องกระชั้นชิดที่สุด อาจจะถูกตีแตกได้ทุกเมื่อเลยนะ!

เมื่อได้ฟังคำถามของจี้จงชิง หลี่จุ่นก็ครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“อัครมหาเสนาบดีจี้บอกว่าเจิ้นเป่ยอ๋องจะไม่มีทางหักหลังราชวงศ์อู่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นก็ย่อมตอ้งต่อสู้จนทหารเหลือน้อยหรือเป็นคนสุดท้าย กระทั่งตัวเองก็ตายไปในสนามรบเช่นกัน...ที่บังเอิญก็คือ ข้าชอบที่จะเห็นภาพนี้เป็นอย่างมาก”

ใบหน้าของจี้จงชิงพลันเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เห็นแววตาของหลี่จุ่นเปลี่ยนไปเป็นเหี้ยมโหดสุด ๆ

“ฮ่า ๆ ๆ!”

เมื่อหลี่จุ่นเห็นปฏิกิริยาของจี้จงชิง ทว่าจู่ ๆ กลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“อัครมหาเสนาบดีจี้ ไม่นึกเลยว่าท่านจะหลอกง่ายถึงเพียงนี้! แน่นอนว่าเป็นเพราะโจวชิงจัดการได้ง่าย แต่ทัพแคว้นจ้าวจัดการได้ยาก หาไปช่วยเจิ้นเป่ยอ๋องทำศึกก็มีแต่จะเข้าสู่ทางตัน แต่หากช่วยเหยียนอ๋อง ไม่นานก็จะได้จบศึก!”

“โจวชิงจัดการง่ายอย่างนั้นหรือ?”

เห็นได้ชัดว่าจี้จงชิงฉุนเฉียวอยู่เล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็แสยะยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “นี่เป็นเรื่องตลกที่ตลกที่สุดที่ข้าเคยได้ยินมาในชีวิตนี้ หากประเมินโจวชิงต่ำไป ท่านก็มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีทางรู้ว่าตัวเองจะตายอย่างไร!”

รอยยิ้มที่มุมปากของหลี่จุ่นก็กลายเป็นอำมหิตขึ้นเล็กน้อย เขาเอ่ยขึ้นว่า

“อัครมหาเสนาบดีจี้ เช่นนั้นข้าขอพนันกับท่าน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน