ซือหม่าชิงอวิ๋นกล่าวทันที
“ทหาร แบกข้าไปให้ที่สนามรบ โจรจี้ข่มเหงข้าแบบนี้ ข้าจะฟันกองกำลังของเขาให้ขาดเป็นชิ้น ๆ!”
คนจำนวนหนึ่งเข้ามาจากด้านนอกเต็นท์ทันที และยกซือหม่าชิงอวิ๋นและหลานชายขึ้นบนเปลหามตรงไปยังทางเข้าค่ายทหาร
นอกค่ายทหาร
หลี่จุ่นขี่ม้าและหัวเราะขณะที่มองดูจูเหล่าซานขี่ม้าและตะโกนร้องท้าทายอยู่ด้านหน้า
จากคำบอกเล่าของหม่าหยวนฮั่น จูเหล่าซานก็มีฝีมือ แม้ว่าจะไม่ดีเท่าหนึ่งถึงสองในสิบของเขา แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้มีฝีมืออันดับต้น ๆ ในกองทัพนี้
ให้เขาไปตะโกนท้าทายน่าจะดีกว่า ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะสู้หรือจะถอยก็ได้
จูเหล่าซานรู้สึกหวาดกลัวในใจ แต่หลี่จุ่นกำลังเฝ้าดูอยู่ทางด้านหลัง เขาจึงไม่กล้าทำส่ง ๆ และตะโกนโห่ร้อง!
หลังจากตะโกนอยู่นาน อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะมีผู้บัญชาการระดับสูงที่มีความเก่งกาจกว่า ทันทีที่ตะโกนออกไป แม่ทัพนายหนึ่งก็ขี่ม้าศึกพุ่งออกมา ถือทวนวงเดือนอยู่ในมือแล้วตะโกนด้วยความโกรธ
“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”
แต่ทว่า!
จูเหล่าซานฟังภาษาแคว้นเหยียนไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเรียกอะไร แต่ในตอนนี้อีกฝ่ายจะพูดอะไรดี ๆ ได้หรือ
อาจจะเป็นคำด่า
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเดาเลย สิ่งที่จูเหล่าซานคิดว่าอีกฝ่ายคงกำลังว่าบุพการีของตัวเองอยู่นั้นถูกแล้ว จูเหล่าซานหยิบดาบเล่มใหญ่ในมือขึ้นมาทันทีพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับตะโกน
ต่อหน้ากองทัพทั้งสองฝ่าย จูเหล่าซานและแม่ทัพใหญ่ของอีกฝ่ายเริ่มปะทะกันอย่างดุเดือดทันที ซึ่งทำให้หลี่จุ่นและคนอื่น ๆ ที่มองดูอยู่รู้สึกตื่นเต้น
น่าเสียดายที่จูเหล่าซานและอีกฝ่ายต่อสู้กันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรกันได้
สุดท้ายหลี่จุ่นก็สั่งคนตีฆ้องและเรียกจูเหล่าซานกลับมา
จูเหล่าซานถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกทันทีและหันหลังม้ากลับมาทันที
แม้ว่าแม่ทัพใหญ่ของคู่ต่อสู้จะไม่ได้มีวรยุทธ์ที่เก่งกาจเท่าตัวเอง แต่เขาก็มีประสบการณ์มากมายในสนามรบ เขาจึงไม่สามารถรับมือในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้
“ไม่เลว ทำได้ดีมาก!”
หลี่จุ่นกล่าวชื่นชม
จูเหล่าซานรู้สึกใจเบ่งบาน และรู้สึกว่าการเดินทางของเขาในครั้งนี้คุ้มค่า
ในขณะนี้ก็ได้เกิดความวุ่นวายอีกครั้งในค่ายทหารของอีกฝ่าย จากนั้นก็เห็นกลุ่มคนตรงนั้นแหวกทางออกขึ้นอีกครั้ง และมีคนสองคนถูกหามออกมา!
หลี่จุ่นและคนอื่น ๆ เห็นว่าคนที่อยู่รอบ ๆ หันหน้าไปทางคนสองคนบนเปลหามด้วยความเคารพ และดูเหมือนจะตะโกนเรียกชื่ออย่างเคารพ
เจ้าอ้วนหลิวรีบสั่งกำชับหน่วยมือระเบิดของตัวเองทันที
“ระวังด้วย อีกฝ่ายเตรียมวางแผนที่จะถ่วงเวลาพวกเจ้าไว้ จากนั้นก็จะระดมทัพเพื่อตัดทางหนีทีไล่ของพวกเจ้า”
จู่ ๆ หม่าหยวนฮั่นที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้น
“หืม?”
หลี่จุ่นรู้สึกประหลาดใจและหันไปมองหม่าหยวนฮั่น “พี่หม่า ท่านเข้าใจภาษาของอีกฝ่ายหรือไม่”
หม่าหยวนฮั่นดูนิ่งเฉย แต่น้ำเสียงกลับดูโอหัง
“เป็นธรรมดา มันเป็นเพียงภาษาแคว้นเหยียน ข้าเคยอยู่ในแคว้นเหยียนมาแล้วห้าปีเพื่อสังหารคน”
ทันใดนั้นหลี่จุ่นก็รู้สึกยินดีมากและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ท่านสามารถบอกได้หรือไม่ว่าจากการสนทนาของพวกเขาผู้ใดคือซือหม่าชิงอวิ๋น”
หลี่จุ่นรู้ว่าความสามารถในการฟังของคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มานั้นดีมาก ๆ โดยเฉพาะบุคคลระดับชั้นแนวหน้าอย่างหม่าหยวนฮั่นที่ต้องมากกว่าแน่นอน
ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไร ท้ายที่สุดแล้วเขาจะไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย และได้แค่มองเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนกำลังพูดอยู่
หม่าหยวนฮั่นพยักหน้าและพูดว่า “คนทางขวาคนนั้น เสียงค่อนข้างแก่กว่า และส่วนใหญ่เขาจะเป็นผู้ออกคำสั่ง”
“ดี!” หลี่จุ่นพอใจมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...